บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 หลงตัวเอง

“ลูกจะให้แม่บอกอีกกี่ครั้งถึงจะยอมฟัง หากไม่รักษาตัวให้ดี จะหายไปทำงานต่อได้อย่างไร”

“ลูกแข็งแรงอยู่แล้ว ออกศึกพรุ่งนี้ก็ยังได้” คนพูดกล่าวอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน สายตายังคงจ้องมองใบหน้าบ่าวคนใหม่อย่างข้องใจ

“แม่รู้ว่าลูกเก่ง แต่หากลูกเป็นอะไรไปสักคน แม่กับน้องจะอยู่กันอย่างไร ลูกก็รู้ดีไม่ใช่หรือว่าพ่อของลูกจากพวกเราไปเพราะสาเหตุใด ไม่ใช่เพราะความอวดดีอวดเก่งหรอกรึ”

“ลูกไม่เหมือนเจ้าคุณพ่อ”

“เฮ้อ แม่ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับลูกแล้ว วันนี้แม่พาบ่าวคนใหม่มารับใช้ เรียกมันว่าเปลว”

“บ่าวไหว้ขอรับ บ่าวขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะขอรับ” เปลวยกมือไหว้เจ้านายคนใหม่อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อหวังว่าจะให้อีกฝ่ายเอ็นดู

“ไม่ต้อง! ให้มันกลับไปเสีย ลูกไม่ต้องการใครเข้ามายุ่มย่าม ลูกชอบอยู่คนเดียว”

“ไม่ได้ ลูกต้องให้มันมาช่วยดูแล แผลของลูกจะได้หายเร็ว ๆ อย่างใดเล่า แค่นี้ทำให้แม่สบายใจไม่ได้เชียวรึ”

เห็นความตั้งใจของมารดาจึงยอมใจอ่อนลง พระพิชิตพลเดชาถอนหายใจเสียงดังอย่างจำยอม เขาเงียบแสดงว่ายอมรับเหมือนที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าบ่าวคนนี้คงอยู่รับใช้ได้ไม่กี่วันแน่นอน

“ก็ได้ขอรับ”

“ดีมาก ถ้าเช่นนั้นนับจากนี้ เอ็งจงมาช่วยปรนนิบัติดูแลคุณพระนะเปลว ทำหน้าที่ของเอ็งให้ดี”

“ขอรับคุณหญิง”

คุณหญิงฝากฝังให้เปลวดูแลบุตรชาย แล้วก็เดินกลับไปยังเรือนที่พัก ปล่อยให้เปลวยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องสองต่อสองกับคุณพระผู้แสนจะเย็นชา สายตาคมที่จ้องมองมานั้นหาได้มีความเมตตาหรือเป็นมิตรเลยสักนิด และเปลวก็รู้ตัวดีว่าจะต้องเจอกับอะไร

“เอ็งคิดดีแล้วรึที่จะมาดูแลข้า ข้าบอกไว้ก่อนนะว่าไม่ใช่คนใจดี”

“บ่าวทราบดีขอรับว่าคุณพระเป็นคนใจร้าย สังเกตจากสีหน้าและคำพูดก็พอจะเดาออกแล้วขอรับ” เขาตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้าอีกฝ่าย แถมยังยืนส่งยิ้มให้ราวกับเด็กหนุ่มผู้ใสซื่อบริสุทธิ์เสียอย่างนั้น

“นี่เอ็งกล้าว่าข้างั้นรึ ไม่กลัวข้าเลยสักนิดเชียวรึ!” คุณพระตะเบ็งเสียงต่อหน้าบ่าวด้วยความโมโห เพิ่งจะเข้ามาวันแรกก็ปากดีเสียแล้ว ผิดจากบ่าวคนอื่น ๆ ที่ค่อนข้างจะหัวอ่อนและยอมอยู่ในโอวาท

“บ่าวมิกล้า บ่าวแค่พูดไปตามความรู้สึกเท่านั้นเองขอรับ หากทำให้คุณพระไม่สบายใจบ่าวต้องขออภัยด้วย” เปลวรีบก้มลงกราบยอมรับความผิดที่พลั้งปากไป

“สำนึกผิดจริงหรือเสแสร้ง”

“บ่าวสำนึกผิดจริง ๆ ขอรับ”

“ออกไปอยู่ข้างนอก ข้าไม่อยากให้ใครเข้ามาอยู่ในห้องกับข้าด้วย หากไม่สั่งไม่ต้องเข้ามา”

“บ่าวคงทำเช่นนั้นไม่ได้ขอรับ เพราะคุณหญิงสั่งให้บ่าวอยู่รับใช้คุณพระอย่างใกล้ชิด หากคุณพระเป็นอันใดไป บ่าวจะมีความผิดนะขอรับ”

“แต่มันคือคำสั่งของข้า!”

“มิได้จริง ๆ ขอรับ”

“เฮ้อ เอ็งนี่มันช่างดื้อด้านเสียจริง” พระพิชิตพลเดชาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้อด้านของบ่าวคนใหม่ ไม่เคยมีใครขัดใจเขาแม้แต่คนเดียว มีแต่เจ้าเด็กเมื่อวานซืนผู้นี้เท่านั้นที่กล้าหือ มันน่าจับตีก้นให้หลาบจำเสียเหลือเกิน อายุอานามก็น่าจะเท่าน้องชายตน ยังคงเป็นเด็กไม่รู้ประสาสินะ ถึงได้กล้าอย่างนี้

“คุณพระนอนพักผ่อนนะขอรับ บ่าวจะช่วยจัดระเบียบทำความสะอาดห้องหับให้ใหม่เอี่ยมเลยขอรับ”

“แล้วแต่เอ็ง อย่ามายุ่งวุ่นวายกับข้าเป็นพอ”

คุณพระรูปงามกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เอี้ยวตัวไปหยิบดาบขึ้นมา หากทว่าเปลวใช้ความคล่องตัวรีบคว้ามันมาไว้ในมือเสียก่อน ยืนยิ้มให้อย่างผู้ชนะ

“เอ๊ะ! เอาดาบข้ามา”

“มิได้ขอรับ คุณพระต้องนอนพักผ่อนเสียก่อน หากคุณหญิงทราบเข้ามีหวังโดนเอ็ดเอานะขอรับ คุณพระไม่กลัวหรอกรึ”

“ข้ามิใช่เด็กเยี่ยงเอ็งนะ เอาคืนมาอย่าให้ข้าอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเอ็งเดือดร้อนแน่”

“บ่าวให้ไม่ได้จริง ๆ ขอรับ” เปลวรีบถือดาบเดินออกห่าง ทว่าพระพิชิตพลเดชาพยุงตัวลุกขึ้นจะเดินตาม ทำให้รู้สึกปวดที่แผลบริเวณท้องจนต้องร้องเสียงหลง ทรุดตัวลงนั่งที่เดิม เห็นอย่างนั้นหนุ่มน้อยก็รีบวางดาบไว้หลังตู้ รีบเดินเข้ามาพยุงตัวชายร่างกำยำไม่ให้ล้มลงเสียก่อน

“คุณพระเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ปล่อยข้า อย่างบังอาจมาจับตัวข้า”

“ปล่อยไม่ได้หรอกขอรับ ไปนอนบนเตียงเถิดขอรับ เดี๋ยวจะอาการแย่ไปกว่านี้”

เปลวจะช่วยพยุงตัวให้นอนเอนหลังบนเตียง แต่โดนคุณพระสั่งให้ออกห่างจากตัว จึงยอมยืนมองดูความอวดเก่งของเขาอย่างนั้น บุรุษผู้นี้ช่างถือตัวยิ่งกว่าสตรีเสียอีก เขาได้แต่นินทาผู้เป็นนายในใจ

“จริง ๆ แล้วคุณพระออกจะเก่งกาจในเรื่องการศึก แต่ทำไมถึงได้โดนศัตรูใช้ดาบฟันมาแผลใหญ่ขนาดนี้ขอรับ คุณพระเก่งจริง ๆ หรือมันเป็นแค่ข่าวลือกันแน่” จู่ ๆ เปลวก็นั่งถามคนที่นอนพักกายอยู่บนเตียง เปลือกตาที่เพิ่งจะปิดลงเปิดขึ้นอีกครั้ง เอียงหน้ามามองบ่าวรับใช้อย่างไม่พอใจเป็นที่สุด

“นั่นปากรึ! เอ็งช่างไร้สาระเสียจริง ข้าไม่เคยพบเจอบ่าวที่ปากมากเช่นเอ็งมาก่อน ตอนเป็นเด็กโดนบังคับไม่ให้พูดหรือไง จึงพูดไม่หยุดปากเช่นนี้”

“แม่ชอบฟังเวลาที่บ่าวพูด ท่านนั่งฟังแล้วก็ยิ้มตามตลอด ท่านบอกว่าฟังบ่าวพูดแล้วมีความสุขมาก นั่นเลยทำให้บ่าวชอบพูด เพราะจะทำให้คนที่ฟังมีความสุขขอรับ”

“ชิชะ! หลงตัวเอง คำพูดของเอ็งมันน่ารำคาญมากกว่าสร้างความสุขให้ผู้อื่น หุบปากแล้วนั่งเงียบ ๆ อย่าให้ข้าต้องลงไม้ลงมือกับเอ็ง”

“ก็ได้ขอรับ”

เปลวยอมทำตามคำสั่งเจ้านายคนใหม่แต่โดยดี เขานั่งเอามือค้ำคางจ้องมองร่างที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียง กลอกลูกตามองไปรอบห้องอย่างรู้สึกเซ็ง ๆ ไม่เคยพบเจอผู้ชายคนไหนที่มีนิสัยเช่นนี้ คอยดูเถิดเขาจะทำให้คุณพระผู้นี้หายจากอาการถือตัวและเย็นชาให้จงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel