อย่าให้ใครรังแกอีก
อย่าให้ใครรังแกอีก
เมธิญาเดินตามเด็กหนุ่มมาโดยที่ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร และเขากำลังจะพาเธอไปที่ไหน เวลานี้เด็กสาวใช้แค่ความรู้สึกล้วนๆ ... ความรู้สึกที่บอกว่า เขาคนนี้ไว้ใจได้
" ที่นี่ที่ไหน " เสียงใสเอ่ยถามเด็กหนุ่มร่างสูง ตอนนี้เขาพาเธอเดินมาหยุดอยู่หน้าตึกเก่าๆหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของเธอนัก
ติ๊ด...ติ๊ด เขาไม่ตอบคำถามเช่นเดิม เมธิญามองมือแกร่งทาบนิ้วลงบนปุ่มเพื่อสแกนลายนิ้วมือ เขาเปิดประตูพาเธอเดินเข้าไปด้านในและเมื่อก้าวผ่านประตูบานนั้นมาได้เมธิญาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น
ทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างแตกต่างกับด้านนอกโดยสิ้นเชิง คนข้างนอกจะมองเห็นแค่ว่าตึกนี้เก่าและดูทรุดโทรมแต่ใครจะรู้ว่าด้านในนั้นสวยหรูแค่ไหน ข้าวของทุกอย่างดูมีราคาแพง ขนาดพรมบนพื้นยังน่าจะแพงกว่าที่นอนที่บ้านของเธออีกมั้ง
" เอาล่ะ...ด่านแรกเธอพึ่งจะชนะใจตัวเองได้ ด่านต่อไปก็ต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเอง "
" นายทำแบบนี้ทำไม ช่วยฉันทำไม " เมธิญาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
" รำคาญลูกตา ไม่ชอบเห็นคนถูกแกล้งบ่อยๆ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเธอมารอชั้นที่หน้าประตูนี่ก็แล้วกัน "
" เอ่อ ตะ แต่ว่า...ตอนเย็นชั้นต้องทำงานพิเศษที่ตึกอธิการก่อน "
" ทำงานอะไร...ทำไมต้องทำ " เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
" ทำงานพิเศษน่ะ นอกจากจะไม่เสียค่าอะไรแล้วฉันยังมีรายได้จากการช่วยงานอาจารย์ที่ตึกอธิการด้วยนะ เดือนๆนึงก็ตกราวๆ 200 ดอลล่าร์แน่ะ "
" เธอถึงต้องอดทนยอมโดนพวกนั้นแกล้งน่ะเหรอ "
" อึ้ม..ก็ประมาณนั้นแหละ ชั้นไม่ได้รวยมีพ่อแม่หาเงินให้ใช้เหมือนคนอื่นนี่ อยากได้อะไรก็ต้องหาเอง " เมธิญาเอ่ย เธอไม่ได้รู้สึกอายอะไรที่จะบอกเขาว่าเธอเป็นคนจน
" โอเค...ถ้าอย่างนั้นก็หลังจากที่เธอทำงานเสร็จแล้วกัน มารอที่หน้าประตู...อ้อ...ชั้นไม่ชอบความวุ่นวายเพราะงั้นเธอไม่ควรพาใครมารู้จักที่นี่ "
" อึ้ม...เข้าใจแล้ว เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคนฉันจะไม่บอกใครเด็ดขาด ว่าแต่...เอ่อ "
" อะไร ? "
" ฉันยังไม่รู้จักชื่อของนายเลย ฉันชื่อเมธิญาหรือจะเรียกเมย์เฉยๆก็ได้ แล้วนายล่ะ "
" เรียกชั้นว่าเจย์เหมือนคนอื่นๆ " เพราะชื่อเจย์ออกเสียงง่ายกว่าเย่วเฟิ่ง ดังนั้นเขาจึงให้เพื่อนๆเรียกตัวเองว่าเจย์แทน
" เจย์เหรอ เหมาะกับนายดีนะ " เด็กสาวส่งยิ้มให้ อีกฝ่ายเมื่อได้รับรอยยิ้มก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะความเขินอาย
บ้าจริง...ทำไมเขาต้องหัวใจเต้นแรงกับรอยยิ้มของยัยนี่ด้วยนะ โง่ก็โง่...ซื่อบื้อก็เท่านั้น คนอะไรถูกแกล้งได้ทุกวี่ทุกวันไม่คิดจะลุกขึ้นมาสู้ เพราะรำคาญลูกตาอย่างที่บอกเธอไปนั่นแหละทำให้เขายื่นมือเข้ามาช่วยทั้งๆที่เกิดมาคนอย่างเขาไม่เคยสนใจใคร
วันนั้นทั้งคู่ไม่ได้กลับเข้าไปเรียนอีก เมธิญาใช้เวลาอยู่กับเด็กหนุ่มคนนั้นทั้งวันจนถึงเวลาเลิกเรียนเธอจึงขอเขากลับเพื่อไปทำงานพิเศษต่อ และก่อนที่เธอจะเดินออกจากประตูมาเขายังสั่งห้ามเธอว่าอย่าให้ใครรังแกอีก ต่อไปถ้าเขาเห็นว่าเธอยอมให้คนอื่นรังแกเขาจะฝึกเธอให้หนักกว่าวันนี้ร้อยเท่า
" โอเค...ต่อไปเราจะไม่ยอมให้ใครรังแกอีก จะมีแค่นายเท่านั้นที่รังแกเราได้ " พูดจบเมธิญาก็ส่งยิ้มให้เขาอีกครั้งและเดินออกจากประตูมา
หลังจากวันนั้นเมธิญาก็ทำตามคำพูดที่ให้ไว้กับเขา เธอไม่ยอมให้ใครรังแกได้อีก...เด็กสาวใช้วิธีหลบเลี่ยงมากกว่าการเผชิญหน้าโดยตรง อย่างเช่นเธอมักจะถูกขัดขาให้ล้มเวลาที่เดินเข้าห้องเรียนหรือที่โรงอาหารเมธิญาก็เลือกที่จะเดินหลบคนพวกนั้น ไม่เข้าใกล้หรือจะมีเตะขากลับเวลาที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ เจย์สอนวิธีสู้แบบเนียนๆให้เธอแล้ว เพราะงั้นไม่มีอะไรที่เธอต้องกลัวอีกต่อไป
แกร๊ก.....มือเล็กหมุนลูกบิดประตูบ้านเช่าหลังเล็กที่มีเพียงน้าสาวและเธออยู่เท่านั้น วันนี้เป็นอีกวันที่หลังเลิกงานเมธิญาจะไปที่ตึกเก่าหลังนั้น นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้ววันนี้เป็นวันศุกร์เจย์จึงเพิ่มบทเรียนใหม่ให้เธอ ดังนั้นทำให้วันนี้เธอใช้เวลาเรียนนานกว่าทุกวัน เด็กสาวค่อยๆย่องเดินอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้น้าที่เธอคิดว่าหลับแล้วตื่น
วันนี้เธอกลับบ้านดึกกว่าทุกวัน
" ไปไหนมา " เสียงคุ้นหูในความมืดเอ่ยถามทำให้เมธิญาสะดุ้งตกใจ
พรึ่บ...ห้องที่มืดมิดก่อนหน้าสว่างจ้าเมื่อน้าของเธอกดสวิตซ์ไฟ
" น้าพลอย... เอ่อ เมย์ก็ทำงานพิเศษไง วันนี้วันศุกร์งานเลยเยอะกว่าทุกวันน่ะ แล้วนี่น้าพลอยกลับมานานแล้วเหรอคะ " เด็กสาวรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้น้าสาวจับพิรุธได้
" อึ้ม นานจนจะเข้านอนแล้ว ว่าแต่แกเถอะกินอะไรมารึยัง " หญิงสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เด็กผู้หญิงตรงหน้าของเธอเป็นคนเก่ง เรียนเก่งไม่พอแถมยังทำงานเก่งอีกต่างหาก เมธิญาเป็นเด็กใฝ่ดี เธอเสาะแสวงหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ อดทน ขยันขันแข็ง ความเป็นเด็กดีของเด็กสาวตรงหน้าทำให้คนมองรู้สึกละอายใจ เธอมีส่วนที่ทำให้เด็กคนนี้เป็นเด็กกำพร้า...แต่จะโทษใครได้ล่ะ ตอนนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนี่
พลอยพรรณสลัดความคิดออกจากหัวเพราะไม่อยากกลับไปคิดถึงเรื่องในอดีตอีก แม้ไม่ใช่หลานแท้ๆแต่เธอก็เลี้ยงของเธอมาจนตอนนี้เมธิญาอายุได้ 16 ปีแล้ว ถึงจะไม่รักแต่ยังไงมันก็มีความผูกพัน
" เรียบร้อบแล้วค่ะ อาจารย์ซื้อให้กินแล้ว งั้นเมย์ไปอาบน้ำก่อนนะคะ " เด็กสาวโกหกคำโต...เธอรีบหมุนตัวเพื่อจะขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง
" เดี๋ยว !! " เสียงเอ่ยเรียกทำให้คนที่หันหลังสะดุ้ง ...หรือว่าน้าพลอยจะรู้
" น้าว่าจะถามหลายวันแล้ว ขาไปโดนอะไรมา " เมธิญาก้มลงมองขาของตัวเองที่เขียวช้ำอยู่
" เอ่อ พอดีเมย์รีบไปหน่อยเลยวิ่งชนเก้าอี้น่ะค่ะ " เอาอีกแล้ว...เธอโกหกอีกแล้ว ขอเถอะ...อย่าให้เธอบาปเลยนะ มันจำเป็นจริงๆ
" เฮ้ออ...ซุ่มซ่ามตลอด แล้วนี่ได้ทายาบ้างรึยัง " เมธิญาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อน้าสาวไม่ได้ซักไซ้เรื่องราวต่ออีก ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากเป็นเด็กขี้โกหกหรอกนะ
" ทา...ทาแล้วค่ะ เหนียวตัวแล้วเมย์ขึ้นห้องก่อนนะคะ " ไม่รอให้น้าสาวได้พูดอะไรต่ออีก เมธิญารีบก้าวเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าห้องของตัวเองให้ไวที่สุด หากอยู่นานกว่านี้น้าพลอยต้องรู้แน่ๆว่ารอยที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีเฉพาะที่ขาอย่างเดียว แต่มันเขียวช้ำไปทั้งตัวไม่ว่าจะเป็นลำตัวหรือต้นแขน ยิ่งวันนี้เจย์เพิ่มบทเรียนใหม่ทำให้มีรอยใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก
" เฮ้ออ !! " เมธิญาถอนหายใจล้มตัวนอนหงายไปกับที่นอน เด็กสาวยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงใบหน้าของคนที่เธอพึ่งจากมา เขาเป็นความสุขของเธอ...หลายวันที่ผ่านมาเขาสอนเธอให้ใช้ชีวิตใหม่ สอนการป้องกันตัวเอง สอนวิธีรุกฆาตเมื่อถูกจู่โจม เขาเก่งเรื่องศิลปะการต่อสู้มาก
" ถ้าไม่มีนายป่านนี้ฉันก็คงจะถูกรังแกไม่เลิก ขอบใจนะ " เด็กสาวหลับตาพูดเบาๆกับตัวเอง ริมฝีปากเล็กยิ้มอย่างมีความสุข