4
สองนาทีต่อมา... (ชั้นบนสุดของคอนโด)
“เดี๋ยวนะ! นี่แกแอบหนีพี่ป้องไปเที่ยวมาเหรอรียา” จอห์นเอ่ยถามพลางจ้องมองชุดที่เพื่อนสาวใส่สายตาขวางๆ
“อืม” มารียากลอกตากับท่าทางของเพื่อนชายสุดหล่อ ที่คบหากันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นพร้อมกับอลิชา
“แกไปกับใคร?” จอห์นถามเสียงเข้ม
“ไปกับอลิซน่ะแหละ” มารียาบอกพลางหลบสายตาของอีกฝ่าย
“อ้าว! แล้วทำไมไม่กลับพร้อมกันล่ะ” จอห์นถามต่ออย่างสงสัย
มารียาถอนหายใจยาว ก่อนจะเล่าเรื่องที่เจอมา “เมื่อคืนฉันนัดกับ อลิซไปฉลอง หลังจากที่สอบเข้าทำงานที่ไคเลอร์ได้...”
“ทำไมไม่ชวนฉัน!” จอห์นถามขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ
“ก็แกมัวแต่อินเลิฟกับแม่นางเอกดังอยู่ไม่ใช่เหรอ?” มารียามองค้อนอย่างอดไม่ได้
“อินเลิฟบ้าอะไร แกก็รู้ว่าฉันซั่มเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ” จอห์นยกไหล่ขึ้นนิดๆ เพื่อจะบอกว่าไม่ได้พิเศษไปจากคนที่ผ่านๆ มาแต่อย่างใด
“โอเค! ถ้าเขามาสำรวจโพลล์ ฉันจะใส่ชื่อแกลงไปในช่องบุคคลใกล้ตัวที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV แล้วกันนะ” มารียา อดประชดคนหล่อเสน่ห์แรงไม่ได้
“ฉันป้องกันทุกครั้งน่า” จอห์นกลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อถูกล้อ
“ให้จริง! เพราะไม่งั้นฉันกับอลิซคงจะอับอายถ้าต้องไปงานศพ ของแก แล้วได้ยินเสียงซุบซิบนินทาว่า...”
“พอๆ มาเข้าเรื่องเดิมกันดีกว่ารียา!” จอห์นรีบบอกก่อนที่อีกฝ่ายจะขยายภาพไปไกลจนกระทั่งถึงตอนที่เปิดฝาโรงดูศพก่อนเผา
“ฉันกับอลิซดื่มกันได้สักพัก พี่ป้องก็โทรมา อลิซก็เลยวิ่งออกไปรับสายที่ด้านนอก แล้วฉันก็เห็น... พี่ธันกำลังนัวอยู่กับสาว” มารียาบอกโดยข้ามเรื่องของอีเดนไป แต่ทว่าภายในใจกับจดจำใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายได้จนติดตา
“บ้าจริง! แล้วแกทำไงต่อ ได้เข้าไปตบนังนั่นหรือว่าไอ้หน้าเหงือกไหม?”
“ไม่! ฉันเดินมาที่โต๊ะแล้วเช็กบิลกลับเลย”
“อ้าว! แล้วอลิซล่ะ”
“ตอนนั้นมันสติแตก เลยลืมอลิซไปเพราะเอาแต่ร้องไห้ รับไม่ได้กับสิ่งที่เห็น ฉันวิ่งออกมาข้างนอก แล้วขึ้นแท็กซี่หลบไปที่อื่น” มารียาเลือกที่จะโกหก เพราะไม่อยากจะบอกเรื่องน่าอับอายให้ใครรับรู้
“เดี๋ยววันนี้จะไปดักกระทืบไอ้ธันวาให้ ฉันไม่ชอบขี้หน้ามันมานานแล้ว จนตอนที่มันหมั้นกับแกฉันก็ไม่ชอบขี้หน้ามันอยู่ดี” จอห์นบอกด้วยน้ำเสียงเดือดดาล ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตีตัวออกห่างจากมารียาก็เพราะเกลียดขี้หน้าของธันวา
“ไม่ต้องหรอกจอห์น! ฉันคงจะจบกับพี่ธันแค่ตรงนี้ แต่ขอเวลาสักสองสามวัน ฉันจะคืนแหวนและบอกเลิกกับเขาเอง” มารียาบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“นี่พี่ป้องกับอลิซรู้เรื่องนี้หรือยัง?”
“ยัง! แกเป็นคนแรกที่รู้จอห์น ฉันขอร้องว่าอย่าบอกพี่ป้องกับอลิซเรื่องนี้ได้ไหม”
“ก็ได้! แต่แกห้ามกลับไปคบกับไอ้ธันอีก ไม่งั้นฉันจะบอกพี่ป้อง” จอห์นรีบดักทาง กลัวเพื่อนสาวจะใจอ่อนกลับไปคบกับอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ไม่หรอก! ฉันไม่สามารถกลับไปรู้สึกแบบเดิมกับพี่ธันได้อีกแล้ว ไม่ต้องห่วง” มารียาแข็งใจบอก เพราะตอนนี้เธอไม่รู้ว่าระหว่างเรื่องที่ธันวานอกใจ กับเรื่องที่เธอเสียสาวให้กับผู้ชายแปลกหน้า เรื่องไหนควรจะต้องเสียใจมากกว่ากัน
“ดี! งั้นแกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยมาทานข้าวด้วยกัน”
“ได้! ว่าแต่แกมีเสื้อผ้าให้ฉันเปลี่ยนไหม?”
“มีสิ! เดี๋ยวจะเตรียมเอาไว้ให้”
“ขอบใจมากจอห์น” มารียาบอกอีกฝ่ายอย่างรู้สึกตื้นตันใจ
“กองไว้ตรงนั้นเลย!” จอห์นบอกพร้อมกับชี้ไปที่พื้นใกล้ๆ กับที่เพื่อนสาวนั่งอยู่ ก่อนจะลุกไปหาเสื้อผ้าให้เพื่อนสาวเปลี่ยน
มารียามองตามเพื่อนรักอย่างขำๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำในห้องนอนของเพื่อนชาย
09 : 02 น. โรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ สายเรียกเข้าดังติดๆ กันหลายครั้ง ปลุกคนที่หลับลึกอยู่บนเตียงให้ลืมตาตื่นด้วยความรู้สึกกึ่งรำคาญกึ่งหงุดหงิด
“ฮัลโหล!” อีเดนควานหามือถือมากดรับสาย จากนั้นก็หลับตาลงอย่างรู้สึกง่วงและอ่อนล้า
“เสี่ยครับ เสี่ยอยู่ไหนแล้ว” ธนินถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะตอนนี้มีคณะกรรมการเข้าไปนั่งรอในห้องประชุมกันจนครบแล้ว ขาดแต่เพียงผู้เป็นนายเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ฉัน...ฉันอยู่ที่โรงแรมที่ไหนสักแห่ง” อีเดนบอกพลางลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้องอย่างรู้สึกมึนๆ งงๆ ‘ให้ตายสิ! ที่นี่มันที่ไหนวะ?’
คนที่ดื่มหนักพยายามตั้งสติ ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ของค่ำคืน ที่ผ่านมา
“เสี่ยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ธนินถามอย่างเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ทำงานรับใช้มาเกือบสิบปี ตนไม่เคยเห็นเจ้านายเป็นแบบนี้มาก่อน
“ไม่! ฉันปวดหัวนิดหน่อย” อีเดนยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พลางหันมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับแพนตี้สีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ที่ตกอยู่ข้างๆ เตียง
“เอ่อ...แล้วเสี่ยจะเข้าประชุมในช่วงเช้านี้ไหมครับ” ธนินถามต่อ
“ตอนนี้กี่โมง?” อีเดนถามก่อนจะขยับลงจากเตียงไปเก็บแพนตี้ตัวจิ๋วขึ้นมาดูด้วยหัวใจสั่นๆ
“เก้าโมงนิดๆ ครับ คณะกรรมการรออยู่ในห้องประชุมกันครบแล้ว” ธนินบอกพลางหันไปมองข้างในห้องประชุมด้วยสีหน้าตึงๆ
“บ้าฉิบ! นายเข้าประชุมแทนแล้วกัน” อีเดนบอกก่อนจะรีบกดวางสายของคนสนิท ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มชาขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่ออยู่ๆ ภาพบทรักที่เร่าร้อนกับหญิงสาวที่ตนหิ้วมาด้วยเมื่อคืนฉายชัดขึ้นมาในม่านตา
อีเดนรีบเดินแกมวิ่งไปที่ห้องน้ำด้วยหัวใจสั่นๆ แอบหวังว่าจะเจอ อีกฝ่ายอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาจึงวิ่งกลับมาที่เตียงเพื่อหาร่องรอยของถุงยางที่ใช้แล้ว แต่กลับเจอกล่องถุงยางที่ยังไม่ได้แกะออกมาใช้แม้แต่ชิ้นเดียว
“โอ้พระเจ้า! นี่เราไม่ได้ป้องกันเหรอเนี่ย” อีเดนนั่งกุมขมับที่ข้างเตียงอย่างรู้สึกหงุดหงิด ถึงแม้ว่าสาวที่ตนเจอเมื่อคืนจะถูกใจกว่าผู้หญิงทุกๆ คนที่เคยได้ แต่เขาก็ไม่น่าจะลืมเซฟตัวเองเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง
‘บ้าจริง! เกิดเธอท้องขึ้นมาจะทำยังไงวะ’ อีเดนสบถด่าตัวเอง ก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งเพื่อชำระร่างกาย แล้วเตรียมเช็กเอาท์ออกจากโรงแรม
สายน้ำจากฝักบัว ไหลผ่านเส้นผมลงสู่ลำตัว ร่างสูงยืนนิ่งพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ขณะที่ความทรงจำต่างๆ ทยอยผุดขึ้นมาทีละนิดๆ พร้อมกับชื่อที่เขาเอ่ยเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่าตอนที่ถาโถมเข้าใส่เรือนร่างอัน บอบบางของเธอ ‘รียา’
สิบนาทีต่อมา...
หลังจากอาบน้ำเสร็จอีเดนก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาบอดี้การ์ดให้นำเสื้อผ้ามาให้ที่โรงแรม จากนั้นก็เดินสำรวจรอบๆ ห้องอีกครั้ง เพื่อจะตรวจเช็กหาของตกหล่นดู ว่านอกจากแพนตี้ตัวจิ๋วแล้ว หญิงสาวได้เหลืออะไรให้เขาตามสืบหาได้บ้าง
อีเดนเดินหาจนทั่วก็ไม่พบเจออะไร จนกระทั่งเขานั่งลงที่เตียงกว้าง อยู่ๆ ภาพที่สาวเจ้ากรีดร้องด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ก่อนจะฝังฟันซี่เล็กๆ ลงที่หัวไหล่ของเขาก็ฉายวาบขึ้นมา
กึก!
‘อ๊ะ! กรี๊ดดดดด’ คนที่กำลังเคลิบเคลิ้มกรีดร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด เมื่ออยู่ๆ เขาก็ดันบางอย่างลุกล้ำเข้ามาในตัวของเธอ
‘โอ้พระเจ้า!’ เขาตกใจเมื่อทะลวงเยื่อบางๆ ผ่านเข้าไปยังทางรักจนสุดทางในครั้งเดียว
‘ฮึก... จะ...เจ็บ’ เธอบอกเสียงสั่นพร้อมกับพยายามจะผลักเขาออกจากตัว
‘ผมขอโทษที่รัก... ผมจะค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป’ เขาบอกก่อนจะก้มลงจูบซับน้ำอุ่นๆ ที่ไหลอาบแก้มนวลให้อย่างปลอบประโลม จากนั้นก็เริ่มปลุกเร้าอารมณ์เธอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินหน้าต่อด้วยความรู้สึกภูมิใจและฮึกเหิมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“บ้าจริง!” อีเดนสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วดึงผ้าห่มผืนใหญ่ออก
“โอ้พระเจ้า! นี่เราเป็นผู้ชายคนแรกของเธอเหรอเนี่ย” คนที่เพิ่งจะระลึกชาติได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ถึงกับสตั๊นไปสามวิราวกับถูกไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ศีรษะเต็มๆ แรง