บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 : ยอดพธูของเมืองหลวง

ตอนที่

[3]

ยอดพธูของเมืองหลวง

นางเดินตามอาเซินไปยังห้องทำงานของเถ้าแก่เนี้ยที่โดยปกติจะอยู่ที่ชั้นสอง แต่วันนี้อาเซินกลับพานางขึ้นไปชั้นสาม โดยให้เหตุผลว่าผู้เป็นนายอยากจะอยู่กึ่งกลางของลูกค้าเพราะภัตตาคารแห่งนี้มีทั้งหมดห้าชั้น

“มาแล้วหรืออาซือ มานี่ ๆ ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” ฟางเนี่ยฮวนหรือเถ้าแก่เนี้ยของภัตตาคารอิงเว่ยเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมทั้งแฝงไปด้วยท่าทางตื่นเต้น ด้านอาเซินเมื่อทำหน้าที่ของตนแล้วก็ถอยออกมาและปิดประตูเพื่อให้ทั้งคู่คุยธุระกันอย่างเป็นส่วนตัวทันที

“พี่ฮวนมีอันใดหรือ หรือว่าช่วงนี้ทำกำไรได้ดีขึ้น” นางเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของอีกฝ่าย ถอดสิ่งที่อยู่ด้านหลังของตนออกและวางบนโต๊ะพร้อมกันนั้นก็ปลดผ้าที่คลุมใบหน้าของตนออกด้วย

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ใช่เรื่องนี้ อ่า ผักชุดใหม่นี้ช่างน่ากินเหลือเกิน คล้ายกับข้าได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากพวกมันด้วย” ฟางเนี่ยฮวนกำลังจะกล่าวอีกเรื่องแต่กลับถูกผักที่เหยาลี่ซือนำมาดึงดูดใจเอาไว้เสียก่อน

กิริยานั้นทำให้เหยาลี่ซือยกยิ้มด้วยความเอ็นดู เหตุผลที่นางเลือกภัตตาคารอิงเว่ยเป็นคู่ค้า เหตุผลแรกนั่นก็คือเถ้าแก่เนี้ยเป็นสตรีและเป็นสตรีที่มากความสามารถอีกทั้งยังมีความยุติธรรมมากอีกด้วย ในยามแรกนั้นเป็นเพียงคู่ค้า แต่ยามนี้คล้ายจะเป็นพี่น้องกันไปเสียแล้ว

ไม่สิ น่าจะเป็นแล้ว....

“ผักพวกนี้เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ท่านฟัง ว่ามันชื่ออะไร ทำอันใดได้บ้าง มีสรรพคุณอย่างไร แต่ในยามนี้ข้าอยากรู้ว่า ที่ท่านว่าเรื่องที่จะเล่าให้ฟังนั้นคือเรื่องอันใด”

“อ่า เรื่องนั้น.... ไปนั่งดื่มชากันก่อนเถิด”

น่าจะยาวสินะ....

“วันนี้ ห้าพธูมาแสดงความสามารถที่นี่ อาเซินคงบอกเจ้าแล้วสินะ” หลังจากที่จิบชากันไปครู่หนึ่ง พี่ฮวนจึงเอ่ยถามนางขึ้น นางจึงพยักหน้าตอบรับไป

“แม้ว่าทั้งห้าพธูจะโดดเด่นและเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าบุรุษทั้งหลาย แต่ว่ากันว่าในเหล่าสตรีงามก็ยังมียอดสตรีงาม...ในเหล่าห้าพธูนั้นก็มีผู้ที่ยอดที่สุดอยู่” เมื่อกล่าวว่าถึงตอนนี้ ฟางเนี่ยฮวนก็ได้แต่มองไปที่คู่สนทนาของตนที่ทั้งหน้าตาและความสามารถนั้น...น่าจะเป็นเลิศกว่าห้าพธูที่โด่งดังของเมืองหลวงเสียอีก แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย อีกฝ่ายยังไม่เปิดเผยตัวตนเสียที

“ผู้ที่ยอดที่สุดเช่นนั้นหรือ”

“อ้อ อืม” เสียงของเหยาลี่ซือเรียกสติอีกฝ่าย

“เป็นคุณหนูเฉินซูเม่ย บุตรสาวของขุนนางในสังกัดกรมการคลัง”

“แล้วมันน่าตื่นเต้นอย่างไร” เหยาลี่ซือแสดงสีหน้าสงสัย

“เหล่าห้าพธูนั้นไม่น่าสนใจอันใดหรอก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเหล่าบุรุษที่มาในวันนี้ต่างหาก......” เมื่อเห็นเหยาลี่ซือขมวดคิ้ว ฟางเนี่ยฮวนจึงกล่าวต่อ “เจ้าไม่สนใจหาคู่ครองในงานนี้หรือ”

นั่นอย่างไร!

พี่ฮวนจะหาคู่ให้นางอีกแล้ว!

“เหล่าบุรุษที่มาล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่ธรรมดา แล้วเหล่าผู้ที่ไม่ธรรมดาเหล่านั้น จะมาสนใจสตรีชาวบ้านธรรมดาเช่นข้าหรือ”

“ธรรมดาที่ใดกัน!! นายหญิงแห่งโรงผักเซียนสวรรค์ จะธรรมดาได้อย่างไร” ฟางเนี่ยฮวนคล้ายจะไม่ยอมรับในคำกล่าวของอีกฝ่าย หากเหยาลี่ซือนั้นธรรมดา ผู้อื่นจะเป็นเช่นไร กิจการโรงผักเซียนสวรรค์ ในยามนี้ยิ่งใหญ่เพียงใด ผู้ใดบ้างจะไม่รู้ แม้ทุกคนจะไม่รู้อันใดเกี่ยวกับมันเลยก็ตาม โดยเฉพาะกระทั่งเกี่ยวกับเจ้าของที่แบกผักมาส่งให้นางด้วยตนเองผู้นี้ แต่ทุกคนก็รู้ว่ามันยิ่งใหญ่

“หากเป็นเหยาลี่ซือก็เป็นเพียงคนธรรมดามิใช่หรือ”

“แค่ในยามนี้เท่านั้น เช่นนั้นเจ้าก็รีบเปิดเผยตัวตนสิ ข้าอยากให้เจ้าเปิดเผยจะแย่แล้ว”

“ยังไม่ถึงเวลา พี่ฮวนก็รู้” นางตอบพลางรู้สึกขำขันอีกฝ่าย

“เฮ้อออออ เมื่อใดจะถึงเวลานะ ข้าอยากเปิดตัวเจ้าในฐานะพี่น้องร่วมสาบานกับข้าแล้ว” ว่าแล้วก็ทำหน้าเง้างอ

“รออีกนิด ยามนี้ก็เป็นคู่ค้าคนสำคัญกันไปก่อน เพียงเท่านี้ท่านก็รับมือไม่ไหวแล้วมิใช่หรือ”

“อ๊า ใช่แล้ว!” กล่าวจบก็พ่นลมหายใจทันที นับตั้งแต่ที่ภัตตาคารอิงเว่ยได้รับสิทธิ์ในการเป็นคู่ค้ากับโรงผักเซียนสวรรค์ ก็คล้ายกับว่าผู้เป็นเถ้าแก่เนี้ยจะต้องรับมือกับผู้คนมากขึ้น ทั้งผู้ที่อยากใช้นางเป็นสะพานเพื่อไปหาโรงผักเซียนสวรรค์ บ้างก็อยากซื้อผักผ่านนางเป็นกรณีพิเศษ และอีกหลาย ๆ ปัจจัย พอเมื่อปฏิเสธไป ก็เกิดข่าวลือขึ้นหลายอย่าง ทั้งนางทุ่มเงินมหาศาลเพื่อทำให้เกิดสัญญาคู่ค้าขึ้น บ้างก็ว่านางใช้วิธีสานสัมพันธ์แบบเนื้อแนบเนื้อเพราะคิดว่าเจ้าของกิจการโรงผักเซียนสวรรค์เป็นบุรุษ และอีกมากมาย ยิ่งคิดยิ่งปวดศีรษะยิ่ง พวกเขาไม่คิดบ้างหรือว่าภัตตาคารอิงเว่ยนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

“เปลี่ยนเรื่อง ๆ เปิดค่อยเปิด” ฟางเนี่ยฮวนโบกมือเป็นพัลวัน ส่งผลให้เหยาลี่ซือหัวเราะออกมา

“กลับมาที่เรื่องนี้ เจ้าไม่สนใจบุรุษในงานจริงหรือ ไปสอดส่องสักนิดก็ไม่เสียหายนะ”

“ไม่ละ ข้าไม่สนใจ ในยามนี้ข้าสนใจแค่การสร้างฐานะเพียงเท่านั้น”

ฟางเนี่ยฮวนมองอีกฝ่าย “แต่คิดไปผู้ใดจะเหมาะสมกับเจ้า เจ้าเก่งกาจถึงเพียงนี้”

“หึ อย่ามาชมกันเสียให้ยาก มาเถิด ข้าจะอธิบายเกี่ยวกับผักที่นำมาวันนี้ให้ท่านฟัง”

หลังจากนั้นทั้งสองก็เข้าสู่สภาวะจริงจัง ผู้หนึ่งตั้งใจอธิบายผู้หนึ่งก็ตั้งใจจดรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน จนสุดท้ายก็ตกลงราคากันให้เสร็จสรรพ

ส่วนด้านนอกนั้น ต่างก็เต็มไปด้วยความคึกคัก และคล้ายจะคึกคักมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกลุ่มคนฮือฮา พร้อมทั้งกล่าวว่า ‘คุณหนูเฉินซูเม่ย จะแสดงความสามารถแล้ว’ นางเลยเปิดหน้าต่างให้กว้างยิ่งขึ้น เพื่อจะได้มองเห็นลานแสดงที่อยู่กลางน้ำได้ชัดเจนขึ้นเช่นกัน

สตรีผู้นั้นหรือ เฉินซูเม่ย งดงาม แต่ก็ดูเต็มไปด้วยจริตมารยาหญิง

บุรุษชื่นชอบสตรีเช่นนี้กันสินะ

“อาซือ มองตรงนี้ไม่ชัดเจนนัก เราออกไปดูใกล้ ๆ ดีกว่า ข้าเตรียมที่เหมาะ ๆ ไว้ให้แล้ว” พี่ฮวนเสนอขึ้น

“ไม่ละ ข้ายังต้องไปตกลงเรื่องผักรอบใหม่กับตระกูลฝานอีก และยังต้องไปซื้อขนมน้ำตาลกลับไปฝากให้ท่านแม่ด้วย” นางปฏิเสธทันที

“เถอะน่า ครู่เดียว ไปดูการแสดงของยอดพธูของเมืองหลวงกันเสียหน่อย” ถึงแม้จะกล่าวปฏิเสธไปแล้วแต่นางก็โดนผู้เป็นเจ้าของที่นี่จับจูงออกไปอยู่ดี นางไม่ลืมที่จะหยิบผ้าของตนมาปิดบังหน้าตาไว้ ส่วนผู้ที่จับจูงนางนั้น ก็พานางออกไปด้วยท่าทางเริงร่า ฟางเนี่ยฮวนก็เป็นคนงาม คนงามที่เป็นเจ้าของภัตตาคารที่ยิ่งใหญ่ของเมืองหลวง

ยามที่อีกฝ่ายเดินผ่านผู้คน...ล้วนเป็นที่สนใจของเหล่าผู้คนไม่น้อยเช่นกัน ส่วนนางก็ได้แต่กระชับผ้าที่คลุมหน้าของตนไว้และเดินไปตามการลากจูงของอีกฝ่ายเท่านั้น

“ถึงแล้ว!”

เมื่อถึงจุดเหมาะ ๆ ที่ว่าแล้ว ก็มีพนักงานนำชามาบริการให้ทันที ในจุดนี้สามารถมองเห็นจุดที่เฉินซูเม่ยแสดงได้อย่างชัดเจน นางกวาดสายตาไปมองรอบข้าง ต่างก็เห็นเหล่าบุรุษที่มีกิริยาที่ไม่ธรรมดา รายล้อมอยู่เต็มไปหมด

นี่พี่ฮวนพานางมาดูการแสดง หรือพานางมาดูบุรุษเหล่านี้กันแน่ เจตนานี้...ช่างดูชัดเจนนัก

และบุรุษเหล่านี้ ต่างก็พากันมาดูสาวงามกันมากถึงเพียงนี้เลยหรือ

นางดูการแสดงของยอดพธูเมืองหลวงไปเรื่อย ๆ จวบจนเมื่อการแสดงจบลง เสียงปรบมืออันอื้ออึงก็ดังขึ้น นางยอมรับว่าการแสดงของอีกฝ่ายไร้ที่ติ การร่ายรำดูอ่อนช้อยทั้งยังมีช่วงสลับกับการดีดพิณที่ช่วงจังหวะคล้ายกำลังตัดพ้อคนรัก ช่างดึงอารมณ์ผู้อื่นร่วมไปด้วยได้ดียิ่ง สมกับเป็นยอดพธูของเมืองหลวง เมื่อการแสดงจบและคิดว่าไม่มีอันใดแล้ว นางจึงได้ขอตัวไปทำธุระต่อ พี่ฮวนที่คล้ายจะรู้ตัวว่าคงจะดึงตัวนางไว้ไม่ได้ จึงได้แต่บอกให้นางรอก่อนสักครู่ พอดีว่ามีผลไม้ที่ถูกส่งมาจากทางใต้ มีรสชาติหวานอร่อย อยากจะให้นางนำกลับไปฝากท่านแม่ นางจึงพยักหน้ารับและกล่าวว่าจะออกไปรออีกฝ่ายที่จุดจุดหนึ่ง

ซึ่งจุดที่รอนั้นก็ห่างออกจากจุดที่รับชมการแสดงอยู่ไม่มากนัก แต่ก็มีคนน้อยลง นางที่ไม่รู้ว่าจะทำอันใด ก็ได้แต่หาที่นั่งเหมาะ ๆ แล้วจากนั้นก็ได้แต่นั่งรอ ไม่ไกลกันนั้น เสียงของบุรุษที่นั่งอยู่ซุ้มศาลาไม่ไกลจากนางก็ดังขึ้น

“คุณหนูเฉิน ช่างงดงามและเปี่ยมไปได้ความสามารถ ไจ้เสวียน เจ้าช่างตาถึงนัก”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ไจ้เสวียนของพวกเรา นอกจากจะรูปงาม มากความสามารถแล้วยังฉลาดเฉลียวมากอีกด้วย”

อ่า สายอวยก็มา

นางได้แต่นั่งฟังเงียบ ๆ รอดูว่าบุรุษที่ชื่อว่าไจ้เสวียนผู้นั้นจะว่าอย่างไร

และเขาก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง

“หึ ข้ารูปงามถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าผู้ที่จะมาเคียงคู่กับข้าก็ต้องงดงามและมากความสามารถเช่นกัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel