บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 : ช่วยชีวิต 1/2

ตอนที่

[6]

ช่วยชีวิต

“อย่างไรข้าก็ยังไม่คิดเรื่องนั้น” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่ปฏิเสธ นางจึงไม่ได้ไปเร่งเร้าอันใดเขา ที่จริงอายุเท่าเขาและนางตอนนั้นยังถือว่าเด็กในโลกก่อนนัก แต่ที่นางถามเขาเพราะเห็นว่าสหายวัยเด็กของเขาเพิ่งตบแต่งภรรยาไป จึงมีความคิดขึ้นมาว่า เขาอยากแต่งงานเช่นเดียวกับสหายตนหรือไม่ อีกทั้งช่วงนี้เขายังมีแม่นางว่านบุตรสาวของร้านขายแป้งย่างมาแสดงท่าทีว่าชอบพอเขาด้วย แต่ถ้าเขาบอกว่าไม่ นางก็จะไม่ถามเขาอีก

“เอาเถิด ไม่คิดก็ไม่เป็นไร ข้าก็เช่นกัน จริง ๆ ที่ข้าจะบอกก็คือวันนี้ข้าจะต้องไปเจรจาธุระ เจ้าก็ดูแลจัดการเอาผักรอบที่ตัดวันนี้ไปส่งครอบครัวตระกูลฝานที่เดิม แต่ครั้งนี้เน้นย้ำกับคนตระกูลฝานด้วยว่าให้ระวังกลุ่มคนแปลกหน้าด้วย ช่วงนี้เมืองหลวงมีความปั่นป่วนแปลก ๆ” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แววตาของเหยาลี่ซือก็คล้ายจะเข้มขึ้น

“เช่นนั้นก็ตามนี้” เมื่อสั่งการเสร็จและเห็นว่าเขาพยักหน้ารับนางก็หมุนกายออกไปทันที หลินชางมองตามผู้ที่เป็นทั้งผู้มีพระคุณและผู้ที่เขาคิดเอาไว้ว่าเขาจะอยู่ตอบแทนนางทั้งชีวิตของเขาด้วยสายตาเศร้าหมองครู่หนึ่งแต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

วันนี้นางมีธุระที่ต้องไปพูดคุยกับคู่ค้าคนสำคัญของนางอีกผู้หนึ่ง คนผู้นั้นนัดนางที่โรงเตี๊ยมที่มักจะนัดเจอเป็นประจำ การพูดคุยช่วงแรกเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แต่เมื่อตกลงกันและหาแนวทางที่จะดำเนินกันไปอย่างเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศช่วงหลังจึงดีขึ้นมาก จวบจนเมื่อได้เวลา นางและอีกฝ่ายจึงแยกย้ายกันไปราวกับว่าไม่เคยได้มีการนัดพบกันมาก่อนเฉกเช่นทุกครั้ง

เมื่อเดินออกห่างโรงเตี๊ยมแห่งนั้นจนเข้าสู่ถนนหลัก นางตัดสินใจเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ เพื่อดูบรรยากาศความเป็นไปของเมืองหลวงที่คล้ายจะมีความสงบ แต่เป็นความสงบก่อนที่พายุจะมา.....

และนั่น...เหมือนนางจะเห็นเค้าลางความวุ่นวายอีกแล้วใช่หรือไม่

ด้านเซียวไจ้เสวียนและสหายอย่างสนิทจิ้นปู้ อานฉวน ในยามนี้ก็คล้ายจะพบกับปัญหาใหญ่เข้าเสียแล้ว เหตุก็เพราะกำลังเผชิญกับกลุ่มคนต่างถิ่นนับสิบที่กำลังหาเรื่องพวกเขา ยามที่ยืนรอคนของตนไปต่อแถวซื้อซาลาเปาเจ้าดังของเมืองหลวงอยู่ และเขาก็ไม่มีทางยินยอมเด็ดขาด

คนรับใช้ของเขาและสหาย ยืนรอต่อคิวซื้ออยู่ดี ๆ แต่เมื่อกลุ่มคนต่างถิ่นรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางป่าเถื่อนมาถึง ก็มาแทรกคิวทุกคนหนำซ้ำยังใช้กำลังกับคนที่ไม่ยินยอมด้วย ซึ่งเขาและจิ้นปู้ อานฉวนแม้จะรออยู่รอบนอกก็ยังโดนชนเข้าเต็ม ๆ

“พวกเจ้าไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรือ” เซียวไจ้เสวียนเอ่ยขึ้นเสียงกรุ่น

“เหตุใดพวกข้าต้องขอโทษ หากพวกเจ้าไม่พอใจ ก็เขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ข้านี่ หากพวกเจ้ากล้า” แต่อีกฝ่ายคล้ายจะไม่สะทกสะท้านสักนิด หนำซ้ำยังแสดงท่าทีท้าทายเหล่าคุณชายหน้าอ่อนตรงหน้าอีกด้วย

“เป็นคนต่างถิ่นแต่ทำตัวไม่มีมารยาทอีกทั้งทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยกิริยาเช่นนี้ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเลยหรืออย่างไร”

“หึ กฎหมายอันใด ข้าก็แค่มาซื้อซาลาเปา คนของเจ้าต่างหากที่ทำตัวเกะกะเอง หากยินยอมดี ๆ จะเจ็บตัวเช่นนั้นหรือ ว่าแต่เมื่อกี้เจ้าว่าอันใดนะ ไม่มีมารยาทกิริยาป่าเถื่อนหรือ”

“อือ แล้วมันจะทำไม” เซียวไจ้เสวียนกล่าวอย่างไม่มียอมลดละ

“ปากดีเช่นนี้ต้องจัดการสักหน่อยเสียแล้ว” หนึ่งในกลุ่มกล่าวขึ้นทั้งยังง้างขาถีบหมายจะถีบคุณชายตรงหน้าอย่างไม่ลังเล

ตุบ!

ทว่าบ่าวรับใช้ของเขารีบมารับลูกถีบนี้ได้ทันท่วงที

“พวกเจ้ากล้า!!” การกระทำเช่นนั้นส่งผลให้เซียวไจ้เสวียนกัดฟันกรอด

“ช่างกระทำการอุกอาจนัก!! อานฉวนไปตามคนของทางการมา การกระทำป่าเถื่อนทั้งยังไม่กลัวกฎหมายเช่นนี้ เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้!!” จากนั้นจึงหันไปสั่งการสหายของตนทันที

“ได้ ๆ ข้าจะรีบไป” ด้านอานฉวนเมื่อรับคำสั่งสหายจึงรีบหมุนกายออกไปทันทีแต่ก้าวไปได้ไม่ทันไร ก็โดนกลุ่มคนแปลกหน้าถีบไปที่ด้านหลังของเขาเสียแล้ว

“อานฉวน!!” ทั้งเซียวไจ้เสวียนและจิ้นปู้ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากที่สหายของตนล้มคว่ำหน้าลงไปเช่นนั้น ทั้งสองจึงรีบเข้าไปพยุงอานฉวนให้ลุกขึ้นมาทันที จากนั้นก็ส่งสายตาไม่พอใจไปที่กลุ่มคนต่างถิ่น โดยเฉพาะกับเซียวไจ้เสวียน เขาส่งอานฉวนให้จิ้นปู้และบ่าวรับใช้ของอีกฝ่ายประคองไว้ ส่วนตนก็เดินไปเผชิญหน้ากับผู้ที่คล้ายกับเป็นหัวหน้ากลุ่ม แม้ว่าทั้งสหายและบ่าวรับใช้จะพยายามดึงตัวของเขาไว้เพียงใดเขาก็ไม่หยุด

“พวกเจ้าทำเช่นนี้ รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นผู้ใด หากมีเรื่องกับข้า คิดว่าตนจะรับผิดชอบไหวหรือไม่” เมื่อกล่าวเช่นนั้นออกไป นอกจากอีกฝ่ายจะไม่เกรงกลัวแล้ว ยังยื่นมืออันแข็งแรงเข้ามาผลักไหล่ของเขาด้วยแรงอันมหาศาลอีกด้วย

“ข้าไม่กลัว ต่อให้เจ้าเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่กลัว” เมื่อบุรุษต่างถิ่นตัวโตกล่าวจบก็มีเสียงฮือฮารอบด้านเกิดขึ้น กล้ากล่าวเช่นนี้ทั้งที่อยู่ในเมืองหลวงได้อย่างไร

“ช่างบังอาจนัก เดี๋ยวได้รู้กัน!!”

“หรือออออออออออออ แล้วเจ้าจะทำอันใดกัน” อีกฝ่ายลากเสียงยาว จากนั้นก็จับเข้าที่คอเสื้อของเขา ด้วยรูปร่างและพละกำลังของทั้งคู่ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ทางเซียวไจ้เสวียนนั้นเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ในยามนี้เขาแทบจะตัวลอยขึ้นจากพื้นแล้ว

แต่ในช่วงจังหวะของความอันตรายนั้น อยู่ดี ๆ กลับมีพลังงานปริศนาโจมตีเข้าที่ข้อมือของหัวหน้าคนต่างถิ่นที่กำลังจับคอเสื้อของเซียวไจ้เสวียนไว้ยามนี้ด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้อีกฝ่ายปล่อยมือจากคอเสื้อของเขาทันที

“โอ๊ยยยยย ผู้ใด มันผู้ใด กล้าทำร้ายข้า!!”

“ข้าเอง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel