ความรักในป่าหนาว
บทย่อ
บนดอยที่มีแต่ความหนาวเย็น กลุ่มครูอาสาได้มาสอนเด็กที่นี่ ภูผาแอบรักดาริกาครูสาวคนสวยฐานะดี แต่เขาแสดงออกมาในทางตรงกันข้าม เช่นเดียวกับดาริกา เธอแกล้งไม่ชอบหน้าเขา ทั้งที่มีใจชอบเขาเช่นกัน เข็มฟ้าครูสาวที่มาทำงานเป็นครูอาสาเพราะหางานที่ต้องการไม่ได้ เธอแสดงตัวให้ทุกคนเห็นว่าเป็นคนรักของภูผา และมีอะไรกัน จนทำให้ดาริกาเข้าใจผิด ทำให้บรรยากาศป่าหนาวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดาริกาได้จากไป ทำให้เด็กและครูทุกคนคิดถึง รอการกลับมาของเธอ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้แล้วค่ะ
1 คิดถึงคนที่จากไป
ภูผากอดอกยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน เขาไม่สนใจเวลา ว่ามันจะผ่านไปสักเท่าไหร่ แม้ว่าอากาศยามเช้าจะหนาวจนจับจิต แต่ชายหนุ่มก็ไม่ขยับร่างสูงใหญ่ไปไหน สายตาสีสนิมเหล็กมองฝ่าทะเลหมอกที่ปกคลุมขาวโพลน และขยายอาณาเขตออกไปกว้างสุดลูกหูลูกตา ความเย็นชื้นเช่นนี้ภูผารู้สึกว้าเหว่ เงียบเหงา เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ตั้งแต่เธอคนนั้นจากไป
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต คิ้วเรียวเข้ม จมูกและปากรูปกระจับ ทำให้ภูผาไม่อาจลืมเธอไปจากใจ การทำงานร่วมกันระหว่างเขาและเธอไม่ค่อยลงรอยกัน มีแต่เรื่องกระทบกระทั่งกันตลอด สำหรับเขาไม่เท่าไหร่ แต่สาวเจ้าน่ะสิดูเหมือนว่าไม่กินเส้นกับเขาเอามาก ๆ จนบางครั้งอดนึกไม่ได้ว่าเคยเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางไหน ทว่าเมื่อเธอจากไปไกล ภูผากลับคิดถึงสุดหัวใจ พยายามปิดซ่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนร่วมงานจะรู้
เขายังจำวันนั้นได้ดี วันที่เธอสะพายกระเป๋าใบโตแล้วก้าวลงจากบ้านพัก โดยมีเพื่อน ๆ ครูออกมาส่ง
“ดาไปก่อนนะคะ คิดว่าการไปหาสื่อการสอนในครั้งนี้จะทำให้เด็กที่นี่ดีขึ้น ผู้ใหญ่ได้ตอบรับความช่วยเหลือมาหลายรายแล้ว แต่ดาคิดว่าดาไปได้ก็ดีเหมือนกัน ทำให้ใครบางคนโล่งใจที่ไม่ต้องมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่”
ดาริกาปรายตามองภูผา บัดนี้ยืนนิ่งทำเป็นหูทวนลม ต่อให้เธอกระแนะกระแหนหรือว่าเขาแรง ๆ สักแค่ไหน แต่เขาไม่โกรธ ตรงกันข้ามกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้แหย่เธอให้หงุดหงิด ผู้หญิงคนนี้เวลาโกรธแล้วน่ารัก
ต่อหน้าคนอื่นเขาไม่แสดงออกมาว่าสนใจหญิงสาวรูปร่างปราดเปรียวคนนี้แม้แต่น้อย สิ่งที่เขาแสดงออกมา กลับทำตรงกันข้าม เพื่อปกปิดความในใจของตัวเอง เมื่อร่างงามเดินลงดอยไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนว่าหัวใจหลุดลอยออกจากร่าง ได้แต่ร่ำร้องในใจว่า ดาริกาอย่าเพิ่งไป ดาริกาผมรักคุณ
“คุณภู คุณภูครับ”
ร่างสูงใหญ่สะดุ้ง เมื่อใครบางคนเรียกชื่อ แม้ว่าจะเป็นการเรียกเพียงเบา ๆ ก็ตาม แต่คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ถึงกับตกใจและสะดุ้ง เผชิญเพื่อนร่วมงานนั่นเอง หนุ่มร่างสันทัด ผิวคล้ำเปรียบเหมือนกาแฟไม่ใส่นม ยิ้มแต่ละทีเห็นฟันขาววาววับตัดกับสีผิว ทำให้ภูผานึกนึกถึงคำพูดดาริกาที่ว่า ฟันของเผชิญเต็มปากเหมือนม้า
“อะไรกันครับ เรียกแค่นี้ทำเป็นสะดุ้ง สงสัยกำลังนึกถึงสาวแน่ ๆ”
เผชิญพูดจี้ถูกจุดอย่างนี้ ชายหนุ่มปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าไปมา ถ้าท้องฟ้าสว่างกว่านี้เผชิญคงจับโกหกเขาแน่นอนเพราะหน้าเขาแดงซ่าน
“เปล่า ผมจะคิดถึงใคร คนอย่างผม ปากไม่ดีไม่มีสาวคนไหนเขามาสนใจหรอก จนต้องอยู่คนเดียว ทุกวันนี้ผมปีนขึ้นไปอยู่บนคานเรียบร้อยแล้วครับ”
หลังจากภูผาพูดจบ คนผิวดำหัวเราะชอบใจ เวลาที่เผชิญหัวเราะทำให้อีกฝ่ายอมยิ้มไปด้วยกับหน้าตาของเพื่อนคนนี้
“อะไรกัน รูปหล่อออกปานนั้น หุ่นก็ล่ำบึกเหมือนนักกล้าม ผู้หญิงคนไหนไม่รักก็บ้าแล้ว จริง ๆ นะคุณภู ถ้าเกิดผมเป็นผู้หญิงผมคงตกหลุมรักคุณแน่ ๆ”
ภูผาหัวเราะเสียงดังอย่างขำ ๆ เขานึกไม่ออกว่า ถ้าชายผู้นี้เป็นผู้หญิงหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่อยู่ใกล้กับเผชิญนี่ก็ดีไปอย่างไม่เครียดเพราะ เขาอารมณ์ดีตลอด
“อากาศเช้านี้เย็นจนผมนอนไม่ไหว ต้องออกมาสูดโอโซนก่อนใคร ๆ ความจริงใกล้รุ่งนี่ก็สวยดีเหมือนกัน เสียอย่างเดียวหนาวเข้ากระดูก”
“ถ้าไม่อยากหนาวก็หาสาวมากอดสิ”
“ผมก็อยากมีเหมือนกันแต่ว่าสาวที่ไหนจะมาสนใจครูอาสาจน ๆ ไม่เอาล่ะคุยกับคุณทีไรยุให้มีแฟนอยู่เรื่อย แล้วคุณล่ะมีสาวคนไหนเข้าตาบ้าง”
หลังสิ้นคำถามจากครูหนุ่มรูปหล่อ เผชิญบิดมือตัวเองไปมา ท่าทางเอียงอายแบบนี้เขาทำได้น่ารักน่าชัง
“ก็เล็ง ๆ เอาไว้เหมือนกัน ถ้าสำเร็จผมขอให้คุณเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนะครับ”
“โอ้โฮ รักจริงหวังแต่งนี่นา เอาไว้ถึงเวลานั้นเสียก่อน ผมช่วยเต็มที่”
เผชิญทำตาโต เมื่อรู้ว่าภูผาจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เขา
“ขอบคุณครับ อากาศหนาวอย่างนี้ผมเองรู้สึกไม่สบายเหมือนกัน อย่างว่าเราอยู่ที่สูงย่อมหนาวกว่าคนอยู่ที่ราบ ขนาดยังไม่เข้าหน้าหนาวนะเนี่ยยังหนาวขนาดนี้ ถ้าเกิดเข้าหน้าหนาวจริง ๆ ไม่แย่กันหมดเหรอ เราน่ะไม่เท่าไหร่พอทนได้ แต่เด็กๆ นี่สิอย่างว่าแต่เสื้อผ้าจะสวมใส่เลย แม้แต่รองเท้าก็ยังไม่มี เห็นทีต้องขอบริจาคเสื้อผ้ามาให้เด็ก ๆ แล้วล่ะ”