บทที่ 5 ชายาจากชาติปางก่อน!?
“ออกไปจากห้องฉัน”
คิระเอ่ยปากไล่อีกรอบ นางปิศาจนามเฟลเวียอยู่ในรูปมนุษย์แท้ๆมีเนื้อมีหนัง นี่ถ้าใครมาเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงในห้องนอนจะว่ายังไง เฟลเวียกะพริบตา
“ข้าดูไม่เหมือนมนุษย์รึไง” เธอถาม มองดูตัวเองสลับกับคิระ เจ้าหล่อนอยู่ในชุดสีเหลืองสดพลิ้วเปิดหน้าท้องคล้ายกับพวกหญิงสาวอาหรับ ไรผมตรงหน้าผากมีเครื่องประดับรัดเกล้าเป็นรูปสามเหลี่ยมอันเล็กๆเรียงกระทบกัน เรือนผมสีดำยาวถึงเอวเกล้าขึ้นบางส่วนปักด้วยปิ่น คิระมองเธอ ดูยังไงก็ไม่ได้มาจากญี่ปุ่นชัวร์ๆ
“เหมือนหรือไม่เหมือนก็ออกไปซะ”
“ท่านไล่ข้าเหรอ” เธอทวนคำเหมือนไม่อยากเชื่อ คิระกลอกตา เขาพูดชัดขนาดนี้ยังอุตส่าห์ถาม ยัยนี่โง่รึไง
“เออ”
“ไม่ได้! ข้าเป็นชายาของท่าน ต้องอยู่กับท่านสิ” เฟลเวียเถียงมาด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ คิระเอียงคอมองเธอ ชายา?
“อะไรของเธอ ชายงชายา นี่หลุดมาจากหนังจักรๆวงศ์ๆใช่ไหม”
“ท่านแต่งงานกับข้าเมื่อ 1,203 ปีก่อนอย่างไรเล่า ตามที่บิดาของท่านได้หมั้นหมายเราไว้”
“ฟังนะ ฉันอายุแค่สิบเจ็ด และพ่อฉันก็ทิ้งแม่ไปมีเมียใหม่ตอนแม่ฉันท้องอ่อนๆ พ่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีฉันอยู่บนโลกนี้ เพราะงั้นถึงฉันไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไร แต่ยังไงเธอก็มาหาผิดคนแล้ว”
“ไม่ผิดหรอก” เฟลเวียยืนยัน ชูมือซ้ายโชว์แหวนบนนิ้วนาง “นี่คือแหวนแต่งงานของเราสองคน สร้างขึ้นในความมืดแห่งชิโอลเพียงสองวง ไม่มีซ้ำที่ใดอีกแล้ว ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบผลงานของซาตานได้”
คิระอยากจะปิดหู ก่อนที่นางปิศาจจะมาพ่นอะไรบ้าบอให้เขางงอีก มันอะไรนักหนากับแหวนของเขาล่ะเนี่ย เขายกมือให้เฟลเวียหยุดพูด
“เธอกำลังบอกว่า...ซาตานสร้างแหวนของเธอกับฉันขึ้นมาใช่ไหม”
“ใช่” เด็กสาวตอบรับหน้าซื่อเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน
“แล้วมันเป็นแหวนแต่งงานของฉันกับเธอ?”
“ใช่”
“เธอบ้า” ร่างสูงสรุป เดินไปที่เตียงและสะบัดผ้าห่มก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้ว ถ้าเขาเมินซะ สุดท้ายยัยบ้านี่ก็คงเบื่อและจากไปเอง เหมือนกับตอนมาปรากฏกายที่ไม่มีใครเรียกเชิญ
เฟลเวียกลับตามมานั่งบนเตียง ชุดสีเหลืองสดของเธอดูเหมือนใบแปะก๊วยในฤดูใบไม้ร่วงจนแยงตาเด็กหนุ่ม ชวนให้ลอบมองหน้าท้องแบนราบและสะดือตรงส่วนที่เธอเปิดโชว์อย่างไม่นึกอาย “เอาเป็นว่า ข้าจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนะ เดเมี่ยน”
คิระผุดลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินอย่างนั้น แล้วก็แทบจะลงไปนอนใหม่เมื่อเห็นเจ้าหล่อนเขยิบมาอยู่ซะใกล้แทบจะนั่งตัก อะไรของยัยนี่วะเนี่ย ไม่ระวังตัวเอาซะเลย เขาดันเธอออกไปห่างๆก่อนจะถาม “เดี๋ยว... เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
“เดเมี่ยนไง” คิระฟังแล้วคิ้วพันกันยุ่ง ชื่อนี้อีกแล้ว ชื่อลูกชายซาตานในหนังสือนิทานปรัมปราที่มาริให้มา
“ฉันไม่ได้ชื่อเดเมี่ยน” เขาปฏิเสธไปเช่นนั้น แต่เฟลเวียไม่สนใจ เธอตอบกลับมาว่า
“พูดจาไร้สาระ ผู้ที่ไม่ใช่เดเมี่ยนใส่แหวนนี้ไม่ได้หรอก”
“ว่าใครพูดจาไร้สาระ นั่นมันควรจะเป็นบทพูดของฉันต่างหาก” คิระอยากจะทึ้งหัวตัวเองกับนางปิศาจที่ตีมึนมานั่งกางขาคร่อมตักเขาหน้าตาเฉย ตัวเธอหอมแล้วก็ขาวหมดจด ในมุมผู้ชายมันก็ได้กำไรอยู่หรอกนะ แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีอารมณ์กับผู้ป่วยจิตเวชที่เป็นอมนุษย์แหงๆ “พูดยังไงถึงจะไปวะเนี่ย เฟลเวีย ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นผีเร่ร่อนมาจากโรงพยาบาลบ้าที่ไหน แต่ถ้าเธอจะมาอยู่แถวนี้ก็ไปไกลๆห้องฉัน”
“ไม่ไป ข้าจะนอนนี่ล่ะ” เฟลเวียล้มตัวลงนอนข้างๆ ขายังพาดหนีบตัวเขาไว้อย่างกับเป็นหมอนข้าง “แม้แต่ซาตานก็ไล่ข้าไม่ได้หรอก ข้าเป็นราชินีคนต่อไป ท่านน่ะเลิกโวยวายแล้วมาทำลูกกับข้าซะที ข้ารอมานานเกินไปแล้วนะ”
ทำลูก... คิระตาเหลือก ขณะที่ปิศาจสาวเริ่มจับมือเขาเอาไปวางแปะบนหน้าอกหน้าใจของเธอ โอว นุ่มนิ่มชะมัด แต่เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยย... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน มันชักจะไปกันใหญ่ เขาไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำนะ! เฟลเวียส่งยิ้มหวานเยิ้มที่ดูยั่วยวนสวาทมาให้ จนชายชาตรีอกสามศอกอย่างเขารู้สึกเหมือนจะโดนปล้ำ
“หยุดเลย! อย่ามาถอดเสื้อผ้าฉันนะโว้ย เฮ้ย! จับอะไรของเธอเนี่ย ยัยปิศาจหื่นกาม!!”
เช้าวันรุ่งขึ้น
เสียงนาฬิกาปลุกคิระขึ้นมาอย่างงัวเงียและหงุดหงิดสุดๆ เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน มัวแต่ไล่ตะเพิดนางปิศาจเฟลเวียจนดึกดื่น นัยน์ตาเรียวหลับลงไปอีกรอบก่อนจะค่อยๆปรือขึ้นใหม่ อืม...ยังไม่เห็นเฟลเวีย เช้าแล้วยัยบ้านั่นอาจจะไปแล้วก็ได้ คิระคิดในแง่ดี ก่อนจะขยับตัวและพบว่า...หญิงสาวชุดเหลืองนอนซุกอยู่ข้างๆ
เวรกรรมอะไรของเขาวะเนี่ย เมื่อคืนก็ดิ้นสู้ปกป้องอธิปไตยในร่างกายของตัวเองจนเหนื่อย ผล็อยหลับไปทั้งเขาทั้งยัยนี่โดยที่แขนขายังพันกันอีรุงตุงนัง เช้ามาเจ้าหล่อนยังไม่ไปอีก คิระหันมองรอบห้องนอนที่ในสายตาของเขาเห็นมีฝุ่นควันดำปกคลุมทั่วทุกอณูเหมือนพายุทราย เส้นเลือดที่หน้าผากดีดตัวปื้ด
“นังปิศาจเวรตะไล ลุก!”
บทสวดตะเพิดดำเนินต่อในรอบเช้า แต่เฟลเวียก็ยังไม่มีท่าทีจะยอม เจ้าหล่อนยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่าเขาคือเดเมี่ยน สวามีของเธอที่จะทำให้เธอได้เป็นราชินีในอนาคต จนสุดท้าย...คนแพ้กลับเป็นคิระเสียเอง
“โอเค... ฉันยอมให้เธออยู่ที่นี่ได้” คิระพูดอย่างไม่เต็มใจ เฟลเวียยิ้มร่าทันที “แต่ห้ามขึ้นมานอนบนเตียงกับฉัน”
“ทำไม” เฟลเวียขมวดคิ้ว คิระอยากจะกุมขมับ
“ก็ผู้หญิงกับผู้ชายนอนเตียงเดียวกันมัน...ไม่ดี”
“ไม่ดีอย่างไร! ข้าเป็นชายาของท่าน ถ้าไม่นอนกันบนเตียง... อ๋อ แปลว่าท่านใคร่จะเปลี่ยนบรรยากาศ ไปทำลูกกันบนพื้นหรือบนระเบียงบ้างน่ะหรือ ก็ได้นะข้าไม่ขัดข้อง...อุ๊บ!" เสียงแหลมโดนหยุดไว้เพราะร่างสูงรีบเอามืดอุดปาก ยัยทะลึ่งนี่! เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่พูดอะไรไม่อายฟ้าดินเลยสักนิดจนผู้ชายอย่างเขาหน้าแดงแทน เขาเข่นเขี้ยว
“เราจะไม่ทำลูกที่ไหนกันทั้งนั้นแหละ! ฉันให้เธอมาสิงห้องอยู่ก็บุญเท่าไร... แล้วก็ไม่ต้องมาดูฉันอาบน้ำด้วย!!" คำพูดข้างท้ายสั่งลั่นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน เฟลเวียมองตามก่อนจะเกาหัวเล็กน้อย
ทำไมเดเมี่ยนถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ เขาเคยชอบให้นางอาบน้ำด้วยจะตาย เด็กสาวเม้มปากครุ่นคิด กาลเวลาผ่านไปเป็นพันปีแล้ว ความเศร้าโศกเสียใจที่ตอนเขาตายจางหายไปมาก เธอโตขึ้น ทำอะไรคนเดียวมาก็มากมายหลายอย่าง ข้างเดเมี่ยนเองเขาก็เวียนว่ายตายเกิดหลายครา... ชีวิตของเขาและเธอพรากจากกันไกลเป็นเวลานานแสนนาน บางทีเธออาจจะต้องศึกษาทำความรู้จักเดเมี่ยนในชาตินี้เสียใหม่
“บังอาจลืมข้าคนนี้ได้ลงนะ เดเมี่ยน ไม่คิดถึงข้าเลยใช่ไหม...”
ร่างเล็กบางถอนหายใจฟึดฟัด สวามีของเธอไม่เหมือนคนเดิมแม้แต่เศษเสี้ยว แถมเธอทั้งยั่วทั้งอ่อยสุดฤทธิ์แล้วก็ยังไม่หวั่นไหว มันน่าขัดใจนัก
คอยดูเถอะ เธอจะคว้าหัวใจเขากลับมาครองอีกครั้ง!