EPISODE 4 กลิ่นหอมหวาน
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังก้องกังวานไปทั่วห้องไม่ได้เรียกความสนใจจากหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาแม้แต่น้อย เนื่องจากเธอรู้ดีว่าใครเป็นคนมาเยือนในเวลานี้
“ลิล พี่ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย” เสียงทุ้มนุ่มของพี่ชายเอ่ยขึ้นจากด้านนอก
ทว่าเธอยังคงนั่งเงียบไร้การตอบโต้ทำให้ชายหนุ่มเริ่มเคาะประตูอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้และน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมาก็เข้มขึ้นไม่ต่างจากพ่อที่กำลังดุลูกสาวจอมดื้อ
“ลลิล พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“พี่คินมีอะไรก็พูดมาสิคะ” คนดื้อรั้นจำใจต้องเอ่ยตอบ
“พี่เข้าไปได้หรือเปล่า”
“ประตูไม่ได้ล็อกค่ะ”
เมื่อคนข้างนอกได้ยินอย่างนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามา อนาคินเดินไปหาน้องสาวแล้วยื่นแก้วนมอุ่นๆ ให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ในเวลาต่อมา
“เผื่อจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น”
“ลิลไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่กลับรับแก้วมาถือไว้ในมือ
“แต่สิ่งที่ลิลกำลังทำหรือเป็นอยู่ในตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กเลยนะ”
“เพื่อนคนนั้นของพี่คินไปพูดอะไรให้ฟังอีกล่ะคะ” ลลิลเน้นย้ำคำว่าเพื่อนคนนั้นจนชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสองคนนี้ถึงไม่ยอมพูดจากันดีๆ หากเจอหน้ากันเมื่อไรเป็นอันต้องหาเรื่องถกเถียงตลอด
“ไอ้ธีร์มันไม่ได้พูดอะไรหรอก พี่แค่อยากจะมาเตือนเรื่องกิริยาต่างๆ ที่เราแสดงออกมานั่นแหละ"
"..."
"อีกอย่าง พี่อยากให้ลิลคิดเสียว่ามันคือพี่ชายอีกคนหนึ่งของเรา”
“แต่ลิลไม่ได้อยากให้เขาเป็นพี่ชายนี่คะ”
“ลิล...”
“และเพื่อนของพี่ชอบทำให้ลิลโมโหอยู่เรื่อย” อันที่จริงเธออยากพูดว่า เพื่อนของพี่ชอบทำให้ลิลน้อยใจอยู่เรื่อยต่างหาก แต่ทำได้เพียงคิดในใจ
“เมื่อก่อนลิลเป็นคนใจเย็นและมักจะมีเหตุผลเสมอ อะไรถึงทำให้เราเป็นแบบนี้ล่ะ"
อนาคินหยุดพูดเพื่อให้เธอคิดตามครู่หนึ่งแล้วปริปากออกมาอีกครั้ง
"หรือลิลมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ"
“ไม่มีค่ะ และลิลไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว” หญิงสาวตัดบททันควันแล้วมองไปทางอื่น
“โอเค” คนเป็นพี่ยกมือสองข้างอย่างยอมแพ้เมื่อเห็นท่าทางดื้อดึงของน้องสาวแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ดื่มเลยมั้ย พี่จะได้เอาแก้วไปเก็บให้" สายตาคู่นั้นมองไปยังแก้วในมือเธอแวบหนึ่ง
หญิงสาวพยักหน้าแล้วยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากแต่ก่อนที่จะทันได้ดื่ม เธอกลับรีบเอามันออกห่างจากจมูก
“เป็นอะไรหรือเปล่าลิล”
“ลิลแค่ยังรู้สึกอิ่ม เดี๋ยวไปอาบน้ำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยดื่มดีกว่าค่ะ ขอบคุณพี่คินมากนะคะ”
"คนที่ลิลต้องไปขอบคุณคือเพื่อนคนนั้นของพี่ต่างหาก" ชายหนุ่มเน้นย้ำคำว่าเพื่อนคนนั้นเหมือนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ด้วยสีหน้ายิ้มๆ
"เขาเป็นคนฝากมาให้ลิลเหรอคะ"
"ใช่ สงสัยจะแทนคำขอโทษละมั้ง ไม่รู้สิ..."
พูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นแล้วเดินออกไปจากห้องจึงไม่เห็นสีหน้าของน้องสาวที่แปรเปลี่ยนเป็นคนละคน
เรือนร่างบอบบางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้วกำลังเดินไปปิดผ้าม่านตรงระเบียง ทว่าสายตาเผลอเหลือบไปเห็นใครบางคนเคลื่อนไหวอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ หญิงสาวใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินมุ่งหน้าไปทางนั้น
“นอนไม่หลับเหรอคะ” ลลิลหยุดยืนโดยเว้นระยะห่างพอสมควรแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยทัก
“อืม”
“ขอบคุณสำหรับนมอุ่นๆ นะคะ” ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามชวนเขาพูดคุย แต่ธีระกลับเอาแต่ยืนเงียบแล้วใช้มือล้วงไปยังกระเป๋ากางเกงดึงซองบุหรี่ออกมา
“แล้วลิลก็ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่พี่ธีร์”
“ช่างมันเถอะ”
"แต่..."
"กลับเข้าห้องไป พี่จะสูบบุหรี่"
“ลิลยังอยากอยู่ตรงนี้ค่ะ” ลลิลยืนกรานน้ำเสียงหนักแน่น
ธีระปรายตามองเธอแวบหนึ่งแล้วจุดบุหรี่สูบท่ามกลางความเงียบพร้อมเหม่อมองไปยังดวงจันทร์ใสกระจ่างบนผืนฟ้ากว้างใหญ่
แค่กๆ
แต่แล้วเสียงสำลักของเธอกลับทำให้เขาเหมือนหลุดออกมาจากภวังค์ก่อนจะถอยห่างมากกว่าเดิมโดยไม่ลืมออกคำสั่ง
“ไปนอนได้แล้ว"
"อึก อ้วก!"
จู่ๆ คนที่ไออยู่ในตอนแรกเริ่มโก่งคออาเจียนหนักหน่วงจนธีระที่มองอยู่ถึงกับทิ้งบุหรี่แล้วเดินจ้ำอ้าวมาหาเธอ
“เป็นอะไรไป”
ชายหนุ่มเห็นอาการของอีกฝ่ายก็รีบใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังบอบบางก่อนจะใช้มืออีกข้างรวบเรือนผมนุ่มนิ่มไว้เพื่อไม่ให้เลอะคราบอาเจียน
ผ่านไปสักพัก ลลิลจึงยกมือบ่งบอกว่าเธอรู้สึกดีขึ้นแล้วหลังจากอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงโดยมีชายหนุ่มพยุงตัวเธอให้ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
“ที่บอกว่าเห็นหน้าพี่แล้วจะอ้วกนี่ไม่ได้แค่ประชดหรอกเหรอ” นัยน์ตาคู่คมจ้องมองใบหน้าซีดเผือดของเธอตรงๆ
เขาจดจำได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายอาเจียนต่อหน้าเขามาเป็นหนที่สองแล้ว
“พี่ธีร์แค่บังเอิญอยู่ตอนที่ลิลอ้วกต่างหาก”
“ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ แต่ช่วงนี้ลิลรู้สึกแปลกๆ ได้กลิ่นอะไรนิดหน่อยก็รู้สึกคลื่นไส้ไปหมด”
“รอบนี้เพราะควันบุหรี่หรือนมที่ดื่มเข้าไปล่ะ"
หญิงสาวทำเพียงส่ายหน้าเพราะตัวเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุของอาการเหล่านั้นเกิดจากอะไร
“รบกวนพี่ธีร์พาลิลไปส่งห้องหน่อยได้มั้ยคะ” พูดอย่างคนอ่อนแรง
ธีระเห็นอย่างนั้นจึงพยักหน้าตอบรับแล้วพยุงร่างกายที่เกือบจะอ่อนปวกเปียกเดินไปพร้อมๆ กัน
“ฉีดน้ำหอมก่อนนอนด้วยเหรอ”
“เปล่านี่คะ” ใบหน้าหวานแหงนมองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“กลิ่นนี้มัน...”
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เปล่า ไปนอนได้แล้ว"
ถึงแม้ลลิลจะเห็นสีหน้าของเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แต่เพราะอาการเวียนหัวจึงไม่ได้สนใจอะไรมากมายนักแล้วกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ธีระยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น กระทั่งแสงไฟภายในห้องมืดลง เขาจึงเดินออกมาด้วยความรู้สึกตงิดใจกับอะไรบางอย่าง บางอย่างเกี่ยวกับกลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้นั้น...