9 เจ็บปวด
“ก็ไม่มีอะไร ไม่อยากคุยก็ไม่คุย เกลียดคนไม่รักษาสัจจะ พูดอย่างทำอย่าง ปลิ้นปล้อนแบบนี้คงจะเจริญยาก”
ดาริกาไม่เข้าใจความหมายที่เข็มฟ้าพูดมา แต่แววตาที่มองนั้นทำให้เธอหนาว ๆ ร้อน ๆ หรือว่าเข็มฟ้าเกลียดเธอที่รักกับภูผา หญิงสาวค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นเรื่องนี้อย่าง
“เธอมีอะไรไม่สบายใจปรึกษาเราได้นะไม่ต้องเกรงใจหรอก ไหน ๆ เราก็ทำงานที่เดียวกัน พักห้องเดียวกัน มีอะไรควรพูดควรบอกไม่ใช่ว่านิ่งอย่างเดียว เธอทำอย่างนี้เราเองก็ไม่สบายใจเหมือนกันมันอึดอัดไปหมด”
สาวร่างเล็กโบกมือไปมาเป็นการห้าม น้ำตาคลอจนเอ่อล้นไหลเป็นทางอาบแก้มทั้งสองข้าง เสียงสะอื้นเสียงดังลั่น ดาริกาตกใจจับมือเข็มฟ้าเอาไว้ บีบแน่นเป็นการเรียกขวัญ
“เกิดอะไรขึ้น กับเธอบอกเราสิ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
แต่ดาริกาไม่เชื่อพยายามเค้นหาคำตอบที่ชัดเจน
“เราไม่เชื่อไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ร้องอย่างนี้หรอก บอกเถอะมีอะไรจะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข”
เหมือนเข็มแหลมนับร้อยทิ่มแทงหัวใจ สาวร่างผอมบางเกร็งตัว เค้นเสียงเล็กแหลมออกมา
“มันคงเป็นอาการของคนที่กำลังถูกเขี่ยทิ้งมั้ง ขอทีเถอะเราอยากอยู่คนเดียว กรุณากลับไปได้แล้ว และอย่ามายุ่งกับเราอีก”
ครูสาวใจหาย เมื่อเห็นอาการเข็มฟ้าแล้วบอกได้เลยว่าน่าเป็นห่วง ถ้าไม่รักษาเข็มฟ้าอาจจะเป็นมากไปกว่านี้ จนถึงขั้นเป็นบ้าเลยก็ได้ เข็มฟ้าบอกว่ากำลังถูกทิ้งแสดงว่ามีคนรักแล้ว และคงจะต้องมีอะไรเกินเลยมากไปกว่าเป็นคนรักธรรมดา จนถึงขั้นเสียเนื้อเสียตัว ใครกันนะคือคนรักของเธอ
ดาริกาหวนนึกถึงวันที่กลับจากบ้าน เธอเห็นเข็มฟ้ากับภูผาคุยกันด้วยท่าทางสนิทสนม นึกเพียงเท่านี้ใจหายวาบ ถ้าคนทั้งสองมีอะไรกันและภูผาไม่รับผิดชอบ ทิ้งเข็มฟ้าและมาสานไมตรีกับเธอ ภูผาเป็นผู้ชายที่แย่มาก ๆ เธอเม้มปากน้ำตาเอาไว้ เจ็บใจตัวเองที่ไปรักคนแบบนี้ได้อย่างไร
ความรักที่มอบให้แก่เขาคงต้องจบลงเพียงเท่านี้ คบกันไปคงไม่มีประโยชน์ เพราะทำร้ายคน ๆ หนึ่งให้เจ็บ บางทีอาจถึงตาย แต่เป็นการตายทั้งเป็นมันเจ็บปวดทรมานสุดจะทานทน หญิงสาวทนไม่ได้ที่ตัวเองมีความสุข แต่อีกคนทุกข์ทรมาน ดาริกาคิดไปสารพัดเสียงดังอึงอื้อ ความหนาวเย็นของสายลมที่กระทบผิวนั้นมันไม่เท่ากับความหนาวเยือกเย็นในใจ มันหนาวสะท้านไปทั้งร่าง หายใจไม่ออกเหมือนว่าใจจะขาดเสียให้ได้
“ดา คุณเป็นอะไร ทำไมมาร้องไห้อยู่ตรงนี้”
ฝ่ามือหนาจับไหล่บีบแรงๆ ให้รู้สึกตัว หญิงสาวสะบัดตัวออก เธอร้องไห้เสียงดังเหมือนเด็กๆ
“คุณบอกผมสิ เอาแต่ร้องไห้อย่างนี้ผมจะรู้เรื่องได้ไง ดาคุณไม่ไว้ใจผมแล้วหรือ”
เขาดึงร่างงามลุกขึ้น กอดแนบอก จมูกจูบซุกตามใบหน้า ซับน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแต่น้ำตายังคงไหลออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของเข็มฟ้า เกลียดเขาที่ทำร้ายผู้หญิงได้ ในเมื่อเขาทิ้งเข็มฟ้าได้ลงคอ นับประสาอะไรกับผู้หญิงอ่อนหัดเช่นเธอ จะไม่ถูกสลัดทิ้งเหมือนรองเท้าเก่า ๆ ที่ไร้ความหมาย
แต่ดาริกายอมให้เขากอดร่างบอบบางเดินมาจนถึงกอดอกมะลิ เธอมองเขาด้วยสายตาปวดร้าว
“เดี๋ยวนี้มะลิไม่มีดอกแล้ว ถ้ามีดอกเดี๋ยวผมจะเก็บไปฝากคุณนะครับ”
น้ำเสียงดูเหมือนจริงใจ แต่ดาริกาเสียวแปลบเมื่อนึกถึงคำพูดของเข็มฟ้า จึงแกะมือที่กอดร่างออก ชายหนุ่มเอื้อมมือจะกอด หญิงสาวถอยห่าง
“ทำไมล่ะคุณดา คุณทำเหมือนผมเป็นตัวเชื้อโรค”
ดาริกาไม่ตอบคำถาม จ้องหน้าภูผาด้วยสายตาเย็นชา จนเขารู้สึกได้ ดูเหมือนเธอห่างเหินเฉยชาจนไม่กล้าเข้าใกล้
“เข็มฟ้าบอกว่าเธอกำลังถูกทิ้ง”
ชายหนุ่มงุนงงต่อคำพูดดาริกามาก มองใบหน้าสวยด้วยความแปลกใจ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ คุณถึงได้ร้องไห้เป็นเต่าเผาอย่างนี้”
ครูสาวหันขวับจ้องหน้าเขาด้วยสายตาผิดหวัง น้ำตาที่รื้นค่อย ๆ ไหลลงมา ริมฝีปากสั่นระริก เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนไร้น้ำใจได้ถึงเพียงนี้ ทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้ลงคอ แม้ว่าเจ็บปวดสักเท่าไหร่แต่ดาริกาพยายามที่จะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง
“ก็คุณนั่นแหละทิ้งเธอ คุณเลวมาก ทำอย่างนี้ได้ไง”
ภูผาตะลึง นี่เขาทำอะไรผิดทำไมเขาต้องทิ้งเข็มฟ้าด้วย ในเมื่อไม่ได้มีอะไรกัน เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว