บท
ตั้งค่า

๑.๓ ห้วงคะนึง

ความสนิทสนมระหว่างกฤชเพชรกับพลอยพิมลดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น เพราะทั้งสองได้เจอกันทุกครั้งในวันที่กฤชเพชรมาสอนนักศึกษา ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาในหมู่สาวๆ นักศึกษาและคณาจารย์ที่ไม่เคยเห็นกฤชเพชรให้ความสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษมาก่อน

ตอนบ่ายหลังจากเรียนเสร็จพลอยพิมลมานั่งรอที่ใต้ตึกคณะเช่นเคย อาจารย์หนุ่มหล่อลงจากตึกหลังจากสอนเสร็จ เห็นว่าเพื่อนน้องสาวกำลังนั่งมองและส่งยิ้มมาให้ เขาจึงเดินตรงเข้าไปหา

“ยังไม่กลับอีกเหรอเรา พี่นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก”

“ยังไม่กลับค่ะ วันนี้ผิงมาดักรอพี่เพชรเพื่อทวงสัญญาโดยเฉพาะเลย”

คำพูดของพลอยพิมลทำให้คิ้วเข้มต้องเลิกขึ้นอย่างงงงันเล็กน้อย “สัญญาอะไรเหรอยัยแสบ วันนี้พี่พาไปกินอะไรไม่ได้นะ พี่ต้องรีบกลับบ้าน”

“ผิงก็ไม่ได้จะให้พาไปไหน แต่ว่าผิงจะขอไปเที่ยวไร่ของพี่เพชรที่นครนายกต่างหาก พี่เพชรเคยบอกว่าถ้าผิงจะไปเที่ยวก็ไปได้ทุกเมื่อ จำได้หรือเปล่า” พลอยพิมลทวงสัญญาของตัวเองทันที

“แต่นี่มันบ่ายแล้วนะ ขับรถไปกลับคนเดียวมันอันตราย พี่เป็นห่วงยังไงซะเราก็...” กฤชเพชรยังพูดไม่ทันจบ เพื่อนน้องสาวของเขาก็แทรกขึ้น

“รู้หรอกน่าว่าเป็นห่วง แต่ใครบอกว่าผิงจะขับรถไปกลับเองล่ะคะ ผิงจะไปรถพี่เพชรต่างหาก และผิงก็เตรียมเสื้อผ้ามาแล้วด้วย กะว่าจะไปค้างสักคืนสองคืน สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอดแล้วค่อยกลับค่ะ” หญิงสาวบอกถึงแผนตัวเองและทำหน้าสดชื่นรอ เมื่อนึกถึงบรรยากาศที่รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวขจี เต็มไปด้วยฝูงม้า ทุ่งหญ้าและอากาศที่คงจะสดชื่นน่าดู

“แล้วที่บ้านเราว่ายังไง จะไปค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายแบบนี้ เป็นพี่พี่จะตีให้ก้นลาย” กฤชเพชรทำเสียงดุเช่นเดียวกับที่เคยเข้มงวดกับแพรมุก

“โหพี่เพชร ผิงอายุยี่สิบห้าแล้วนะคะ รุ่นนี้แม่ไม่ว่าแล้ว กลัวแต่จะขายไม่ออกมากกว่า เอาเป็นว่าอนุญาตให้ผิงไปด้วยนะ อุตส่าห์เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ามาแล้ว”

“ก็ได้...” กฤชเพชรยอมใจอ่อนเมื่อเห็นแววตาที่รอคอย “แต่พี่มีข้อแม้ว่า ผิงต้องขับรถกลับบ้าน แล้วพี่จะขับตามไปด้วย ไปบอกกล่าวพ่อแม่ของเราให้เรียบร้อย ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหายไปกับใคร และอนุญาตให้พักได้แค่หนึ่งคืน ตอนเช้าพี่จะขับรถมาส่งที่กรุงเทพฯ เอง”

คำพูดของกฤชเพชรทำให้หัวใจของสาวรุ่นน้องพองโต จากที่เคยนึกชื่นชม ตอนนี้ความรู้สึกดีๆ ก็นับวันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งได้ใกล้ชิดยิ่งรู้สึกได้ว่ากฤชเพชรเป็นผู้ชายที่ดีมากแค่ไหน

ร่างอรชรในชุดเสื้อแขนกุดสีขาวยัดชายเข้าในกางเกงขาสั้นผ้าโพลีเอสเตอร์พิมพ์ลายโซ่สีน้ำตาลกำลังยืนทอดมองความสวยงามของธรรมชาติอย่างชื่นชม บริเวณที่อนามิกายืนอยู่นั้นเป็นระเบียงที่ต่อเติมออกมาจากตัวบ้านซึ่งปลูกอยู่บนเนินหญ้า สามารถมองเห็นความสวยงามของอาณาจักรย่อมๆ แห่งนี้สุดลูกหูลูกตา จนนึกทึ่งคนที่ออกแบบและสร้างสรรค์ความงดงามที่กลมกลืนกับธรรมชาติแห่งนี้ขึ้นมา ครั้นพอมองไปยังโรงรถที่ปลูกไว้ไม่ห่างจากตัวบ้าน ก็เห็นว่ามีรถบิ๊กไบค์จอดอยู่หนึ่งคัน ส่วนอีกคันเป็นรถกระบะ และว่างอยู่อีกหนึ่งที่ ซึ่งตรงนั้นคงจะเป็นที่สำหรับจอดของรถอีกคันที่ยังอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นแน่

อนามิกาเบนสายตาหนี เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของรถเหล่านั้น เธอมาที่นี่ตามคำสั่งของพี่ชายเพื่อส่งดอกเบี้ยในฐานะลูกหนี้ ความจริงจะโอนผ่านธนาคารก็ได้ แต่น่านนทีอยากให้เธอมาด้วยตัวเองเพื่อเยี่ยมเยือนพิทยากับกฤชเพชร ทว่าเธอกลับเลือกมาที่นี่ในวันที่กฤชเพชรต้องไปสอนนักศึกษาที่กรุงเทพฯ เพราะถือว่าได้เจอกันแล้ว

ความตั้งใจแรกคือจะมาเพียงครู่เดียวก็กลับ แต่ความงดงามและความสดชื่นเย็นสบายดึงดูดให้เธออยู่ที่นี่นานกว่าที่ตัวเองวางแผนไว้

ลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ เริ่มพัดแรงขึ้นจนกลายเป็นกรรโชก ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำทะมึน เสียงคำรามของอสนีดังขึ้นครืนๆ คล้ายกับเตือนให้คนที่ปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไปกับความงามของธรรมชาติกลับสู่ห้วงความเป็นจริง

อนามิกายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เห็นว่าเป็นเวลาเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว จึงรีบกลับเข้าบ้านไปเพื่อเอากระเป๋าและร่ำลาเจ้าของบ้าน พอพ้นจากระเบียงไม่ทันไร ฟ้าก็แลบแปล๊บเป็นสายสีเหลืองพร้อมกับเกิดเสียงดังเปรี้ยง ก่อนที่ฝนจะเทกระหน่ำลงมาด้วยเม็ดหนาทึบ

“นิจจะกลับแล้วนะคะคุณลุง” เสียงหวานบอกกับพิทยาซึ่งยังคงนั่งรออยู่บนโซฟาในห้องรับแขกเช่นเดิม

“อย่าเพิ่งกลับเลยนะครับคุณนิจ ตอนนี้ข้างนอกลมแรงมาก พยากรณ์อากาศบอกว่าพายุฤดูร้อนเข้า คุณนิจขับรถกลับตอนนี้คงจะอันตรายน่าดู”

“กรุงเทพฯ ใกล้แค่นี้เอง คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ”

“แต่ลมมันกรรโชกแรงมาก ถ้าขืนลุงปล่อยให้คุณนิจขับรถกลับแล้วคุณนิจมีอันตราย ลุงคงไม่มีหน้าไปบอกคุณน่านแน่ๆ รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยกลับ เห็นแก่คนแก่เถอะนะครับคุณนิจ”

พิทยาขอร้องหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง พายุฤดูร้อนคราวนี้รุนแรงมาก เพราะอากาศที่ร้อนระอุติดต่อกันมาแรมเดือน เดาได้ไม่ยากเลยว่าต้นไม้และกิ่งไม้คงหักโค่นหลายต้น บ้านเรือนที่อยู่ในระหว่างทางผ่านของพายุคงจะเสียหายหลายหลัง ที่สำคัญท้องถนนคงไม่ปลอดภัยนักหากจะขับรถในยามที่ฟ้าฝนแรงเช่นนี้

