3
ที่จอดรถวีไอพี... อีเดนพาสาวเจ้าเดินมาหยุดที่ BMW Z4 เปิดประทุนสีดำเงา ตัดกับเบาะหนังสีแดง ทำให้โดดเด่นและดึงดูดสายตาของคนที่พบเห็น แต่คงจะยกเว้นสาวตรงหน้าที่กำลังเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เชิญครับ” อีเดนบอกก่อนจะเปิดประตูรถให้สาวเจ้าเข้าไปนั่ง
“ขอบคุณค่ะ” มารียาเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่าย เพราะภายในหัวกำลังคิดทบทวนเรื่องของธันวากับสาวที่เป็นคู่ขา เหมือนเธอเคยเห็นอีกฝ่าย ที่ไหนมาก่อน
อีเดนเดินอ้อมไปนั่งประจำตำแหน่ง จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทที่ใส่ออก แล้วส่งให้สาวเจ้าใส่ทับชุดเดรสที่สุดแสนจะเซ็กซี่และเย้ายวนอารมณ์ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นสัดส่วนของเธอ
“ขะ... ขอบคุณค่ะ” มารียาตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ส่งเสื้อมาให้ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำใสๆ ที่ห่างตาก่อนจะรับเสื้อมาสวมทับอย่างรู้สึกอายขึ้นมานิดๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพค่อนข้างโป๊
ติ๊ดๆๆ
เสียงมือถือดังขึ้น มารียารีบเปิดกระเป๋าถือใบเล็กออก แล้วกดรับสายของเพื่อนรัก
“รียา! แกอยู่ไหน” อลิชาถามเสียงดัง
“ฉะ... ฉันอยู่ข้างนอก” มารียาบอกเสียงสั่น เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองทิ้งเพื่อนเอาไว้ในคลับแล้วหนีออกมา
“พี่แก! ฉันเจอพี่ชายแกที่หน้าคลับตอนออกมารับสาย แล้วตอนนี้ก็ยืนคุมฉันอยู่หน้าห้องน้ำ แกรีบกลับไปเลยนะ ฉันบอกพี่ป้องว่ามาเที่ยวคนเดียว” อลิชาบอกเสร็จก็รีบกดวางสายเพราะได้ยินเสียงเคาะหนักๆ ที่หน้าประตูห้องน้ำดังขึ้น
“เพื่อนของคุณโทรมาเหรอ?” อีเดนถามขึ้นเมื่อเห็นสาวเจ้านิ่งไป
“ค่ะ” มารียาตอบพลางนึกไปถึงพี่ชายที่หากรู้เรื่องของธันวากับ สาวคนนั้นเข้า อีกฝ่ายคงไม่ยอมอยู่เฉยเป็นแน่ และตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะพูดหรือบอกใครๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
“เขาว่าไง” อีเดนเริ่มกลัวว่าสาวเจ้าจะเปลี่ยนใจไม่ไปกับตน
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยค่ะ อลิซให้ฉันกลับก่อน” มารียาบอก
“คุณอยากไปดื่มต่อไหม?” อีเดนอมยิ้มนิดๆ อย่างพอใจกับคำตอบ
“เอ่อ...” มารียาที่เริ่มได้สติเริ่มลังเล และถามตัวเองว่าเธอเข้ามานั่งในรถของอีกฝ่ายได้ยังไง
“ผมสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินหรือทำไม่ดีกับคุณ” อีเดนรีบบอก
“ฉัน...” มารียาหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มใจสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ผมให้คุณดูบัตรประจำตัวของผมได้หากคุณไม่ไว้ใจ...”
“อะ... โอเคค่ะ ฉันจะไปกับคุณ” มารียารีบบอกคนที่ทำท่าจะล้วงกระเป๋ามาเปิดให้เธอดู
“ครับ” อีเดนยิ้มก่อนจะขับรถไปยังสถานที่พิเศษที่ไม่ได้ไปมานาน
มารียามองสองข้างทางที่รถแล่นผ่าน ขณะที่ภายในใจเกิดคำถามมากมายเมื่อนึกไปถึงธันวากับหญิงสาวที่ชื่ออร เขาดูเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับผู้หญิงคนนั้น ไม่มีท่าทีประหม่า ไม่มีสายตาที่เก้อเขิน และไม่ใช่ผู้ชาย ที่เธอเคยจะฝากชีวิตเอาไว้อีกต่อไป ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา มันพังลงต่อหน้าต่อตาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภาพวันที่เขาคุกเข่าขอเธอแต่งงาน ภาพวันที่เธอเรียนจบปริญญาแล้วเขาหอบดอกไม้ช่อโตไปให้ ภาพเซอร์ไพรส์วันเกิด และภาพที่เขาโทรคุยวิดีโอคอลกับเธอเมื่อสอง-สามชั่วโมงก่อน มันทำให้รู้สึกเหมือนกับถูกใบมีดที่คมกริบเฉือนลงที่หัวใจช้าๆ และค่อยๆ บาดลึกเข้าไป เมื่อความทรงจำต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่ขาดสาย
เช้าวันต่อมา... 08 : 07 น.
มารียาขยับตัวพลางรู้สึกปวดหัวราวกับกำลังแบกโลกทั้งใบเอาไว้อย่างหนักอึ้ง เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะตกใจเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของใครบางคนที่กำลังเป่ารดต้นคอ
“ไม่จริง!” หญิงสาวสตั๊นไปสามวินาที หลังจากถูกมือหนาของคนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลังกระชับตัวเธอเข้าไปกอดแนบหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามแน่นๆ
“อื้อ...” เสียงครางขัดใจที่ดังขึ้นข้างๆ หู ทำเอามารียาถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว ‘บ้าจริง! นี่เมื่อคืนเธอเมาแล้วเสียตัวให้กับผู้ชายที่รู้จักแค่คืนเดียวอย่างนั้นเหรอ?’
คนที่เพิ่งได้สติ พยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จนกระทั่งมานอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกับชายแปลกหน้า
เธอนอนนิ่งไม่กล้าขยับตัวจนกระทั่งได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่าย จึงค่อยๆ ดึงมือหนาออกจากเอว แล้วขยับลงจากเตียงไปอย่างระมัดระวัง กลัวว่าคนที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมา
แต่ทว่า... แข้งขากลับไม่มีแรงเอาเสียเลย ทำให้เธอต้องทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหลังจากที่ก้าวเดินได้เพียงสามก้าว ความเจ็บปวดตรงแก่นกายสาว ตอกย้ำให้หวนนึกไปถึงของสำคัญที่เธอเฝ้าเก็บรักษาเพื่อจะมอบให้คนรักในคืนวันแต่งงาน
‘งามไส้แล้วไหมล่ะรียา’ เธอต่อว่าตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาทิ้งลวกๆ แล้วหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าจะโกรธอีกฝ่ายหรือว่าโกรธตัวเองดี ที่เมาจนขาดสติ แล้วเผลอทำเรื่องโง่ๆ ลงไป
มารียาค่อยๆ คลานเข้าไปเก็บเสื้อผ้าที่หล่นตามพื้นขึ้นมาสวมใส่ด้วยมือไม้สั่นๆ กลัวว่าคนที่นอนบนเตียงจะตื่น และถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็คงจะทำหน้าไม่ถูก เธอหยิบชุดเดรสตัวเดิมขึ้นมาใส่ จากนั้นก็แอบหยิบเสื้อสูทของอีกฝ่ายที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมาสวมทับ แล้วหันไปคว้ากระเป๋าถือของตัวเอง เดินตรงดิ่งไปที่ประตูห้องอย่างไม่รอช้า
ทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา มารียาก็เจอกับเมดทำความสะอาดที่เดินออกมาจากห้องข้างๆ เธอส่งยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่ายอย่างรู้สึกเขินอาย ก่อนจะแอบสะดุดตากับชื่อของโรงแรมที่ปักบนเสื้อพนักงาน
‘แม่เจ้า! นี่เรานอนค้างที่โรงแรมมะลิฉัตรแกรนด์เหรอเนี่ย?’
มารียาตาโตพลางคิดไปว่า ถ้าหากเธอลงลิฟต์ไปที่ด้านล่าง แล้วเจอคนที่รู้จักเข้า จะทำยังไง?
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ พะ... พอจะมีทางออกที่ไม่ต้องผ่านด้านหน้า ล็อบบีไหมคะ? คือฉัน...กลัวเจอคนรู้จักน่ะค่ะ” มารียาจำใจกัดฟันถาม เพราะไม่อยากให้เรื่องที่นอนค้างโรงแรมไปเข้าหูของมารดาและพี่ชาย
“มีค่ะ! จะให้เรียกรถไปส่งด้วยไหมคะ?” พนักงานยิ้มบางๆ ให้อย่างเข้าใจ
“เยี่ยมเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ” มารียายกมือไหว้ ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายลงลิฟต์ไปที่ชั้นสอง จากนั้นก็เดินตรงไปยังบันไดลับที่ทะลุออกทางด้านหลังของโรงแรม เธอยืนรอไม่ถึงสองนาที รถแท็กซี่ก็ขับเข้ามาจอด และพาไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ
สี่สิบห้านาทีต่อมา... Orianna Condo
ก๊อกๆ มารียาเคาะหนักๆ ที่ประตูห้องของเพื่อนสาวอย่างรีบร้อนใจ เพราะไม่กล้ากลับบ้านในสภาพที่ล่อแหลม กลัวจะถูกมารดาต่อว่า จึงต้องมาขอเปลี่ยนเสื้อผ้าและสอบถามเรื่องที่พี่ชายตามไปที่ไนต์คลับเมื่อคืน
“รียา!” ปริณตาโต เมื่อเปิดประตูห้องออกมาแล้วเจอน้องสาวยืนอยู่หน้าห้อง
“พะ... พี่ป้องมาทำอะไรที่ห้องของอลิซ” มารียาถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นพี่ชายตัวดีของเธออยู่ในห้องของเพื่อนสนิท โดยสวมแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“เอ่อ...พี่...” ปริณยืนอึ้งไม่รู้จะตอบหรือบอกเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง
“อลิซ! อลิซ!” มารียาผลักร่างหนาของพี่ชายที่ยืนขวางทางเพื่อจะเข้าไปหาเพื่อนสาวที่อยู่ข้างใน
“เดี๋ยวรียา!” ปริณรีบคว้าแขนของน้องสาวเอาไว้
“พี่ป้องทำอะไรอลิซ ฮึก!” มารียามองใบหน้าคมเข้มของพี่ชายผ่านม่านน้ำตา รับรู้ได้ทันทีทันใดว่าเกิดขึ้นอะไรกับเพื่อนสาว
“พี่...พี่ขอเคลียร์กับอลิซก่อนได้ไหม” ปริณบอกเสียงอ่อน
“ฮึก! อลิซคือเพื่อนรักของหนู ถ้าพี่ป้องไม่รับผิดชอบละก็ จบไม่สวยแน่!” มารียาคาดโทษด้วยสายตาขุ่นเคือง พร้อมกับพยายามมองเข้าไปในห้องนอน แต่ก็ถูกปริณดันตัวให้ออกไปที่ประตูหน้าห้อง
“เรากลับบ้านไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอเคลียร์กับอลิซเสร็จแล้วจะรีบตามไป” ปริณปิดประตูห้องทันทีหลังจากที่พูดจบ
“พี่ป้อง!” มารียากำลังยืนนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาของตัวเอง ว่าพี่ชายจอมโหดของเธอจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
“บ้าจริง! กลับบ้านไปสภาพนี้มีหวังโดนแม่สวดยาวแน่”
คนกลับไม่ได้ไปไม่ถูก หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนซี้อีกคน ที่เป็นลูกชายเจ้าของคอนโดที่อลิชาอยู่
ตู๊ดด ตู๊ดด เสียงรอสายดังเพียงสองครั้ง ปลายสายกดรับทันที
“ว่าไงรียา”
“จอห์น! แกอยู่ไหน”
“อยู่ที่คอนโดนี่แหละ มีอะไรหรือเปล่า” ปลายสายแกล้งถามขณะมองเพื่อนสาวผ่านกล้องวงจรปิดของคอนโด
“มีเรื่องรบกวนน่ะ” มารียาบอกพลางกระชับเสื้อสูทปิดบังหน้าอกขนาดตู้มของเธออย่างกลัวใครจะผ่านมาเห็น
“แกอยู่หน้าห้องอลิซใช่ไหม” ปลายสายบอกพลางกลั้นหัวเราะ
“แกดูกล้องอยู่เหรอ!” มารียาหันมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงหน้าทันใด
“ใช่! ฮ่าๆๆ” จอห์นหัวเราะชอบใจกับสีหน้าเอาเรื่องของเพื่อนสาว
“แกรู้เรื่องพี่ชายของฉันกับอลิซใช่ไหม?” มารียาถามน้ำเสียงตึงๆ
“รู้สิ! รู้ดีเลย อ้อ! แล้วเมื่อคืนมีคนเห็นแฟนของแก ไอ้หน้าเหงือกนั่นไปนั่งดื่มกับสาวคนหนึ่ง ท่าทางจะคั่วกันมานานแล้วด้วย” จอห์นรีบรายงานเรื่องที่รู้มาสดๆ ร้อนๆ ให้เพื่อนสาวฟัง
“...” มารียายืนนิ่ง หลังจากที่ได้ยินคำบอกเล่า ภาพต่างๆ นานาของธันวากับผู้หญิงอีกคนหวนกลับมาฉายซ้ำทันใด
“รียา! แกฟังอยู่ไหม?” จอห์นเริ่มใจคอไม่ดี เมื่อเห็นอาการสลดของเพื่อนสาวผ่านหน้าจอ
“ฟัง!” มารียาตอบเสียงแผ่วเบา
“แกโอเคหรือเปล่า?” จอห์นถามพลางต่อว่าตัวเองในใจที่เผลอพูดไปโดยลืมคิดไปว่าเพื่อนจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
“ไม่” มารียาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
“เดี๋ยวฉันลงไปรับที่หน้าห้องอลิซนะ”
“ไม่ต้อง! ฉันจะขึ้นไปหาแกที่ห้องเอง มีเรื่องรบกวนนิดหน่อย”มารียาบอกจบก็กดวางสาย แล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที