บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 : จุดเริ่มต้นของเรื่องราว 1/2

ตอนที่

[2]

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

และจากวันที่นางตัดสินใจ นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ไม่น่าเชื่อว่านางที่ไม่เคยปลูกผักมาก่อน จะสามารถสร้างผลผลิตที่ออกมาได้ดีเกินคาด รสชาติของผักและขนาดที่นางปลูกนั้น ไม่มีผู้ใดที่สามารถทำได้ มันทั้งกรอบ หวาน ชุ่มน้ำ ขนาดก็ใหญ่โต และที่สำคัญคือใช้เวลาในการรอผลิตไม่นานเลย จนนางให้ฉายากับมือของตนว่า ‘มือปีศาจ’ ที่ปลูกผักได้งดงาม โตเร็ว และรสชาติดีโดยเฉพาะ “ผักสีม่วง” ต่าง ๆ ที่หาได้ยากและรสชาติของมันนั้นเลิศรสกว่าผักหลายชนิดที่เคยได้ลิ้มลองมา แถมเมื่อกินแล้วยังคล้ายกับมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นด้วย

เช่นนี้....เมื่อนำไปเสนอขายให้กับที่ใด ก็ไม่มีที่ใดที่จะกล้าปฏิเสธ อีกทั้งช่วงแรกยังชุลมุนยิ่งนัก เพราะเกิดสงครามการแย่งซื้อผักของนาง กว่านางจะจัดการได้ก็ต้องใช้ความสามารถเป็นอย่างมาก จึงตกลงได้ว่า นางจะขายผักให้กับภัตตาคารชื่อดังในเมืองหลวง จวนของขุนนางที่เคยมาส่งคนมาซื้อตามกติกาที่นางเคยกำหนดไว้ในช่วงแรก ร้านค้าที่อยู่ในตลาดฝั่งตะวันออกของเมืองหลวงที่เคยมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน และพ่อแม่ลูกบ้านตระกูลฝาน ที่เคยเป็นอดีตคนเร่ร่อนมาก่อน แต่นางเห็นพวกเขาซื่อสัตย์และมีความขยัน จึงได้ชักชวนให้มาขายผักกับนางด้วย แต่ขายบริเวณรอบนอกของเมืองหลวงเท่านั้น และเส้นสายคู่ค้าลึกลับอีกสายหนึ่งที่นางไม่ได้เปิดเผยกับผู้ใด

และทั้งหมดทั้งมวลที่นางทำ นางไม่ได้กระทำการอย่างเปิดเผยเท่าใดนัก ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันถูกปลูกที่ใด ผู้ใดเป็นคนปลูก ผู้ใดเป็นเจ้าของกิจการ ผู้ที่รู้ก็มีเพียงคู่ค้าคนสำคัญของนางเท่านั้นซึ่งก็รู้ไม่ทั้งหมด แม้กระทั่งมารดาของนางเองก็ไม่ได้รู้ทั้งหมด ไม่เพียงเท่านี้ คนงานผู้ที่รับหน้าที่ในการส่งผักของนางพวกเขายังไม่ได้เปิดเผยตัวตน ซึ่งทุกอย่างนี้มันก็มีเหตุผลของมัน

หนึ่งปีที่ผ่านมานั้น บ้านเสื่อมโทรมที่นางเคยมาอยู่ในตอนแรกนั้นไม่มีอีกแล้ว เพราะเพียงเดือนเดียว ‘โรงผักเซียนสวรรค์’ ที่เนรมิตจากมือปีศาจของนางก็สามารถทำรายได้จากการขายผักได้อย่างมหาศาล จึงทำให้บ้านหลังนี้มันดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก แม้ไม่ได้ใหญ่โตเท่าที่ควรก็ตามนั่นก็เพราะนางมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า รวมถึงนางให้ความสำคัญกับรั้วที่เป็นกำแพงสูงมากกว่าตัวบ้านเสียอีก

เพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดรู้ความลับของนาง และที่สามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้รวดเร็วเช่นนี้อย่างที่บอกว่าผักที่นางปลูกนั้นโตเร็วมาก ปลูกไม่นานก็ขายได้แล้วนางจึงเรียกมือตนเองว่ามือปีศาจอย่างไรเล่า คิดไปคิดมา จะว่านางไม่มีพลังวิเศษอันใดก็คงไม่ใช่ เพราะสิ่งนี้คงจะเรียกว่าเป็นพลังวิเศษของนาง อ้อ อีกทั้งนางยังมีพลังร่างกายที่แข็งแรงมาก แม้จะรูปร่างบอบบางก็เถิด

และเมื่อมีความเปลี่ยนไปมากเพียงนี้ มารดาก็ได้แต่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ หลาย ๆ ครั้งก็ร้องไห้และเอ่ยเล่าบางอย่างให้นางฟังด้วยน้ำเสียงที่ตื้นตันใจว่า....ในยามที่นางล้มป่วย ตลอดเวลาสามปีนั้น อีกฝ่ายได้แต่ขอพรให้นางแข็งแรง ขอเพียงแค่แข็งแรงเพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว แต่ผู้ใดจะรู้ว่านอกจากร่างกายจะแข็งแรงแล้วกลับมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายถึงเพียงนี้ เปลี่ยนความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว เรื่องแบบนี้น่าภูมิใจเหลือเกิน เสียดายก็แต่บิดาของนางที่ไม่มีโอกาสได้เห็นความสามารถของบุตรสาวอันเป็นที่รัก กล่าวจบนางก็ได้แต่ปลอบโยนอีกฝ่ายไป

แต่สิ่งที่ทั้งนางจิ่งซื่อและเหยาลี่ซือในตอนนี้ไม่รู้ นั่นก็คือก่อนที่เหยาลี่ซือคนเดิมจะจากไป นางก็ได้แต่ขออ้อนวอนจากเบื้องบนว่านับจากนี้ขอให้มารดาของตนมีความสุขและไม่ต้องลำบากอีกต่อไปเช่นกัน......

ในด้านของเหยาลี่ซือคนปัจจุบันแม้จะไม่รู้อันใดมาก แต่นางเพียงตั้งใจกับสิ่งที่ทำอยู่ปัจจุบันและคิดว่า แค่รู้เพียงเท่านี้มารดายังรู้สึกภูมิใจกับนางถึงเพียงนี้ หากรู้ว่านางยังแอบทำอันใดที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังอีก คงต้องให้มารดาได้ทำใจอยู่อีกหลายวัน

กลับมาที่ปัจจุบัน ยามนี้นางกำลังจะไปส่งผักที่ภัตตาคารอิงเว่ย ภัตตาคารชื่อดังในเมืองหลวง คู่ค้าภัตตาคารเงินหนักเพียงที่เดียวของนาง แขกที่มาใช้บริการที่นี่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีฐานะหรือมีชื่อเสียง หรือฐานะทางสังคมดีในเมืองหลวง ทั้งเชื้อพระวงศ์ เหล่าตระกูลขุนนาง คุณหนู คุณชายต่าง ๆ ไหนจะเหล่าบัณฑิตที่มีชื่อเสียง ล้วนแต่มาดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสชาติอาหารอันเลิศรสของที่นี่ ซึ่งต้องบอกว่าความเลิศรสของอาหาร ส่วนหนึ่งก็มาจากวัตถุดิบที่ดีอย่างผักของนาง

“เรียบร้อยแล้ว ดูแลตนเองด้วยนะซือเออร์ลูก” เสียงท่านแม่กล่าวขึ้นหลังจากที่เอาผักจัดใส่กระบุงที่นางสะพายอยู่จนเสร็จเรียบร้อย

“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวขากลับข้าจะซื้อขนมน้ำตาลที่ท่านชอบกลับมาฝากท่านด้วย” กล่าวเพียงเท่านั้นมารดาก็ยกยิ้มนัยน์ตาเต็มไปด้วยความสุข

ท่านแม่ชอบกินขนมน้ำตาล นางจะซื้อกลับมาฝากอยู่เรื่อย ๆ ยามออกไปส่งผัก แต่กินมากก็ไม่ดี โรคภัยถามหาแล้วจะยุ่ง

ในทุกครั้งที่นางไปส่งผักหรือทำการติดต่อเกี่ยวกับการค้า นางจะใช้ผ้าคลุมเพื่อปิดบังหน้าตาของตนเสมอ ไม่ได้จะกล่าวเกินจริงอันใด ตั้งแต่ที่นางกลายมาเป็นเหยาลี่ซือและเริ่มดูแลตนเอง นางก็ได้ค้นพบว่า ร่างกายนี้นั้นงดงามมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่ความเจ็บป่วยทำให้ทุกอย่างดูคล้ายกับถูกบดบังลงไป

แต่ยามนี้นางกินดีอยู่ดี อีกทั้งยังออกกำลังกาย ผิวพรรณเลยดูเปล่งปลั่งขึ้นเป็นอย่างมาก ฉะนั้น การออกไปพบคนมากหน้าหลายตา ในช่วงที่นางกำลังสร้างอำนาจของตนนั้น ไม่เป็นการดีนักที่จะเปิดเผยตนเองจนมากเกินไป

นอกจากการปิดบังหน้าตาของตนแล้ว การแต่งกายของนางก็ใช้อาภรณ์ที่ธรรมดาไม่ใช้สีฉูดฉาดหรือผ้าเนื้อดีมากดังเช่นที่คุณหนูในเมืองหลวงมักสวมใส่กัน แม้นางจะสามารถหาซื้อได้อย่างไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงินในคลังมากเพียงใดก็ตาม นางเพียงแค่คิดว่ามันดึงดูดสายตาเกินไป สีพื้น ๆ ทึบ ๆ จึงเป็นตัวเองที่ดีนักที่จะเลือกมาใช้

นางเดินคิดเรื่อยเปื่อย ไม่นานก็มาถึงภัตตาคารอิงเว่ยแล้ว เพียงแต่วันนี้คล้ายกับว่าที่นี่จะดูคึกคักมากเป็นพิเศษ

“แม่นางเหยาเชิญทางนี้ ๆ” เสียงของพนักงานต้อนรับของภัตตาคารที่รู้จักมักจี่กับนางเอ่ยทักขึ้นด้วยความเป็นกันเอง ที่จริงแล้วนางก็สนิทสนมกับแทบทุกคนในภัตตาคารแห่งนี้

“วันนี้มีอันใดหรือเหตุใดจึงดูคึกคักมากกว่าปกติ” นางเอ่ยถามเขา

“อ่า วันนี้มีการจัดแสดงความสามารถของเหล่าคุณหนูคุณชายในเมืองหลวงขอรับ” อีกฝ่ายตอบพร้อมกับยกยิ้มอย่างสดใส

“เอ๋ งานนี้ก็มีการจัดอยู่ตลอดมิใช่หรือ แต่เหตุใดวันนี้จึงดูไม่ปกติ”

“ใช่ขอรับ ครั้งนี้แตกต่างออกไปจากทุกครั้งจริง ๆ” อาเซินโน้มเข้ามากระซิบราวกับมีลับลมคมใน

“อย่างไร” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย อีกฝ่ายก็ไม่ให้นางรอนานจึงรีบคลายความสงสัยทันที

“เพราะว่าครั้งนี้ ห้าพธูของเมืองหลวง มาแสดงความสามารถครบทั้งห้าคน จึงทำให้มีหลายคนมาเฝ้ารอ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ต้องการสตรีที่เพียบพร้อมไปตบแต่งด้วยขอรับ”

ห้าพธูของเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ....

หากถามว่านางรู้เรื่องเหล่านี้หรือไม่ แน่นอนว่านางรู้ แต่นางไม่ได้สนใจในเรื่องเหล่านี้มากถึงเพียงนั้น เพราะมัวแต่มุ่งเกี่ยวกับการสร้างฐานะของตนเอง

แต่เหตุใดวันนี้นางคล้ายกับว่าจะมีบางอย่างที่นางต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel