คืนผูกรัก

59.0K · จบแล้ว
RICHES.
32
บท
17.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ความพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว กลับเปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอไปตลอดกาล... เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ธีระหลงคิดว่า เธอคือใครอีกคนที่เขารักหมดหัวใจ ค่ำคืนแห่งความมืดมนผ่านพ้นไปพร้อมความบริสุทธิ์ที่ถูกพราก แต่ถึงอย่างนั้นลลิลกลับไม่แม้แต่จะเรียกร้องสิ่งใดและทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่ได้ยุติแค่ตรงนั้น เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขา...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันนักศึกษาฟินๆเศรษฐีมีลูกรักหวานๆโรแมนติก18+

INTRO ใครอีกคน

“ยินดีด้วยนะ สาวน้อย”

“ขอบคุณพี่คินนะคะ ที่ทำให้ลิลมีวันนี้” เรือนร่างบอบบางเข้าสวมกอดคนตัวสูงกว่าด้วยความซาบซึ้งใจ

“เพราะความพยายามของลิลต่างหาก” ชายหนุ่มกอดตอบพร้อมใช้มือข้างหนึ่งลูบเรือนผมนุ่มสลวยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพูดต่อ

“นี่ถ้าท่านทั้งสองยังอยู่ คงภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มากแน่ๆ”

อนาคินจ้องมองไปยังภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังภายในโถงทางเดินของบ้านซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกในครอบครัวโดยมีเขาที่ตอนนั้นอายุประมาณสิบแปดปียืนอยู่ข้างหลัง ส่วนน้องสาวที่เพิ่งจะห้าขวบนั่งตรงกลางระหว่างบิดาและมารดา สีหน้าของทุกคนฉายชัดถึงความสุขอย่างชัดเจน

แต่แล้วในอีกสิบปีต่อมาทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป เมื่อทั้งสองเสียชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปเจรจาธุรกิจ ชายหนุ่มจึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโรงแรมหรูย่านใจกลางเมืองอย่างเต็มตัว รวมถึงการดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเขา

“ท่านต้องภูมิใจในตัวลูกชายด้วยสิคะ พี่คินทั้งดูแลโรงแรม แล้วยังต้องมาดูแลน้องสาวคนนี้อีก” ลลิลคลายอ้อมกอดแล้วเงยใบหน้าหวานละมุนมองพี่ชายพร้อมระบายรอยยิ้มหวานจนเห็นฟันขาว

“ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยนี่ ในเมื่อน้องสาวคนนี้ไม่เคยทำให้พี่ผิดหวัง”

“…”

“เพราะฉะนั้น วันนี้ก็สนุกให้เต็มที่ละ พี่จัดขึ้นเพื่อลิล”

“ไม่ใช่ว่าที่จัดงานใหญ่ขนาดนี้เพราะอยากเห็นเพื่อนสาวสวยๆ อ้ะ! พี่คิน ลิลเจ็บนะ” ยังไม่ทันที่ประโยคนั้นจะถูกพ่นจนจบก็โดนอีกฝ่ายส่งมะเหงกลงบนหน้าผากจนเธอต้องยกมือขึ้นคลำป้อยๆ

“คิดไปถึงไหนนะเรา พี่แค่จัดงานให้สมเกียรติของเด็กเกียรตินิยมจากฮาวาร์ดก็เท่านั้น ส่วนของขวัญไว้ให้เดือนหน้าแล้วกัน”

“เอ๊ะ ทำไมถึงนานขนาดนั้นล่ะคะ”

“เถอะน่า”

“พี่คินยิ่งทำให้ลิลอยากรู้นะเนี่ย”

“เฮ้ย ไอ้คิน ไอ้ธีร์มาแล้ว” จู่ๆ เสียงหนึ่งดังมาจากประตูทางเข้าบ้านขัดจังหวะบทสนทนาของสองพี่น้อง

“เออๆ เดี๋ยวตามไป” อนาคินตะโกนตอบกลับเพื่อนชายคนสนิททั้งที่ยังไม่เห็นหน้า ก่อนจะหันมาบอกกล่าวน้องสาวแล้วเดินออกไป

“พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกันในงาน”

เมื่อยืนอยู่เพียงลำพัง เสียงดนตรีเริ่มแว่วเข้ามาในหู ขณะเดียวกันก็กวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านที่เธออาศัยมาตั้งแต่เกิดด้วยความคะนึงหาความทรงจำครั้งอดีต เพราะเหตุนี้เธอจึงเลือกจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน

หญิงสาวก้าวเท้ามุ่งหน้าไปยังสวนหลังบ้านที่ถูกประดับประดาด้วยไฟหลากสีสัน ทว่าระหว่างทางสายตาสะดุดกับร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กสีดำและรองเท้าหนังวาววับสีเดียวกันกำลังยืนหันหลังท่าทางเหมือนคุยโทรศัพท์มือถือ

ทว่าเสี้ยววินาทีต่อมา สิ่งของในมือกลับถูกเขวี้ยงลงบนพื้นหญ้าจนกระเด็นไปอีกทาง ทำให้คนที่ยืนมองอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้นเพื่อรวมกลุ่มกับบรรดาเพื่อนฝูง

“มีความสุขอย่างกับน้องสาวได้แต่งงานนะมึง”

คำพูดกระเซ้าเย้าแหย่จากหนุ่มแว่นอย่างเอเดย์ทำเอาสีหน้าของอนาคินเปลี่ยนมาเรียบเฉย อีกทั้งคำพูดยังแข็งกระด้างกว่าเดิม

“ลิลเพิ่งจะยี่สิบสองปี”

“แต่น้องมันก็ถึงวัยที่จะมีความรักได้แล้วนะมึง ดูอย่างพวกเราสิปีนี้จะสามสิบห้ากันแล้วยังแห้วอยู่เลย”

“หุบปากเถอะน่า” คนหวงน้องสาวแสดงท่าทางรำคาญอย่างไม่ปิดบัง แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะสะทกสะท้าน

“บางทีน้องสาวมึงอาจจะมีแฟนอยู่แล้วก็ได้ ใครจะไปรู้”

“ไม่มี”

“ที่มึงมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าจ้างคนไปสืบ”

“กูแค่เป็นห่วงน้อง”

“ความเป็นส่วนตัวนะ มึงรู้จักมั้ยวะ?” เอเดย์ถึงกับส่ายหน้า พลางหันไปมองแก้วตาดวงใจของเพื่อนซึ่งนั่งพูดคุยอยู่กับบรรดาเพื่อนฝูงของเธอซึ่งล้วนบินมาจากต่างประเทศด้วยกันทั้งนั้น

แต่จะว่าไป ความหวงน้องสาวเกินเหตุของเพื่อนก็พอจะเข้าใจได้อยู่บ้าง ในเมื่ออีกฝ่ายสวยหวานปานนางฟ้าขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหน้าน่าทะนุถนอม เรือนผมสีน้ำตาลแดงที่ขับให้ผิวขาวจัดของเธอยิ่งขาวผ่องเป็นยองใย

“เคลิ้มเชียวนะมึง”

เสียงนั้นเรียกสติของเอเดย์ให้หวนคืนมาอีกครั้ง แต่คนที่ชอบแกล้งเพื่อนอย่างเขาไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น

“กูจีบน้องมึงได้มั้ย”

“แดกส้นทีนกูแทนเถอะมึงอะ”

“เออๆ กูไม่กวนแล้วก็ได้ ว่าแต่ไอ้ธีร์มันหายหัวไปไหนของมันวะ”

“นั่นไง พูดถึงก็มาพอดีเลย ตายยากชิบ” อนาคินปรายตาไปยังร่างสูงของเพื่อนที่กำลังเดินเข้ามา

ธีระนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเพื่อนทั้งสองแล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วคริสตัลสีใสเพื่อรินหยาดน้ำสีอำพันลงในนั้น ก่อนจะกระดกดื่มอย่างเอาเป็นเอาตายไปหลายแก้ว โดยไม่ลืมหยิบบุหรี่จุดสูบราวกับต้องการระบายความอัดแน่นในใจผ่านควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมา

“เรื่องเดิมอีกแล้วใช่มั้ย” เอเดย์เปิดปากถามทันทีที่เห็นท่าทางของเพื่อนโดยมีอนาคินตามสมทบ

“มึงตัดใจเถอะว่ะ”

“พวกมึงคิดว่ากูไม่เคยพยายามเหรอ”

“ก็แล้วทำไมถึง...” อนาคินยังเอ่ยไม่ทันจบ คำตอบที่แฝงไปด้วยน้ำเสียงแค่นหัวเราะก็ถูกพ่นออกมา

“เธอกำลังจะแต่งงาน”

“เฮ้ย!” คนอย่างเอเดย์ยังรู้สึกตกใจแทบไม่เชื่อหูตัวเองทำให้ธีระพูดย้ำอีกครั้ง

"เธอกำลังจะแต่งงานอาทิตย์หน้า"

“ทำไมสายฟ้าแลบขนาดนั้นวะ อย่าบอกนะว่า…”

“เธอท้อง” น้ำเสียงเบาหวิวเล็ดลอดจากริมฝีปากหยักลึก นัยน์ตาสีนิลคู่นั้นฉายความเจ็บปวดออกมายากจะทานทน

ความเงียบเข้าปกคลุมจนได้ยินเสียงพูดคุยจากอีกฟากอย่างชัดเจน อนาคินที่กำลังจับจ้องอยู่ที่เพื่อนเริ่มปริปากอีกครั้ง

“แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”

“อะไรล่ะที่ว่าดี เธอท้อง เธอกำลังจะแต่งงาน หรือเพราะผู้ชายคนนั้นไม่ใช่กู” พูดพร้อมกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง

“มึงตั้งสติหน่อยไอ้ธีร์” เอเดย์พยายามปราม ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีสติอย่างเห็นได้ชัดจนเพื่อนต้องคอยดึงสติอยู่หลายรอบ..

หลังจากงานเลี้ยงเลิกประมาณเที่ยงคืน ลลิลเข้าห้องนอนทันที ทว่าเพราะเจ็ทแล็กทำให้เธอนอนพลิกตัวไปมาจนถึงตีสองพร้อมฟังเสียงข้างห้องซึ่งเป็นห้องนอนของพี่ชายที่มีเสียงอะไรบางอย่างเล็ดลอดเข้ามา ทำให้เธอรู้ว่าชายหนุ่มยังไม่นอนเช่นเดียวกัน

หญิงสาวลุกพรวดนั่งบนเตียง คิดว่าจะไปเคาะประตูดีหรือไม่ในเมื่อถึงอย่างไรก็นอนไม่หลับ อีกทั้งช่วงที่บิดามารดาไม่อยู่ ทุกครั้งที่เธอไม่สามารถข่มตาหลับได้จะมีพี่ชายคอยลูบศีรษะจนเธอหลับใหลอย่างง่ายดาย

ลลิลตัดสินใจเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองแล้วเคาะประตูเรียกชื่อเจ้าของห้อง ครั้นเมื่อลองบิดลูกบิดปรากฏว่าไม่ได้ล็อกจึงลองเปิดแล้วเดินเข้าไปโดยไม่คิดอะไรท่ามกลางแสงสลัวจากไฟหัวเตียง

“พี่คิน ลิลนอนไม่หลับ”

น้ำเสียงกระเง้ากระงอดไม่ต่างจากเด็ก ทว่าเมื่อเธอมองไปบนเตียงสีดำสนิทกลับพบเพียงความว่างเปล่า

“กลับมาแล้วเหรอ”

น้ำเสียงยานคางของใครบางคนดังขึ้นจากข้างหลังบริเวณหน้าห้องน้ำจนเธอรีบหันขวับไปมอง เสี้ยววินาทีต่อมาร่างกายกลับถูกเจ้าของเสียงนั้นสวมกอดไว้แน่นแทบหายใจไม่ออก

“อย่าไปจากพี่เลยนะ” คนที่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะความงงงวยพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของร่างสูง

“อ้ะ! อื้อ”

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ประคองใบหน้าเธอแล้วทาบทับริมฝีปากลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพยายามสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไป กลิ่นลมหายใจทำให้เธอรู้ว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เข้าไปมากมายเพียงใด

"อื้อ!!" หญิงสาวพยายามผลักอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัว ทว่าเรี่ยวแรงของเธอแทบสู้คนเมาอย่างเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ กระทั่งจังหวะที่เผลออ้าปาก เรียวลิ้นอุ่นร้อนถูกสอดแทรกเข้าไปในที่สุด