๑.๒ ห้วงคะนึง
“มันง่ายกว่าเรียนปริญญาตรีซะอีกถ้าเราตั้งใจ เพราะเรียนไม่กี่วิชา”
“พี่เพชรเก่งมันก็ดูง่ายสิคะ ผิงสมองทื่อมันก็คงจะยากไปหมดนั่นล่ะ”
“เรานี่จริงๆ เลยนะ เอาเป็นว่าพี่จะไปด้วยก็แล้วกัน” กฤชเพชรยอมตกลงในที่สุด เขาเองคิดถึงน้องสาวอยู่ไม่น้อย การได้ใกล้ชิดกับเพื่อนน้องสาวน่าจะทำให้ความคิดถึงที่มีต่อแพรมุกคลายลงไปได้บ้าง
“งั้นไปรถผิงนะคะ ถ้ากินเสร็จแล้วผิงจะกลับมาส่งค่ะ”
“ตามใจ แต่เอากุญแจรถมา พี่จะขับเอง”
“ได้เลยค่ะ แบบนี้ใช่มั้ยคะที่เขาเรียกกันว่า ‘แฟนขับ’ ” พลอยพิมลยิ้มแป้น ก่อนจะส่งกุญแจรถให้เขา พร้อมกับเอ่ยสัพยอกอีกคำที่ทำให้กฤชเพชรถึงกับต้องส่ายหัวอย่างขำๆ ในความเซี้ยวของเพื่อนน้องสาว ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองได้อยู่กับแพรมุก เพราะนิสัยของพลอยพิมลก็ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่
กฤชเพชรทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปตามทางที่พลอยพิมลบอก ตลอดทางหญิงสาวคุยจ้ออยู่ไม่ได้ขาด บางทีก็มีมุกตลกขบขันทำให้เขานึกเอ็นดูและคุยด้วยอย่างสนิทสนมอย่างรวดเร็ว
“เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมเอ็นแอนด์ทีการ์เดนเลยนะคะพี่เพชร ข้างหน้านั่นล่ะค่ะ”
“ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ พี่นึกว่าจะไปร้านเล็กๆ ซะอีก” สถานที่ที่พลอยพิมลบอกนั้น เป็นสถานที่ที่เขาพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่มาย่างกราย
“ผิงอยากจะมารำลึกความหลังสมัยฝึกงานน่ะค่ะ อีกอย่างที่นี่ก็เป็นสถานที่พบรักของยัยแพรกับชีคสุดหล่อน้องเขยพี่เพชรด้วย แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นขนมอร่อยมากค่ะ”
สารถีหนุ่มจำต้องหักพวงมาลัยเข้าไปตามคำบอกของพลอยพิมลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้จะหวั่นอยู่ลึกๆ ว่าจะเจอกับใครบางคน แต่เขาก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผชิญหน้า
ร่างอ้อนแอ้นในชุดเดรสคอวีสีเทาเข้ารูปกำลังเดินตรวจงานอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม แม้ชุดที่ใส่จะเป็นสีโทนเรียบ แต่รูปร่างที่สมส่วนและท่าทีอันแสนสง่างามสมกับมีเลือดราชนิกุลอยู่ในตัวก็ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร ทั้งแขกของโรงแรมและแม้กระทั่งพนักงานของโรงแรมเองก็ตาม
อนามิกาเข้ามารับงานบริหารของโรงแรมเต็มตัวตั้งแต่กลับจากอังกฤษได้ไม่กี่วัน สถานการณ์ของโรงแรมช่วงนี้ไม่สู้ดีนัก เพราะต้องแบกรับรายจ่ายที่มากกว่ารายรับมาหลายเดือน เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวมีผลกระทบโดยตรงต่อโรงแรมและธุรกิจอย่างอื่นของครอบครัว ผู้คนที่เคยมาใช้บริการของโรงแรมอย่างคึกคักก็บางตาลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้อนามิกาหนักใจไม่น้อย และเป็นเหตุผลที่เธอต้องกลับมาประเทศไทย ทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบต่อหน้าที่อันหนักอึ้งนี้เท่าใดนัก
รอยยิ้มที่กำลังแย้มพรายให้กับพนักงานที่เดินผ่านชะงักค้างอย่างเป็นอัตโนมัติ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นสองหนุ่มสาวที่กำลังเดินเคียงคู่กันเข้ามาทางประตูหน้าของโรงแรม ขาทั้งสองยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ลืมหายใจไปชั่วขณะ หัวใจกลับเต้นแรงโครมๆ ด้วยความกระอักกระอ่วนคล้ายดั่งมีเรื่องตื่นเต้นหนักหน่วง ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเพียงแค่การได้เจอคนเคยรู้จัก ซึ่งอาจจะแวะเข้ามาใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งของโรงแรมเท่านั้น
แต่...มันเท่านั้นจริงๆ น่ะหรือ ทำไมหัวใจที่เต้นแรงโลดราวกับมีคนกระหน่ำกลองศึกอยู่ข้างในเมื่อครู่นี้ถึงได้มีอาการแปลบๆ และรวดร้าวแทรกเข้ามาเหมือนกับมีใครกระชากมันออกมาบีบเล่นเช่นนั้น ยิ่งกฤชเพชรกับพลอยพิมลเดินใกล้เข้ามามากเพียงใด อาการมันก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
“คุณนิจ คุณนิจจริงๆ ด้วย กลับมาเมื่อไหร่คะเนี่ย สบายดีมั้ย” พลอยพิมลปรี่เข้าไปหาอนามิกาทันที แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเพื่อนต่างคณะสมัยเรียน แต่ก็รู้จักมักคุ้นกันดี เพราะอนามิกามักจะแวะมาหาแพรมุกเพื่อนในกลุ่มของเธอที่คณะเสมอ
“นิจเพิ่งจะกลับมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองจ้ะ แล้วผิงล่ะเป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย ดูเหมือนว่าผิงจะสวยขึ้นนะ” อนามิกาทักทายกลับโดยยังไม่ได้หันไปมองร่างสูงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ พลอยพิมลแต่อย่างใด จึงไม่รู้ว่าตอนนี้ตาคมกริบคู่นั้นแอบลอบมองเธออย่างสำรวจอยู่เงียบๆ
“ถ้าอย่างผิงเรียกว่าสวยขึ้น แล้วคุณนิจล่ะคะจะเรียกว่าอะไร สวยหยาดเยิ้มมาเลย”
“อย่าชมนิจนักเลย นิจก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”
“ใครว่าล่ะคะ คุณนิจสวยขึ้นตั้งเยอะ จริงมั้ยคะพี่เพชร” พลอยพิมลหันไปถามคนข้างๆ ตามประสาซื่อ
“คุณนิจดูมีความสุขดีนะครับ”
เสียงทุ้มดังขึ้นเรียบๆ เหมือนดั่งทักทายคนรู้จักทั่วไป แต่ภายในคำทักทายอันธรรมดานั้นกลับมีความนัยแฝงอยู่ พลอยพิมลพูดไม่ผิดสักนิด ความสวยของผู้หญิงตรงหน้าเรียกได้ว่าสวยหยาดเยิ้ม สวยมากกว่าที่เขาเคยเห็นเมื่อสามปีก่อน เรือนร่างที่เคยบอบบางตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น ชุดที่จงใจออกแบบเพื่อเน้นสัดส่วนเว้าโค้งทำให้เจ้าตัวดึงดูดสายตายิ่งกว่าเก่า ผมดำขลับดัดเป็นลอนใหญ่ๆ ตรงช่วงปลายล้อมกรอบใบหน้าเนียนรูปไข่ ปากนุ่มที่เขาเคยจูบมาแล้วถูกเคลือบด้วยลิปสติกเนื้อดี ใบหูขาวสะอาดทั้งสองข้างติดต่างหูมุก ช่วงคอระหงมีสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กๆ ห้อยด้วยจี้รูปหัวใจคล้องอยู่ ชวนให้คิดว่าคนใส่อาจจะกำลังมีความรัก หรือไม่ก็ได้สร้อยเส้นนั้นมาจากใครบางคนที่อยากจะสื่อว่าให้ด้วยรัก
“ค่ะนิจมีความสุขดี คุณเองก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากนะคะ”
“ก็ตามอัตภาพครับ”
“เป็นอัตภาพที่น่าอิจฉาไม่น้อยทีเดียว” อนามิกาพยายามจะบังคับน้ำเสียงไม่ให้เป็นไปในทางประชดประชัน และบอกให้ตัวเองรู้สึกยินดีกับความรักของคนที่ตัวเองรู้จักทั้งสอง
แน่นอนล่ะ...ตอนนี้สถานภาพของกฤชเพชรสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จากที่เคยเป็นลูกจ้าง ครอบครัวของเขาเปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้าหนี้ของครอบครัวเธอ มิหนำซ้ำเขาเองก็กำลังคบหาดูใจกับผู้หญิงที่น่ารักอย่างพลอยพิมล
“เอ่อ...ทำไมผิงรู้สึกว่าคุณนิจกับพี่เพชรทักทายกันแบบเครียดๆ ยังไงก็ไม่รู้นะคะ” พลอยพิมลแทรกขึ้นตามที่ตัวเองรู้สึก
“นิจคงเป็นคนที่คุยไม่ค่อยสนุกน่ะจ้ะผิง ถ้าอย่างนั้นนิจขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า ผิงกับคุณเพชรของผิงจะได้คุยกันแบบส่วนตัว เชิญตามสบายนะจ๊ะ เอาไว้เจอกัน” อนามิกาเอ่ยขอตัวเพื่อเปิดโอกาสให้คนทั้งสองตามที่คิดว่าตัวเองสมควรทำ
“คุณเพชรของผิง...?” พลอยพิมลทวนคำของอนามิกาแล้วหันไปยิ้มพรายกับชายหนุ่ม “ฟังดูเหมือนคุณนิจยกพี่เพชรให้ผิงเลยนะคะ”
“ไม่มีใครยกพี่ให้ใครได้หรอก นอกเสียจากว่าพี่จะเต็มใจเอง”
“แน่ะๆ พูดอย่างนี้ผิงคิดนะคะ” พลอยพิมลยังอารมณ์ดี โดยไม่รู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองกำลังคุยด้วยอยู่นั้นกำลังโกรธกรุ่นกับคำพูดของอนามิกาเมื่อครู่นี้มากเพียงใด
“จะกินขนมหวานไม่ใช่เหรอ ไปเถอะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
“เลี้ยงแต่ขนมหวานเหรอคะ ไม่คิดจะเลี้ยงขนมจีบบ้างเหรอ ผิงอยากกินมากกว่าขนมหวานเสียอีกนะ” พลอยพิมลทำตากะพริบปริบๆ แบบน่ารักใส่ ทำให้กฤชเพชรยิ้มออก เพราะท่าทางทะเล้นๆ ของพลอยพิมลนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่นักกับแพรมุกน้องสาวของเขาที่มักจะทำเวลาที่เห็นเขาอารมณ์ไม่ดี
“แน่ใจนะว่าอยากกิน รสชาติขนมจีบพี่อาจจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่นะ”
“อร๊ายฟิน อย่าพูดให้อยากแล้วจากไปนะคะ”
“ถึงเวลาจริงๆ อย่าหนีก็แล้วกัน” กฤชเพชรต่อปากต่อคำด้วย ไม่เชิงว่าจะจริงจังอะไร แต่เป็นไปในแบบรับมุกสนุกสนานคลายเครียดมากกว่า
“คนอย่างพลอยพิมลไม่เคยหนีอะไรค่ะ โดยเฉพาะผู้ชายหล่อๆ นอกจากจะไม่หนีแล้ว ผิงยังจะวิ่งใส่อีกต่างหาก”
“ผู้ชายหล่อๆ บางคนก็ไม่น่าวิ่งใส่เท่าไหร่หรอกนะ”
“แต่ผู้ชายหล่อๆ บางคนที่ว่าคงไม่ใช่พี่เพชรแน่นอน เพราะถึงแม้พี่เพชรจะเป็นผู้ชายหล่อที่ดูเคร่งขรึมเย็นชา แต่ก็ดูจริงใจและอบอุ่นมากค่ะ ใครอยู่ใกล้ๆ หลงตายเลย”
“ใครว่าล่ะ ยัยแพรบ่นบ่อยๆ ว่าพี่ดุ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเข้าใกล้พี่หรอก”
“มีสิคะ ก็ผิงนี่ไง”
“แสดงว่าเราชอบของแปลก”
“ถ้าอย่างผิงชอบของแปลก ผู้หญิงอีกเป็นสิบก็คงชอบเหมือนกันนั่นล่ะค่ะ ขี้คร้านจะแย่งของแปลกอย่างพี่เพชรล่ะสิไม่ว่า ผิงได้ข่าวมาว่าอาจารย์กฤชเพชรเนื้อหอมจะตาย ทั้งอาจารย์ทั้งนักศึกษาในมหาวิทยาลัยนี่มองตาปรอย แต่อาจารย์ก็ยังไม่ยอมสนใคร”
“เรานี่มันซีเอ็นเอ็นของแท้เลยนะ เข้าไปมหาวิทยาลัยไม่กี่ชั่วโมงก็รู้อะไรซอกแซกไปหมด”
กฤชเพชรยิ้มขำ ยิ่งได้คุยด้วยนานๆ พลอยพิมลก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเขาได้อยู่ใกล้น้อง มือใหญ่จึงเผลอยกขึ้นขยี้ผมของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู โดยไม่รู้ว่ากิริยาสนิทสนมของตัวเองกับพลอยพิมลอยู่ในสายตาของคนที่บอกว่าขอตัวไปทำงานตลอดเวลา