บท
ตั้งค่า

EPISODE 3 ผู้หญิงเอาแต่ใจ

สองเดือนต่อมา…

“ทำไมมาถึงช้าจังวะ” หนุ่มแว่นที่กำลังก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารมื้อค่ำในห้องครัวเหลือบมองผู้มาใหม่แวบหนึ่งพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เพื่อนสนิททั้งสามนัดแนะกันไว้ตั้งแต่เดือนก่อนว่าจะมาพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของเอเดย์ สถานที่แห่งนี้ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณสองชั่วโมง ทว่าอนาคินกลับใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าจะมาถึง

“ลิลเมารถนะ เลยต้องแวะจอดเกือบตลอดทาง”

“แล้วดีขึ้นยัง?”

“ดีขึ้นแล้ว แต่ให้เข้าไปพักที่ห้องก่อน”

“ขาดเหลืออะไรก็บอกละกัน”

“เออ ขอบใจ ว่าแต่ไอ้ธีร์ไปไหน”

“ยืนเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่ตรงนั้นไง”

หนุ่มเจ้าของบ้านบุ้ยปากไปทางระเบียงซึ่งมีร่างสูงยืนสูบบุหรี่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าในไม่ช้า

“พระเอกเอวีน่าจะเหมาะกับมันมากกว่า” อนาคินกลั้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพับแขนเสื้อเชิ้ตพร้อมเอ่ยถามอีกฝ่าย

“ให้ช่วยอะไรมั้ย”

“ช่วยอยู่เฉยๆ เถอะครับ”

“ดี กูจะได้ไม่เหนื่อย” ว่าพลางเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูง

“ตั้งแต่ไอ้ธีร์ไปอยู่บ้านมึง กูรู้สึกว่าอาการมันเหมือนจะดีขึ้นนะ” คนที่กำลังหั่นผักอย่างชำนาญออกความคิดเห็น

“สงสัยลืมเฮิร์ทเพราะต้องเก็บแรงไว้เถียงกับลิลละมั้ง"

"ล่าสุด เถียงกันเรื่องขนมผูกรักบ้านแทบแตก"

"หืม เถียงกันเรื่องขนม?"

"ก็เออนะสิ ไอ้ธีร์มันบอกว่าต้องพรีออเดอร์ขนมนั้นจากสตูลตั้งสองอาทิตย์"

"..."

"แต่พอมาถึงกลับหายวับไปกับตาเพราะลิลคิดว่าเป็นขนมของกู"

"ไอ้ธีร์มันกินขนมพวกนั้นด้วยเหรอ แต่เดี๋ยวก่อน มันทะเลาะกับลิลเพราะเรื่องขนม..." สีหน้าของคนฟังแสดงออกถึงความสับสน

"ฟังดูไร้สาระไม่สมกับคนอย่างไอ้ธีร์ใช่มั้ยล่ะ แต่มึงเชื่อกูเถอะ ว่าจนถึงตอนนี้ทั้งสองคนยังไม่คุยกันเลย"

"สมองมันได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่ามึง"

"อันนั้นไม่รู้ แต่สมองกูนี่แหละจะแตกตายซะก่อน" อนาคินพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย

ช่วงค่ำวันเดียวกัน…

“ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ”

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ อาจเพราะได้อากาศสดชื่นจากทะเล” หญิงสาวระบายรอยยิ้มกว้างขณะตอบคำถามของเอเดย์ ก่อนจะเบนสายตาไปยังความมืดมิดเบื้องหน้าฟังเสียงคลื่นซัดสาดด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย

“กินให้มันเยอะๆ หน่อย” คนเป็นพี่ชายตักข้าวผัดใส่จาน ตามด้วยปลาหมึกนึ่งมะนาวจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง

ลลิลเริ่มตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย ดูเหมือนว่าเธอจะรับประทานอาหารได้มากกว่าปกติ หลังจากอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงเพราะอาการเมารถก่อนหน้านี้

“รสชาติเป็นไงบ้าง พอจะถูกปากมั้ย” คนรับหน้าที่พ่อครัวปริปากถามผลงานของตัวเอง

“อร่อยมากเลยค่ะ”

