5 งูในความฝัน
คืนนั้นดาริกาฝันประหลาดฝัน โดยฝันว่ามีงูสีดำมาพันกอดรัด เธอพยายามสลัดมันออกแต่มันยิ่งรัดแน่นเข้า ทั้งกลัวและขยะแขยงสุดขีด สิ่งที่ทำให้เธอตกใจแทบสิ้นสติก็คืองูตัวนั้นมันก้มหน้าลงมา หน้าตามันกลับกลายเป็นหน้าของครูหนุ่มร่างบึก หญิงสาวเบิกตากว้าง เหงื่อแตกพลั่ก ไม่อาจข่มตาหลับได้จึงลุกจากที่นอนแล้วออกไปข้างนอก
อากาศยามเช้าแม้ว่าจะหนาวเหน็บ แต่หญิงสาวรู้สึกสดชื่นที่ยืนอยู่ท่ามกลางหมอกขาวบรรยากาศเช่นนี้ที่กรุงเทพฯ ไม่มีให้เห็น ถึงจะเห็นก็แค่เพียงหมอกควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์เท่านั้น
กรุงเทพฯ มีแต่ความสับสนวุ่นวายตั้งแต่เช้ายันเช้า เพราะกรุงเทพฯ ไม่เคยหลับโดยเฉพาะสถานที่เที่ยวยามราตรี น่าเสียดายเงินที่เสียไป ไม่ได้ประโยชน์งอกเงยขึ้นมา
“ไม่ยักรู้เหมือนกันว่าคุณชอบตื่นเช้าเหมือนกัน”
เสียงทักข้าง ๆ ทำเอาครูสาวสะดุ้ง มองผู้พูดเห็นใบหน้าคมสันกร้านแดด บัดนี้ยิ้มจนเห็นฟันขาว หญิงสาวสะบัดหน้าไม่อยากมอง แต่ไม่ว่าเธอหันไปทางไหนเขาวิ่งดักหน้ารอเสียทุกครั้งจนอ่อนใจ
“คุณเลิกทำท่าทางบ๊อง ๆได้แล้ว”
“นั่นแน่ในที่สุดคุณครูดาริกาก็ยอมพูดกับผม นับว่าเป็นบุญแท้ ๆ เลย”
ดาริกาส่ายหน้าไปมา หนุ่มร่างใหญ่ยืนจ้องหน้า จนครูสาวรู้สึกแปลกใจ ตาเขาเหมือนกับจะเจาะให้ทะลุเข้าไปข้างใน เธอจึงเสมองไปทางอื่น
“คุณเผชิญเอาสื่อการสอนไปให้คุณแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมขอขอบคุณมากที่คุณยังมีแก่ใจมอบให้ผม สำหรับผมคงไม่มีปัญญาหาสิ่งดี ๆ เหล่านั้นมาได้หรอก เพราะฐานะทางบ้านผม หรือว่าผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนไม่มีกำลังพอ ถ้าหวังด้านเงินเดือนก็คงจะแย่ ใช้เดือนชนเดือนก็นับว่าเก่งแล้วครับ”
เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ยียวนกวนประสาท พูดมีหลักการจนดาริกาทึ่ง ความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้เกลียดชังเขามากมาย เพียงแค่อยากเอาชนะเท่านั้น
“อ้าวคุณไม่ใส่ถุงเท้า อากาศเย็น ๆ อย่างนี้เดี๋ยวหวัดได้กินเอาหรอก”
คำพูดของภูผาทำให้หญิงสาวถูเท้าไปมา จริงสินะอากาศเช่นนี้ถ้าขืนปล่อยให้เท้าเย็นชื้นโอกาสที่จะเป็นหวัดมีมาก สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้เขายังเอาใจใส่ ความจริงแล้วเขาก็มีดีเหมือนกันถ้าไม่กวนให้เธอโมโหเสียก่อน
“เรื่องของฉันน่า คุณเองก็เหมือนกันแหละ ว่าแต่ฉันตัวเองก็ไม่ใส่”
ว่าแล้วหนุ่มสาวทั้งสองหัวเราะประสานเสียงกันในยามเช้ากับบรรยากาศที่สดชื่น ภูผามีความสุขอย่างประหลาด
“ถ้าไม่รังเกียจลองเดินไปทางโน้นไหมล่ะ ผมปลูกดอกมะลิเอาไว้เช้า ๆ อย่างนี้ดอกมะลิจะบานส่งกลิ่นหอมเชียวล่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณที่ชวน”
นับเป็นครั้งแรกที่ดาริกายอมเดินเคียงข้างไปกับเขา กลิ่นดอกไม้สีขาวฟุ้งกระจาย เธอสูดกลิ่นหอมเข้าปอดเต็มที่
“หอมจังเลยค่ะ”
ดาริกาเผลอสูดกลิ่นดอกไม้แรง ๆ มีความสุขอย่างประหลาด โดยไม่รู้ว่าภูผามองเธอด้วยสายตามากด้วยความหมาย
สวย สดใส ไร้เดียงสา ไม่มีจริตมารยา คิดไม่ผิดเลยที่เขามอบหัวใจให้ เพียงแค่รอว่าเมื่อไหร่เธอจะเปิดใจยอมรับ
ภูผาเอื้อมมือเด็ดดอกมะลิสามดอกแล้วส่งให้ ดาริการับและยกขึ้นดม ยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาเป็นประกายสุกใส
“ดาชอบดอกมะลิค่ะ ที่บ้านก็ปลูกนะคะแต่ดอกไม่ใหญ่เท่านี้”
หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนามจากฉันเป็นภูผาลิงโลดใจ คิดว่าต่อจากนี้คงง่ายขึ้นที่เขาจะทำอะไรเพื่อเธอ เป็นการแสดงออกมาว่ารัก
“คงจะเป็นมะลิลามั้งครับ สำหรับพันธุ์นี้เรียกว่ามะลิซ้อน”
“ใช่แล้วค่ะ แม่ก็บอกอย่างนั้น คุณน่าจะขยายพันธุ์ปลูกรอบ ๆ โรงเรียนนะ จะได้หอมไปทั่ว ๆ”
“คุณจะช่วยผมปลูกด้วยไหมล่ะ”
ครูหนุ่มร่างบึกยิ้มทะเล้นเสียจนหญิงสาวอดขำไม่ได้ จริงอย่างที่คนอื่น ๆ ว่า ผู้ชายคนนี้อารมณ์ดี ถ้าอยู่ใกล้แล้วมีความสุข ดาริกาพยายามรวบรวมสมาธิกลับมาไม่ให้นึกถึงเขามากเกินไปนัก
“ได้ แต่ดาต้องชวนเข็มฟ้ามาปลูกด้วยนะคะ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วย่นไม่เข้าใจต่อสิ่งที่เธอพูดออกมา ในเมื่อเขาต้องการสื่อความหมายให้รู้ว่าต้องการเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“เกี่ยวอะไรกับคุณเข็มฟ้าด้วยล่ะ”
“อ้าว คุณกับเข็มฟ้ารักกันไม่ใช่หรือ คนเป็นแฟนกันต้องปลูกต้นไม้ร่วมต้น ชาติหน้าจะได้เกิดมาคู่กันอีกไงล่ะคะ”
ภูผาได้ยินดังนั้นถึงกับทรุดลงกับพื้นเหมือนหมดแรง ไม่สนใจว่าเสื้อผ้าจะเปื้อนดินหรือเปียกน้ำค้าง