สายตาและคำขอร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริงนั้น ทำให้อนามิกาเกิดอาการละล้าละลัง และไม่อยากหักหาญน้ำใจคนแก่ด้วยการพาตัวเองไปเผชิญอันตราย แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าการอยู่ที่นี่นานขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้เผชิญหน้ากับกฤชเพชรก็มากขึ้นด้วย ทว่านั่นคงสำคัญน้อยกว่าความห่วงใยของพิทยา และความปลอดภัยของตัวเธอเองกระมัง

“นิจอยู่ก็ได้ค่ะ แต่ดูท่าฝนจะไม่หยุดตกง่ายๆ นะคะคุณลุง แบบนี้นิจจะได้กลับเมื่อไหร่น้อ” หญิงสาวรำพึงถึงความกังวลของตัวเอง

“ถ้ามืดค่ำแล้วฝนยังไม่หยุด คุณนิจก็ค้างที่นี่เลยครับ ที่นี่ออกจะกว้างขวาง ห้องหับก็เยอะ เดี๋ยวลุงจะให้แม่บ้านไปจัดห้องให้ ส่วนเสื้อผ้าถ้าคุณนิจไม่ถือก็ใส่ของยัยแพรนะครับ บางตัวยังไม่ใส่ก็มี”

“นิจไม่ถือหรอกค่ะ แต่นิจไม่อยากรบกวนเลย”

“รบกวนอะไรกันครับ ถือซะว่าอยู่เป็นเพื่อนคนแก่ก็แล้วกัน บ้านคงครึกครื้นขึ้นถ้ามีคุณนิจอยู่ด้วยอีกคน ลุงกับตาเพชรอยู่กันสองคนก็เงียบๆ นี่ถ้าเพชรแต่งงานแต่งการและมีหลานให้ลุงสักคนสองคนก็คงดี แต่ดูท่าน่าจะอีกนาน” พิทยาบ่นไปตามประสาคนแก่ที่เริ่มจะมีความเหงาและอยากเห็นลูกมีครอบครัว

“บางทีอาจจะอีกไม่นานนี้ก็ได้นะคะ” อนามิกาพูดเสียงหม่นเศร้า เมื่อนึกถึงภาพความสนิทสนมระหว่างกฤชเพชรกับพลอยพิมลที่ตนเห็นมากับตา

คนที่เป็นประเด็นดูเหมือนจะอายุยืน เพราะขณะที่ผู้เป็นพ่อและอนามิกากำลังพูดถึงเขาอยู่นั้น รถยนต์ซึ่งตะลุยฝนมาตั้งแต่ทางเข้าไร่ก็แล่นถึงหน้าบ้านพอดี

ทั้งคนมาใหม่และคนที่นั่งอยู่ก่อนต่างก็มีท่าทีชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเจอหน้ากัน แต่ก็ยังเป็นกฤชเพชรที่ควบคุมสีหน้าได้ดีกว่า ในขณะที่อนามิกาหน้าเจื่อนไปทันตา แค่ได้เห็นคนที่ตัวเองอยากหลบหน้าก็ตั้งตัวไม่ติดอยู่แล้ว ทว่าสิ่งที่หนักหน่วงในอกมากไปกว่านั้น คือได้เห็นเขามาพร้อมกับพลอยพิมล ในมือมีกระเป๋าใบขนาดย่อม ซึ่งไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าพลอยพิมลคงมาค้างที่บ้านของเขา…

ความเศร้าหมองแล่นพล่านไปทั่วร่างพร้อมๆ กับที่เลือดสูบฉีดอย่างอ่อนแรง แม้จะรู้อยู่แล้วว่าทั้งคู่คบหากัน แต่ใจมันกลับสั่นเทาไปหมด เมื่อได้ประจักษ์แก่ตาตัวเองถึงความสัมพันธ์ที่กำลังรุดหน้าไปในอีกระดับหนึ่งระหว่างคนทั้งสอง

“มาแล้วเหรอตาเพชร พ่อกำลังเป็นห่วงอยู่พอดี แล้วนั่นพาใครมาด้วย แม่หนูคนนี้ดูคลับคล้ายคลับคลานะ” พิทยาทักทายลูกชาย และพิศมองหญิงสาวที่เดินเคียงข้างมาด้วยอย่างรู้สึกคุ้นตา

“นี่ผิงเพื่อนยัยแพรครับพ่อ เมื่อก่อนยัยแพรเคยพามาบ้านเราที่กรุงเทพฯ บ่อยๆ พ่อจำได้หรือเปล่าครับ”

“จำได้ๆ ถึงว่าสิ พ่อรู้สึกคุ้นหน้า”

“สวัสดีค่ะคุณลุง” พลอยพิมลยกมือขึ้นไหว้พิทยาและยิ้มกว้าง “ผิงจะมาขอเยี่ยมชมรีสอร์ตและค้างที่นี่สักคืนนะคะ”

“เอาสิหนูผิงตามสบายเลย แต่เสียดายมาตอนฝนตกพอดีเลยไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุง เอาไว้ผิงค่อยให้พี่เพชรพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าก็ได้ มาตอนฝนตกก็ฟินไปอีกแบบ สายฝนทำให้บรรยากาศสดชื่นและโรแมนติกสุดๆ ไปเลยค่ะ”

“วัยรุ่นนี่มองอะไรก็สวยงามไปหมดเลยนะ มัวแต่ชวนกันคุยก็เลยลืมบอกเพชรกับหนูผิงว่าวันนี้คุณนิจมาเยี่ยม” พิทยาหันไปทางหญิงสาวอีกคนที่ยืนเงียบอยู่นาน

“สวัสดีค่ะคุณนิจ ดีใจจังค่ะที่ได้เจอคุณนิจที่นี่” พลอยพิมลหันไปทักทายอนามิกาพร้อมทั้งยิ้มให้เช่นเดียวกับที่เจอกันที่โรงแรม

“สวัสดีจ้ะผิง นิจมาเยี่ยมคุณลุงน่ะจ้ะ กำลังจะกลับแล้ว แต่พอดีฝนตกหนักก็เลยติดฝนอยู่ที่นี่”

“เห็นทีฝนจะตกอีกนานแน่ๆ ค่ะ” พลอยพิมลให้ความคิดเห็นเพราะข้างนอกฝนยังเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย และบรรยากาศด้านนอกก็มืดขึ้นเรื่อยๆ

“ถ้าอย่างนั้นคุณนิจค้างคืนที่นี่สักคืนนะครับ ลุงจะโทร.บอกคุณน่านให้เอง”

“แต่ว่านิจ...” อนามิกายังมีท่าทีลังเล เพราะไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนจริงๆ ว่าต้องมาค้างที่นี่

“คุณหนูนิจของพ่ออาจจะไม่อยากนอนค้างอ้างแรมในบ้านที่อยู่ติดป่าติดเขาและไม่ค่อยสะดวกสบายนักก็ได้ครับพ่อ ถ้าคุณนิจไม่อยากจะค้างก็ไม่ต้องฝืนใจเธอหรอกครับ เดี๋ยวพอฝนหยุดตกผมจะขับรถกลับไปส่งที่กรุงเทพฯ เอง”

ประโยคนั้นกฤชเพชรเป็นคนแทรกขึ้น ใบหน้ายังคงเรียบเฉย หากแต่น้ำเสียงกลับเจือไว้ด้วยการดูแคลนว่าหญิงสาวไม่อยากทนลำบากหรืออาจจะรังเกียจบ้านของเขา หากทว่าคนฟังกลับคิดไปว่าเขาไม่อยากให้เธออยู่เป็นก้างขวางคอ ทำให้อนามิกาเกิดทิฐิและสวนกลับออกไปอย่างทันควัน

“นิจไม่ได้กลัวความลำบากอะไรหรอกค่ะ ถ้านิจกลัวความลำบาก นิจคงไปนอนค้างอ้างแรมในทะเลทรายไม่ได้หรอก เอาเป็นว่านิจจะค้างที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่านิจไม่ได้รังเกียจรังงอนความลำบากหรืออะไรก็ตามที่คุณกำลังกล่าวหานิจ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณนิจกับหนูผิงก็ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนนะ เสร็จแล้วจะได้มาทานอาหารเย็นด้วยกัน เย็นนี้ลุงคงจะเจริญอาหารน่าดู เพราะมีสองสาวสุดสวยมาทานเป็นเพื่อน” พิทยาพูดให้บรรยากาศผ่อนคลาย เมื่อเห็นว่าอนามิกากับลูกชายของตนมีท่าทีขุ่นเคืองใส่กัน หลังจากนั้นก็หันไปเรียกแม่บ้านให้พาสองสาวขึ้นไปห้องพัก โดยอนามิกาพักห้องที่สร้างไว้สำหรับแพรมุก ส่วนพลอยพิมลนั้นพักห้องรับแขก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel