บทที่ 3
“แล้วสามีของจันทร์กลับมาบ่อยไหมจ๊ะ”
พี่พันน์ถามถึงพี่ ‘วัฒน์’ สามีของฉัน
“กลับมาเดือนละครั้งค่ะ”
ฉันตอบ ทุกวันนี้สามีฉันทำงานเป็นวิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน offshore อยู่กลางทะเล จะกลับบ้านได้เดือนละครั้งเท่านั้น และได้พักครั้งละหนึ่งสัปดาห์
“อยู่ห่างกันแบบนี้คงคิดถึงแฟนแย่สินะ”
พี่พันน์กล่าว… มองหน้าฉันด้วยแววตาเห็นใจ
ฉันไม่ได้ตอบอะไร เหลือบมองเขายืนจิบกาแฟร้อนต่อมาอีกอึดใจสั้นๆ
จากนั้นพี่พันน์ก็เปิดประตูรถเข้ามาทรุดร่างกำยำลงนั่งในตำแหน่งคนขับ
แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
“อุ๊ย… ”
พี่พันน์อุทาน…
เขาทำกาแฟหกราดลงที่เป้ากางเกงของตัวเองจนแฉะ
“โธ่… ผมนี่ซุ่มซ่ามจัง”
เขาตำหนิตัวเอง
“เปียกหมดเลยค่ะ”
ฉันรีบดึงทิชชู่ที่ติดมาในกระเป๋าสะพายส่งให้เขาซับน้ำกาแฟเปรอะกางเกง
“ไม่น่าเลย… เปียกขนาดนี้แล้วเดี๋ยวพี่ขอกลับไปเปลี่ยนกางเกงสักครู่ได้ไหมครับ… ”
“ได้ค่ะ… ”
ฉันตอบ ด้วยเห็นว่าคงไม่เสียเวลาสักเท่าไร บ้านพี่พันน์อยู่ซอยถัดไปจากปั๊มน้ำมันนี่เอง ยังไงก็ต้องผ่านตรงนั้นอยู่ดี
พี่พันน์รีบขับรถออกจากปั๊ม
เลี้ยวซ้ายเข้ามาในหมู่บ้านของโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งที่เขาอาศัยอยู่
แม้จะเป็นบ้านชั้นเดียว หลังไม่ใหญ่นัก แต่ทรงก็ดูน่ารักทันสมัย โดนเฉพาะบ้านของพี่พันน์ที่ปลูกต้นไม้รอบบ้านจนฉันสะดุดตากับความร่มรื่นที่ได้เห็น
“บ้านน่าอยู่นะคะ… ต้นไม้เยอะดีจัง”
ฉันชมพลางทอดสายตาแลไปรอบๆ รั้วที่มีไม้เลื้อยพันขึ้นมาถึงขอบรั้ว
“ครับ… พี่ชอบปลูกต้นไม้”
“หลังนี้กี่ตารางวาคะ”
“ห้าสิบตารางวาจ้ะ”
“กำลังดีค่ะ… แล้วมีกี่ห้องนอนคะ”
“สองห้องนอนสองห้องน้ำ หนึ่งห้องรับแขกครับ ยังมีว่างอยู่อีกสามหลังนะถ้าจันทร์สนใจจะซื้อไว้ขายต่อ จะลองเข้าไปดูข้างในไหมครับ”
พี่พันน์ชวน
ฉันนิ่งไปชั่วขณะ…
“ดีเหมือนกันค่ะ”
ไม่รู้อะไรดลใจ แทนที่จะรออยู่ข้างนนอก ฉันเปิดประตูรถ เดินตามเข้ามาในบ้านของพี่พันน์ เข้ามานั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก
พี่พันน์รินน้ำในตู้เย็นใส่แก้วมาเสิร์ฟให้ฉันแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนกางเกงในห้องนอนแล้ว
แล้วจู่ๆ เขาก็ต้องรีบเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเพราะเสียงร้องอุทานดังลั่นของฉันที่ซุ่มซ่ามทำน้ำในแก้วหกราดลงมาที่ต้นขา แฉะลงไปถึงชายกระโปรง
“พี่พันน์มีทิชชู่ไหมคะ… ”
ฉันรีบถาม
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่มีเหตุให้เราสองคนต้องมาทำน้ำหกรดตัวเองในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้
พี่พันน์หันไปดึงทิชชู่บนหลังตู้เย็น รีบนั่งลงคุกเข่าตรงหว่างขาของฉัน ช่วยเอาทิชชู่ซับน้ำที่เปียกชุ่มอยู่ต้นขา
“อุ๊ย… หนูทำเองก็ได้ค่ะ”
ฉันอุทาน…
ให้ตายเถอะ! แทนที่จะตกใจกับเรื่องที่ทำน้ำหก กลับกลายเป็นว่าฉันต้องตกใจกับวิธีการช่วยเช็ดของเขา ก็ใครจะคิดว่าเขาจะลงทุนนั่งคุกเข่ากับพื้น
“ไม่เป็นไร… พี่อยากช่วย… ”
พี่พันน์เหลือบมองหน้าฉัน… เราสบตากัน ฉันมองเห็นมองประกายวาบหวามอันประหลาด วาวขึ้นในดวงตาของพี่พันน์ สายตาที่มองมาสบตากันเมื่อครู่ราวกับมีมนต์สะกด
“พี่ขออนุญาตนะครับ… เช็ดข้างในดีกว่านะจะได้แห้งเร็ว”
แล้วพี่พันน์ก็ทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด เขาเลิกชายกระโปรงลายลูกไม้สีชมพูของฉันขึ้นมากองเอาไว้ที่ต้นขาเพื่อจะเช็ดข้างใน
แล้วเขาก็เช็ดด้วยวิธีการที่ทำเอาฉันตกใจ พี่พันน์ก้มลงปาดลิ้นเลียคราบน้ำที่เปียกอยู่กับต้นขาขาวเนียน
ลิ้นสากร้อนค่อยๆ ลากสูงขึ้นมาถึงต้นขาด้านใน ทำเอาฉันตะลึงงัน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“พะ… พี่พันน์… ”
ฉันอุทานเสียงตะกุกตะกัก ไม่ได้ร้องห้าม แต่กำมือแน่น ตัวแข็งทื่อเหมือนโดนสะกดด้วยการกระทำอันคาดไม่ถึงของเขา
“ให้พี่ช่วยนะครับ… ”