บทที่ 10
จ้าวตงหยางถอนหายใจ ก่อนจะมองสหายอย่างสำนึกผิด
"เป็นข้าที่ผิด แต่ข้ารับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้กับนางอีกแล้ว" สีหน้าของหลิวเหล่ยจึงอ่อนลง เขาพยักหน้ารับแต่ก็มิได้วางใจนัก
หลิวเหล่ยเดินไปนั่งรอท่านหมอที่ดูอาการของจินเยว่ในห้องโถง จ้าวตงหยางมองสหายของตนอย่างไม่เข้าใจ
"เหตุใดเจ้าจึงยังมิกลับ"
"ข้าจะรอแม่นางเสวี่ยได้สติแล้วพานางไปส่งที่เรือนของนาง" อารมณ์ของจ้าวตงหยางที่สงบในตอนแรก ตอนนี้เริ่มจะโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
"เจ้ากลัวข้าจะทำอันใดนาง" เขาเอ่ยถามสหายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
หลิวเหล่ยปรายตามองแต่มิได้พูดอันใด ในจวนของเจ้านางเจ็บตัวถึงสองครั้ง หากคนไม่โง่แค่มองก็รู้ว่าหากทิ้งนางให้อยู่ต่อคงได้เกิดเรื่องอีก
ก่อนที่จ้าวตงหยางจะเอ่ยปากไล่สหายของตนอีกครั้ง หมอที่ตรวจดูอาการของจินเยว่ก็เดินออกมาขัดเสียก่อน
"ท่านหมอแม่นางเสวี่ยเป็นเช่นใดบ้าง" หลิวเหล่ยเอ่ยถามตัดหน้าจ้าวตงหยาง
"หึ" จ้าวตงหยางแค่นเสียงแล้วนั่งลงเช่นเดิม เขาทำทีเป็นยกชาขึ้นจิบไม่สนใจบทสนทนาตรงหน้า แต่ใบหูของเขาก็จดจ่อถ้อยคำของท่านหมอทุกคำ
"แน่นางเสวี่ยอาจจะมึไข้สูงในคืนนี้ บาดแผลมิได้บาดเจ็บถึงกระดูก พักสิบวันก็หายดี"
"เรื่องรอยแผลจะหายหรือไม่" หลิวเหล่ยกังวลแทนจินเยว่
"ท่านกุนซือมิต้องห่วง ข้าทิ้งยาไว้ให้แล้ว หากแม่นางเสวี่ยทาติดต่อกันสองเดือนรับรองว่าจะไม่ทิ้งรอยแผลไว้ขอรับ" หลิวเหล่ยให้เสี่ยวหงไปส่งท่านหมอ เขาเดินเข้าไปดูจินเยว่ในห้อง แต่ก็ช้าไปกว่าจ้าวตงหยางที่ตอนนี้ยืนมองจินเยว่อยู่ข้างเตียง
"เจ้ามีสิ่งใดต้องไปทำก็ไปเถิด ประเดี๋ยวนางตื่นข้าไปส่งนางเอง" จ้าวตงหยางเอ่ยขึ้นโดยมิได้หันไปมองหลิวเหล่ย
"มิต้องรบกวนท่านแม่ทัพหรอกเจ้าค่ะ ข้ากลับเองได้" จินเยว่ที่ได้สติตอนที่จ้าวตงหยางพูดกับหลิวเหล่ยนางจึง พูดขึ้นมาแทน
แม้จะเจ็บปวดจนแทบจะลุกไม่ขึ้น แต่นางไม่อยากจะอยู่ในจวนแม่ทัพอีกต่อไปแล้ว จินเยว่จึงกัดฟันแน่นพยุงตัวลุกขึ้น จ้าวตงหยางเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปประคองทันที แต่นางก็เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็วจนแผลที่หมอทำไว้ปริออกอีกครั้ง
"อ๊าาาา" นางร้องออกมาเบาๆ บุรุษทั้งสองที่ได้ยินถึงกับหน้าแดงทันที เสียงร้องของนางมันช่าง
"แม่นางเสวี่ยระวังเสียหน่อย แผลของเจ้าปริออกจนเลือดซึมอีกแล้ว" หลิวเหล่ยพูดขึ้น แต่เขายังไม่กล้าจะเข้าใกล้นาง เพราะใบหูของตนยังไม่หายแดง
เสี่ยวหงที่ส่งท่านหมอกลับไปแล้วก็เข้ามาทันได้ช่วยเหลือจินเยว่พอดี จึงลดความกระอักกระอ้วนของบุรุษทั้งสองลงได้ จ้าวตงหยางสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะสั่งให้คนของตนเตรียมรถม้าไปส่งจินเยว่
"เจ้าพาสาวใช้อีกสองคนตามนางกลับไปด้วย" จ้าวตงหยางหันไปสั่งกับเสี่ยวหง เพราะเรือนของนางมิมีบ่าวคอยรับใช้ ทั้งหมดเป็นจินเยว่ที่ทำ ตอนนี้นางทำอันใดมิได้ หากต้องให้มารดาขอนางงนางทำงานแทน นางคงต้องฝืนทำอีกเช่นครั้งที่แล้วแน่
"มิต้องเจ้าค่ะ เรือนของข้าเล็กนัก มิรบกวนคนของท่านแม่ทัพ" จินเยว่อยากจะไปให้พ้นจากเขาโดยเร็ว นางมิต้องการให้เขามาเกี่ยวข้องกับนางอีก
"แม่นางเสวี่ยข้าส่งคนไปช่วยมารดาเจ้าที่เรือนดีหรือไม่ เพียงทำความสะอาด ทำอาหารแล้วกลับเท่านั้น" จินเยว่คิดเพียงครู่ก็พยักหน้ารับความหวังดีของหลิวเหล่ย
จ้าวตงหยางกัดฟันข่มโทสะของตน นางยอมรับความหวังดีของหลิวเหล่ย แต่มิยอมรับของเขา เรื่องนี้เขาอยากจะพังข้าวของในห้องเสียให้ราบแต่ก็ทำได้เพียงจ้องมองนางเท่านั้น
เสี่ยวหงพาจินเยว่มาส่งด้วยตัวเอง ก่อนนางจะถึงเรือน นางขอให้เสี่ยวหงแต่งหน้าให้นางดูไม่ซีดจนเกินไป เมื่อถึงเรือนนางก็ไม่ให้เสี่ยวหงประคอง นางพยายามเดินอย่างปกติเข้าไปทักทายบิดามารดา แล้วรีบกลับเข้าห้องของตน
เสี่ยวหงมองจินเยว่อย่างปวดใจ เหตุใดคุณหนูเช่นนางจึงได้เข้มแข็งถึงเพียงนี้ เสี่ยวหงส่งจินเยว่ที่ห้องของนางก็พาคนของหลิวเหล่ยไปแนะนำตัวกับเกาซื่อ นางบอกเกาซื่อว่า
"ท่านกุนซือหลิว ส่งคนมาช่วยทำความสะอาดเรือน และทำอาหาร ให้ไปกลับทุกวันเจ้าค่ะ ท่านกุนซือหลิวเห็นใจแม่นางเสวี่ยที่ทำงานหนักเท่านั้นเจ้าค่ะ" เกาซื่อมิได้ติดใจอันใด มีคนมาช่วยบุตรสาวมิต้องให้ทำงานหนักนางก็พอใจแล้ว แต่เสวี่ยป๋อเหวินแปลกใจที่อยู่ดีดีหลิวเหล่ยจะส่งคนมาด้วยเหตุใด
ในเมื่อบุตรสาวมิได้พูดสิ่งใด ทุกอย่างดูเป็นปกติ มีเพียงสีหน้าที่เหน็ดเหนื่อยเท่านั้น เขาจึงไม่ได้ไปพบจินเยว่เพื่อสอบถาม ปล่อยให้นางพักผ่อนไปก่อน
คนของหลิวหล่นขยันขันแข็งทำงานได้อย่างเรียบร้อยแม้แต่อาหารที่ทำออกมารสชาติก็นับได้ว่าดี เกาซื่อก็ยิ่งพอใจเสมือนว่านางได้กลับไปเป็นฮูหยินเสวี่ยที่สุขสบายมีคนคอยรับใช้อีกครั้ง เมื่อเข้าไปดูบุตรสาวที่ห้องก็พบว่านางนอนหลับสบายดีจึงวางใจ
คนของหลิวเหล่ยต้มยามื้อเย็นให้จินเยว่ แล้วคอยดูแลให้นางกินข้าวกินยา เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จึงได้กลับจวนตระกูลหลิวไป
พอตะวันตกดินได้ไม่นาน จ้าวตงหยางที่อดกลั้นไม่ไหวเพราะเป็นห่วงจินเยว่ก็ลอบเข้ามาในจวนเสวี่ยเช่นทุกครั้ง เขามาถึงก็รีบเข้าไปดูนาง เมื่อเห็นนางมีไข้ดั่งเช่นที่ท่านหมอพูดก็เช็ดตัวให้นาง และทายาให้นางด้วย
"เจ็บมากหรือไม่ ข้ามาช้าไป ข้าขอโทษ" เขาทายาไปก็พูดกับนางด้วยเสียงแผ่วเบา แม้จะรู้ว่านางไม่รับรู้ในเวลานี้ แต่เขาก็พูดต่อไปเรื่อยๆจนทายาเสร็จ
"อื้อออ" จินเยว่ครางออกมาอย่างแผ่วเบา เพราะความเจ็บจากการพันแผลของจ้าวตงหยาง แม้สาวใช้ของหลิวเหล่ยจะทำแผลให้นางไปแล้ว แต่จ้าวตงหยางก็อยากจะทำด้วยตนเอง
จ้าวตงหยางชะงักทันที เขาอยากจะปิดปากน้อยๆของนางนัก ยิ่งตอนที่นางเผลอร้องต่อหน้าหลิวเหล่ยเขาอยากจะตัดหูของสหายทิ้งไปเสียเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงร้องของนาง (นั่นสหายของท่านนะ)
"ข้าจะทำเช่นไรกับเจ้าดี" เขาโมโหทุกครั้งที่เห็นบุรุษอื่นมองนาง ยิ่งนางเชื่อใจหลิวเหล่ยมากกว่าตน จ้าวตงหยางก็แทบจะควบคุมอารมณ์ของตนไว้ไม่ได้ พอรู้ว่าท่านเจ้าเมืองต้องการตัวนางเขาก็อยากจะบุกไปเผาจวนเจ้าเมืองทิ้ง
ตอนที่มีคนมารายงานว่าเว่ยซืออิงลงโทษนาง เขาก็ควบม้าออกมาราวกับอยากจะมีปีกบิน ยิ่งเห็นนางเจ็บเขาก็อยากจะฆ่าคนที่ทำให้นางต้องเป็นเช่นนี้ (ต้องฆ่าตัวตายจ๊ะ เพราะพ่อเลยนางถึงได้เป็นเช่นนี้)