“ไม่ต้องถนอมน้ำใจมันหรอก” อนาคินแกล้งว่าพร้อมยกยิ้มมุมปาก

"พูดจริงๆ นะคะ ปลาหมึกนึ่งมะนาวรสชาติเปรี้ยวกำลังดีเลย ลิลชอบ” ไม่แค่พูดเพราะเธอตักมันเข้าปากคำแล้วคำเล่าไม่มีทีท่าว่าจะอิ่ม

"เฮ้ยไอ้ธีร์ ปลาหมึกย่างตรงนั้นเสร็จยัง" หนุ่มแว่นตะโกนถามพร้อมโบกไม้โบกมือไปยังธีระที่ยืนรับหน้าที่ปิ้งย่างอาหารทะเล

ไม่กี่วินาทีต่อมา จานปลาหมึกย่างส่งกลิ่นหอมกรุ่นถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาว

“ปลาหมึกไม่สดเหรอคะ ทำไมกลิ่นแรงจัง” ลลิลถามพลางทำจมูกฟุดฟิด สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"สดแน่นอนครับ พี่เลือกเองกับมือ" เอเดย์ยกจานขึ้นมาใกล้จมูกแล้วพูดต่อ

“พี่ว่าปกตินะ”

"เรื่องมากก็ไม่ต้องกิน" ริมฝีปากหยักลึกขยับพึมพำ แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ได้ยินชัดเจน

"กุ้งเผาเสร็จยังคะ" ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกะพริบตาปริบ

"ถ้าเสร็จแล้วรบกวนเสิร์ฟให้หน่อยค่ะ"

ธีระจ้องเธอแวบหนึ่งแล้วเดินไปคีบกุ้งใส่จานก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร

“เดี๋ยวพี่แกะให้” พี่ชายที่แสนดีเป็นคนรับจานใบนั้น

“ยังไม่ค่อยสุกรึเปล่าคะ” หญิงสาวร้องทักขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นเนื้อกุ้งที่มีมันเยิ้มถูกวางลงในจานตัวเอง

“สุกจนจะไหม้แล้วครับคุณผู้หญิง” น้ำเสียงของธีระแฝงความประชดประชันอย่างหมดความอดทน

"ลิลก็แค่ถามมั้ยคะ พี่ธีร์จะมาประชดทำไม" วางช้อนลงจนเกิดเสียงดัง

"อันนั้นก็กินไม่ได้ อันนี้ก็กินไม่ได้ เอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ น้องมึงอะ" ใบหน้าหล่อเหลาจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวก็จริง ทว่าประโยคท้ายกลับวกมาที่เพื่อนสนิท

"เอาอีกแล้ว มึงเชื่อกูยัง" คนเป็นพี่ชายบอกกับเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

"กูขอนั่งอยู่เฉยๆ ละกัน"

"ลิลเอาแต่ใจแล้วมันจะทำไม พี่ธีร์ก็ไม่ต้องมายุ่งสิ"

"คิดว่าอยากยุ่งนักเหรอ"

"งั้นก็ไม่ต้องมายุ่ง ลิลไม่อยากเห็นหน้าพี่ธีร์แล้วเหมือนกัน จะอ้วก!"

"ลิล! " ประโยคนั้นของลลิลทำเอาพี่ชายที่นั่งมองอยู่เงียบๆ ปรามเสียงเข้มเป็นการเตือนสติ

หญิงสาวกัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนเกือบจะห้อเลือดด้วยความน้อยใจ เธอน้อยใจปฏิกิริยาของชายหนุ่มที่แสดงออกมา มากกว่าเสียงดุๆ จากพี่ชายเสียอีก

"เลิกเถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่องได้แล้ว"

"..." "..."

"ทั้งสองคน"

"บอกน้องมึงด้วยสิ ว่าให้เลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง นิสัยแบบนี้ใครได้ไปเป็นเมียคงซวยน่าดู!"

คำพูดจาร้ายกาจที่บาดลึกลงไปในจิตใจทำให้เธอลุกพรวดขึ้นยืนแล้วปรายตามองเขาแวบหนึ่งก่อนจะเดินจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้น
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel