EPISODE 1 ไม่เคยเกิดขึ้น
ชายหนุ่มดันร่างบางไปชิดผนังแล้วรวบข้อมือเล็กขึ้นเหนือศีรษะพลางบดจูบอย่างเร่าร้อน จนเธออ่อนระทวยแทบลงไปกองกับพื้นอยู่รอมร่อ
คนเมาไม่แม้แต่จะหยุดยั้งการกระทำของตัวเอง กลับค่อยๆ แปรเปลี่ยนสัมผัสเหล่านั้นเป็นอ่อนโยนส่งผลให้หัวใจของเธอเต้นแรงแทบกระเด็นกระดอนออกจากอก ปรางแก้มนวลขึ้นสีระเรื่อ ลมหายใจสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว
“อื้ม~”
เขาขบเม้มริมฝีปากนุ่มส่วนบนสลับล่างก่อนจะละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง แววตาหยาดเยิ้มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องมองเธอด้วยความเคลิบเคลิ้ม
ชายหนุ่มตรงหน้าหารู้ไม่ว่า การกระทำเหล่านั้นทำเอาโลกทั้งใบของเธอหยุดหมุนไปชั่วขณะ ในคราแรกลลิลคิดว่าความรู้สึกเมื่อครั้งอดีตอาจจางหายไปตามกาลเวลา แต่ดูเหมือนว่ามันไม่เคยหายไปอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงถูกล่อลวงหลุดลอยเข้าไปในห้วงสวาทอันร้อนฉ่าอย่างง่ายดาย
“อื้อ”
รอยจูบเมื่อครู่ยังไม่ทันจางหาย ทว่าธีระกลับประกบริมฝีปากลงมาอีกครา มิหนำซ้ำยังตะกละตะกลามกว่าเดิมหลายเท่าราวกับว่าความอดทนของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
ปลายจมูกซุกไซ้ลงมายังซอกคอหอมกรุ่นแล้วใช้ฟันขบเม้มไปตามผิวเนื้อ ฝากฝังร่องรอยสีกุหลาบไว้อีกหลายจุด
"อ้ะ!" ลมหายใจของเธอสะดุด อุณหภูมิในร่างกายร้อนรุ่มดุจเปลวเพลิง เมื่อมือใหญ่สอดเข้าไปยังชุดนอนผ้าซาตินสีขาวแล้วลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างเอาแต่ใจ
ขณะเดียวกันคนตัวสูงกว่าเริ่มไล่ต้อนเธอไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่จนแผ่นหลังสัมผัสกับเบาะนุ่มก่อนจะตามขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็วราวกับราชสีห์ที่ลองลิ้มชิมรสชาติเหยื่อ ครั้นถูกใจก็รีบตะครุบจับกินเป็นอาหาร
แคว่ก!
ชุดนอนตัวสั้นถูกกระชากออกจนกระดุมกระเด็นไม่รู้ทิศทาง ไม่กี่วินาทีต่อมาเรือนร่างของทั้งสองเปลือยเปล่าปล่อยให้สัญชาตญาณนำทาง
นิ้วเรียวเริ่มกรีดกรายช่องทางรักก่อนจะสอดเข้าไปสำรวจภายในจนร่างบางสะดุ้งสุดตัว ร่างกายถูกเล่นงานด้วยรสสัมผัสอันน่าพิศวงจนต้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกำยำเพื่อระบายความปั่นป่วน
"อ้ะส์"
ความคับแน่นภายในที่บีบรัดนิ้วทำเอาชายหนุ่มถึงกับอดรนทนไม่ไหว บดเบียดริมฝีปากแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานในโพรงปากเธออีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ ขณะเดียวกันนิ้วเรียวยังคงทำหน้าที่ชักเข้าชักออกส่งผลให้กายสาวบิดเร่าด้วยความรัญจวนใจ
"อ้ะ อ้า"
เสียงครางหวานพานให้ร่างกายคนเมาตื่นตัวจนทรมาน เขาเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาลงมายังสองเต้าอวบอัดขนาดเกินตัวแล้วครอบริมฝีปากหยักลึกลงดูดดึงสลับโลมเลียยอดถันสีระเรื่อ
คนใต้ร่างเชิดใบหน้าสูดปาก ความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของร่างกายทำให้เธอหลงลืมความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้ไปโดยปริยาย และเพราะความชะล่าใจทำให้เธอไม่รู้ว่า เขากำลังดุนดันความแข็งขืนเข้ามาเต็มแรง
“โอ๊ย!”
เยื่อแห่งความสาวขาดสะบั้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ลลิลรู้สึกเหมือนร่างกายได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นความทรมานที่ยากจะอธิบายนึกอยากให้เขาหยุดการกระทำทุกอย่างลง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ทันกาลแล้วก็ตาม
ธีระเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย แต่เพราะความต้องการที่มากล้นทำให้เขาไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำ กรามคบกริบขบเข้าหากันแน่นได้แต่พยายามข่มอารมณ์ดิบไม่ให้พุ่งพล่านใส่เธอจนเกินไป
เมื่อช่องทางรักคับแน่นเริ่มปรับสภาพ หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกัน เอวของเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าแล้วค่อยๆ เร่งจังหวะเป็นรุนแรง
"ปึก ปึก ปึก"
แรงกระแทกกระทั้นทำเอามือเล็กปัดป่ายสะเปะสะปะ จิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่เป็นการระบาย ความเจ็บปวดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสมอันท่วมท้นที่ไม่ใช่แค่ร่างกายแต่ลึกลงไปถึงหัวใจ
มือใหญ่เคล้นคลึงเต้าทั้งสองข้างอย่างเมามันพร้อมครางกระหึ่มในลำคอ ก่อนจะโน้มตัวลงไปใช้ฟันขาวกัดยอดถันสีหวานเชิงหยอกล้อจนคนใต้ร่างดิ้นพล่าน เส้นผมสยายบนที่นอนกระตุ้นอารมณ์เขาได้เป็นอย่างดี
"ไม่ ไม่ไหวแล้ว"
หญิงสาวละล่ำละลักบอก กัดริมฝีปากจนห้อเลือด เหงื่อผุดตามกรอบหน้าจนชุ่มฉ่ำ ส่วนที่เชื่อมโยงกันเริ่มบีบรัดถี่ขึ้นทำให้ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาเข้าประชิดแนบแน่นบนเรือนร่างเธอพร้อมเร่งจังหวะเร็วขึ้น เสียงครางของทั้งสองผสานลมหายใจหอบกระเส่า
"อ้ะ อ้ะ อ้าส์"
ร่างบางเกร็งกระตุก รู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วปลดปล่อยหยาดน้ำหวานออกมาด้วยความหฤหรรษ์ ไม่นานคนบนร่างก็ปลดปล่อยหยาดน้ำร้อนเข้าไปยังส่วนลึกของร่างกายเธอตามๆ กันด้วยความสุขอันเปี่ยมล้น
สองเรือนร่างที่ภายในตัวเหลือเพียงไอร้อนที่ยังคงกรุ่นค้างนอนหอบหายใจเคียงข้างกัน หน้าอกแกร่งกระเพื่อมเป็นจังหวะพร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆ ผ่อนลงมาเป็นปกติ เปลือกตาหนักอึ้งปิดลงช้าๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"พี่คิดถึงเรานะ"
ประโยคนั้นทำเอาคนฟังที่เพิ่งมอบจูบแรกและความบริสุทธิ์ให้ถึงกับหัวใจพองโต คิดว่าเพื่อนสนิทของพี่ชายคงมีความรู้สึกดีๆ ให้เธอบ้างเหมือนกัน
"ลิลก็คิดถึงพี่ธีร์"
ลลิลจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มพร้อมระบายรอยยิ้มแห่งความสุข
“พี่รักเรานะ…”
คนที่หลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทราละเมอออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทว่าประโยคนั้นกลับทำให้ใบหน้าหวานละมุนเจื่อนลง รอยยิ้มก่อนหน้าจางหายไปแทบจะทันที
หญิงสาวพยุงตัวลุกจากเตียงนอนแล้วเดินไปหยิบอาภรณ์ที่กระจัดกระจายตามพื้นขึ้นมาสวมใส่แบบลวกๆ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มตลอดเวลาด้วยแววตาเจ็บปวด ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินออกไปจากห้อง
เพียงเพราะความโง่เง่าของเธอที่หลงคิดเข้าข้างตัวเองซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของเขาแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงคิดว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและทำเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
ในเมื่อเขาคิดว่าเธอคือผู้หญิงอีกคนที่กำลังบอกรัก...