บทที่ 2
พี่พันน์เรียกชื่อฉัน เสียงหวานกล่าวทักทายมาจากปลายสาย
“แหม… เรียกจันทร์เฉยๆ ก็ได้ค่ะพี่พันน์… วันนี้เรียกเต็มยศเลยนะพี่”
ฉันกระเซ้ากลับไปอย่างอารมณ์ดี หลายครั้งที่เราเจอกัน… คุยกัน ทำให้เกิดความคุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว
“วันนี้มีคุณจันทร์มีอะไรให้พี่รับใช้ครับ”
เขาถามกลับมาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
ปกติพี่พันน์เป็นคนคุยเก่ง อารมณ์ดี เวลาเจอกันเขาก็มักจะชวนคุยสัพเพเหระตลอดทาง ทำให้แม่ลูกอ่อนที่กำลังเหงาอย่างฉันมีเพื่อนคุย
“วันนี้หนูจะไปสปาย่านจตุจักรค่ะ… พี่มารับทีนะคะ”
ฉันบอกธุระ
“ได้เลยครับ… กี่โมงครับ”
เสียงของเขาตื่นเต้นดีใจจนฉันรู้สึกได้
“ตอนนี้เลยค่ะ”
ฉันตอบพลางเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนังห้องรับแขก อีกสิบนาทีก็หกโมงเช้า ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก ย่านนั้นการจราจรหนาแน่น ถ้าไปสายกลัวรถติด
ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา
ได้ยินเสียงรถแท็กซี่ของพี่พันน์แล่นมาจอดที่หน้าบ้าน ฉันรีบเดินออกมาหน้าประตู
อึดใจต่อมา
รถแล่นออกมาถึงหน้าปากซอย พี่พันน์รีบหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายเข้ามาในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ขับมาจอดหน้าร้านเซเว่นฯ ที่ตั้งอยู่ภายในปั๊ม
“ขอพี่ซื้อกาแฟร้อนสักแก้วนะครับ”
พี่พันน์หันมาบอก เขายิ้มหวานให้ฉันจนเห็นไรฟันขาวๆ ทุกซี่เรียงแนวสวยสะดุดตา แม้ผิวเขาจะเข้ม แต่หน้าตาก็ดูสะอาดสะอ้านคมคร้าม
“ตามสบายจ้ะพี่”
ฉันตอบ…
ปกติพี่พันน์มักจะออกรถสายกว่านี้ คงเป็นเพราะว่าวันนี้ฉันเรียกใช้บริการรถของเขาแต่เช้า จึงยังไม่อาจสลัดอาการง่วงงุนออกไปจากหัว
ไม่นานเขาก็เดินออกมาจากร้านเซเว่นฯ
“น้ำจ้ะ… พี่ซื้อมาให้… ”
พี่พันน์กลับมาที่รถพร้อมกับกาแฟร้อนและน้ำแร่ในขวดพลาสติกใส
“ขอบคุณค่ะ”
กลิ่นหอมของกาแฟลอยมาแตะจมูก ควันสีขาวยังลอยเป็นสาย สะท้อนอยู่ในประกายแสงแดดสีทองของยามเช้า สาดผ่านบานกระจกรถเข้ามาภายในรถตรงที่ฉันนั่ง
แสงแดดที่สาดเข้ามากระทบเสี้ยวหน้าด้านหนึ่งของเขา ยิ่งทำให้มองเห็นความหล่อเหลาของผู้ชายคนนี้
ไม่แปลกถ้าใบหน้าของเขาดูคมคร้ามสะดุดตา เพราะว่าพี่พันน์มีเชื้อฝรั่ง จากที่ได้เคยคุยกันจึงรู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่งอเมริกาใต้
พี่พันน์เคยเล่าให้ฟังว่ามีพ่อเป็นชาวบราซิล ส่วนแม่เป็นคนไทย
เมื่อตอนเด็กๆ พี่พันน์อาศัยอยู่ที่บ้านของแม่ที่อีสาน แต่หลังตากแม่กับพ่อซึ่งเป็นชาวบราซิลเลิกรากันไป พี่พันน์ก็ย้ายเข้ามาทำมาหากินอยู่กรุงเทพฯ
“ขออภัยที่ต้องจอดให้เสียเวลานะครับ”
พี่พันน์หันมายิ้ม ท่าทางขี้เกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ… อันที่จริงพี่จะจอดรถกินกาแฟสักเดี๋ยวก็ได้นะคะ”
ฉันบอก ไม่อยากให้เขาเร่งรีบจนเกินไป
“จะไปเดินซื้อของแถวจตุจักรใช่ไหมครับน้องจันทร์… ที่นั่นของเยอะนะครับ”
พี่พันน์ถาม ฉันรู้ว่าเขาอยากชวนคุย
“เปล่าค่ะ… หนูจะไปสปาค่ะ สปาขัดผิวค่ะ มีร้านที่เคยไปประจำอยู่ที่นั่นค่ะ”
ฉันตอบ
“ผิวสวยอย่างน้องจันทร์ยังจะต้องเข้าสปาขัดผิวอีกหรือครับ”
พี่พันน์เหลือบมองมาที่ฉัน
“เมื่อก่อนหนูไปบ่อยค่ะ… แต่หลังจากมีลูกก็ไม่มีเวลา เลี้ยงลูกจนแทบไม่ได้แวะไปนานแล้วค่ะ”
ฉันตอบไปตามความจริง
“แล้ววันนี้ใครเลี้ยงลูกให้ครับ”
พี่พันน์คงสงสัย
ที่เห็นว่าวันนี้ฉันออกจากบ้านมาได้
“ช่วงนี้แม่ผัวแวะมาเยี่ยมจ้ะพี่… มาค้างที่บ้านสองคืนแล้วค่ะ ก็เลยมีคนช่วยเลี้ยงลูก”
ฉันตอบ
“แล้วถ้าไปนานลูกชายของจันทร์จะไม่หิวนมหรือจ๊ะ… ”
พี่พันน์สงสัย…
“ไม่หรอกจ้ะ… ก่อนออกมาฉันปั๊มน้ำนมใส่ขวดแช่ตู้เย็นเตรียมไว้ให้ลูกแล้วจ้ะ”
ฉันตอบ…
แวบหนึ่งฉันแอบสังเกตเห็นพี่พันน์เหลือบมองหน้าอกของฉัน
แต่คิดอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผู้ชายจะมองนมฉัน เพราะว่าโดยปกติฉันเป็นผู้หญิงนมใหญ่อยู่แล้ว ยิ่งในช่วงที่กำลังเป็นแม่ลูกอ่อนเต้านมคัพอีที่ใหญ่มากเป็นทุนเดิมก็ยิ่งหลามล้นสะดุดตาเข้าไปใหญ่