บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : จุดเริ่มต้นของเรื่องราว 1/1

ตอนที่

[2]

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

เสียงสตรีที่ว่าก็คือ ‘มารดา’ ในภพนี้นั่นเอง ในยามที่อีกฝ่ายแทนตนเองว่าเป็นมารดา ภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในหัวของนางทันที ภาพที่สตรีนามว่าเหยาลี่ซือตื่นขึ้นมาในบ้านอันเก่าและเสื่อมโทรม อีกฝ่ายลุกขึ้นมาจากเตียงตลอดจนเดินออกมาจากในห้องก็ไม่พบมารดาของตนดังที่หวังไว้ จึงคิดได้ว่ามารดาคงจะออกไปทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาตนอีกเป็นแน่ ในยามนั้นเหยาลี่ซือได้แต่คิดว่าไม่อยากให้มารดาต้องลำบากเพื่อหาเงินมารักษาตนอีกแล้ว จึงตัดสินใจเดินออกจากบ้านเพื่อไปตามหามารดา แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อย ด้วยร่างกายที่ไม่สู้ดี และเมื่อเดินไปเรื่อย ๆ มารดาก็ยังไม่ได้พบ แต่กลับพบกลุ่มคนสารเลวพวกนั้นเสียก่อน หนึ่งในนั้นเข้ามาตบนางอย่างรุนแรง ด้วยร่างกายเช่นนั้นจึงสลบไปในทันที แล้วสุดท้ายก็โดนพวกมันพาตัวไปยังบ้านร้างแห่งนั้น

‘แล้วนางกลายมาเป็นเหยาลี่ซือได้อย่างไร สรุปแล้ว นางตายแล้วใช่หรือไม่’ คำถามนี้เกิดขึ้นในใจของหลิวลี่ซือ

ในยามนั้นนางนึกได้ขึ้นมาอย่างหนึ่ง ในตอนที่พักจากการซ้อม สหายสนิทมักจะเอาหนังสือนิยายแนวย้อนเวลาไปในอดีต หรือย้อนในยุคที่คล้ายจีนโบราณมาให้นางอ่านอยู่บ่อย ๆ นางก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แต่สิ่งที่นางรู้ ในช่วงต้นของการดำเนินเรื่อง นางเอกก่อนจะข้ามภพก็มักจะพบกับเหตุการณ์ที่ชวนมึนงงเช่นนี้เช่นเดียวกัน นางจึงสรุปได้ว่า ยามนี้นางกลายเป็นอีกคน ที่ชื่อเหยาลี่ซือ ในยุคสมัยที่คล้ายจีนโบราณดังเช่นนิยายที่เคยอ่านไปเสียแล้ว.........

ส่วนเหยาลี่ซือตัวจริงก็คงตายไปในตอนที่โดนพวกนั้นทำร้ายตั้งแต่ครั้งนั้นอย่างแน่นอน ด้วยร่างกายอีกฝ่ายที่ไม่สู้ดี หลังจากนั้นนาง...เมื่อเริ่มเข้าใจเรื่องราวว่านางคงต้องอยู่ที่นี่ นางจึงได้ตัดสินใจทำการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งยิ่งใหญ่..........

เพราะความเป็นอยู่ที่นี่นั้นลำบากมาก เหยาลี่ซืออยู่กับมารดาสองคนในบ้านที่เก่าจวนจะพังลงมาหลายปี แม้มารดาจะบอกว่าที่นี่อยู่ในเขตเมืองหลวง แต่นางสอดส่ายไปโดยรอบแล้ว มันช่างห่างไกลจากความเจริญของคำว่าเมืองหลวงเสียเหลือเกิน

หากย้อนไปที่ว่าสาเหตุใดทั้งสองจึงได้มาอยู่ที่นี่ แรกเริ่มนั้นครอบครัวตระกูลเหยานั้นมีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ผู้เป็นบิดานั้นจะทำการค้าขายเล็ก ๆ ที่เดินทางไปทั่วทั้งแคว้น เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว จวบจนกระทั่งมีโอกาสได้เดินทางมาที่เมืองหลวง เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นี่จึงอยากให้ครอบครัวของตนได้มีโอกาสเช่นเดียวกันบ้าง จึงได้รวบรวมเงินเก็บทั้งชีวิตเพื่อมาซื้อที่ดินผืนนี้ไว้ แม้ไม่ใหญ่มากน่าจะไม่ถึง 1 หมู่ด้วยซ้ำแต่ก็ถือว่าอยู่ในเขตเมืองหลวงที่ราคาที่ดินสูงยิ่งกว่าอะไร และเมื่อได้โฉนดแล้ว จึงทำการเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชนบท เพื่อพาสมาชิกในครอบครัวย้ายมาอยู่กันที่เมืองหลวง

แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าระหว่างทางที่พาทุกคนเดินทางไปเมืองหลวง จะเกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้น ด้วยความเร็วของน้ำที่พัดพาอย่างอันตรายนั้น ทำให้ผู้เป็นบิดาตัดสินใจช่วยชีวิตภรรยาและบุตรสาวของตนก่อน ส่วนตนนั้นเมื่อคิดว่าไม่สามารถต่อสู้กับความเลวร้ายจากภัยธรรมชาติได้ จึงได้แต่ส่งโฉนดที่ดินและเงินที่เหลือจากการซื้อที่ดินส่งให้ผู้เป็นภรรยาเก็บไว้ด้วยความเร่งรีบเพียงเท่านั้น จากนั้นก็ได้แต่ปล่อยให้น้ำพัดพาตนเองไปอย่างไม่อาจทำอันใดได้ สองแม่ลูกที่พบกับเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงต่อหน้าต่อตาเช่นนั้นก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้จนจวนแทบขาดใจ ที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาสูญเสียผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไปเช่นนี้

แต่แล้วอย่างไร...สุดท้ายชีวิตต้องไปต่อ

ทั้งคู่จึงได้แต่มุ่งหน้าเดินทางไปที่เมืองหลวงตามความต้องการสุดท้ายของผู้เป็นสามีและบิดา แต่อนิจจาการเดินทางช่างยาวไกลและลำบากเหลือเกิน ด้วยเงินที่มีไม่มาก นางจิ่งซื่อจึงตัดสินใจที่จะเดินเท้าไปเรื่อย ๆ แต่ผู้ใดจะรู้ว่ากว่าจะถึงเมืองหลวงร่างกายของผู้เป็นบุตรสาวนั้นก็เปลี่ยนไปจากผู้ที่แข็งแรง กลายเป็นคนขี้โรคที่ต้องนอนซมติดเตียงถึงสามปีไปเสียแล้ว

นางจิ่งซื่อจึงได้แต่โทษตนเองตลอด ว่าตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้บุตรสาวต้องเจ็บป่วย เมื่อมาถึงเมืองหลวง นางจึงใช้เงินที่มีอันจำกัด ทำการจ้างช่างมาสร้างบ้านแบบพออยู่ได้เพียงเท่านั้น เพราะต้องเหลือเงินเอาไว้เพื่อใช้ในการรักษาบุตรสาว โชคดีที่ที่ดินที่สามีซื้อไว้นั้น ไม่ได้อยู่ในบริเวณที่เป็นบ้านเรือนขุนนางหรือเศรษฐีนิยมอยู่กัน เพราะไม่เช่นนั้น บ้านที่สภาพเช่นนี้คงจะดูแปลกแยกเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรแล้วหากเทียบกับบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณเดียวกัน ก็ถือว่าเล็กและไม่คล้ายกับบ้านเรือนผู้ที่อยู่ในเขตเมืองหลวงสักนิด

และจากวันนั้นจวบจนวันที่นางข้ามภพมา บ้านที่แรกเริ่มเป็นอย่างไร มาวันนี้ก็เป็นรูปทรงเช่นนั้นเพราะไม่ได้มีการปรับปรุงต่อเติมอันใด และที่สำคัญจะว่าเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะมันทรุดโทรมลงไปกว่าเดิมมาก นางที่ข้ามภพมารู้สึกว่ารับไม่ได้เหลือเกิน นางไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่โต แต่ขอให้มันดีกว่านี้ได้หรือไม่

จึงได้แต่มาไตร่ตรองดูว่าตนเองนั้นสามารถที่จะทำอันใดได้บ้างเมื่ออยู่ที่นี่ เพราะการข้ามภพมานั้น นางไม่ได้มีพลังวิเศษหรือมิติวิเศษอันน่าทึ่งอันใด ขบคิดอยู่นาน นางเลยคิดว่าจะปลูกผัก ไม่ใช่เพราะมันเป็นสิ่งที่ยอดฮิตที่คนข้ามภพมามักจะทำกัน แต่เป็นเพราะเมื่อหลายวันก่อนหน้า นางไปเดินสำรวจที่ในเขตเมือง ผักนั้นคล้ายจะเป็นสินค้าที่ทำรายได้ได้ดีมาก ถามว่าโลกก่อนนั้น นางเคยปลูกผักหรือปลูกผักเก่งหรือ......

ก็ต้องบอกเลยว่าไม่!

นางไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน เพราะชีวิตก็มีแต่การฝึกซ้อมกีฬาเท่านั้น แต่นางอยากจะลองดู เลยได้แต่ขอทุนจากมารดาเพียงเล็กน้อยเพื่อไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมาปลูก..........

หากกล่าวถึงมารดา มารดาของนางนั้นเป็นผู้ที่จิตใจดี อ่อนโยน เป็นมิตรกับผู้คน แต่ในหลายครั้งนางคิดว่ามารดาออกจะเป็นคนหัวอ่อนและยอมคนมากเกินไป บางครั้งก็มักจะถูกคนที่นิสัยไม่ดีมาเอาเปรียบ นาง

จึงได้แต่คิดว่า ต่อไปนางจะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เพื่อดูแลมารดาและสร้างฐานะของทางบ้านให้ดีขึ้นเอง และอีกเหตุผลที่ทำให้นางทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตนเองอย่างกะทันหันนี้ได้ นั่นก็เป็นเพราะมารดาในชาติภพผู้นี้ เพราะอีกฝ่ายมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับมารดาในโลกก่อนที่เสียไปตั้งแต่ครั้งที่นางยังเป็นเด็กเหลือเกิน ความอบอุ่นเช่นนี้ ยากที่จะหาจากที่อื่นได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel