11 อิดออดกับคนรัก
“นิ่งเสียเถอะคนดี ผมรู้แล้วว่าคุณก็รักผม ชาตินี้เราจะไม่จากกัน”
คนร่างใหญ่เสียงสั่นเครือน้ำตาปริ่ม แล้วกอดร่างบางเอาไว้ ความรักได้หล่อหลอมหนุ่มสาวให้เกือบเป็นร่างเดียวกัน ลมหนาวพัดกรูเข้ามา แต่หนุ่มสาวทั้งสองไม่รู้สึกถึงความเย็น ขณะนี้มีแต่ความอบอุ่นในซาบซ่านจากรสสัมผัสเนื้อตัวซึ่งกันและกัน จึงเป็นเกราะป้องกันความหนาวได้ดี นานเท่านานที่ทั้งสอยืนนิ่งเช่นนี้ ความรักทำให้อบอุ่นกว่าไฟกองใหญ่เสียอีก
“เชื่อผมรึยังว่าผมรักคุณมากที่สุด”
หญิงสาวซุกใบหน้ากับอกกว้าง อายจนพูดไม่ออก เธอหลับตานิ่ง เขาพยุงร่างงามให้นั่งลงที่ขอนไม้ แต่ยังเกาะกุมมือนิ่มเอาไว้ไม่ปล่อย
“ต่อไปนี้อย่าหูเบาเชื่อคนง่าย จะทำให้เราเป็นทุกข์ คุณก็รู้แล้วนี่ว่าความทุกข์ที่เกิดจากความรักมันทรมานแค่ไหน เกือบตายเลยนะ”
“รู้แล้วค่ะ คุณเองก็เถอะทำตัวน่าสงสัยจนดาเข้าใจผิดคิดว่ามีอะไรกับคุณเข็มฟ้า”
ภูผาหัวเราะเบา ๆ เพราะความขี้เล่นของเขาทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบากจนเกือบจะกลายเป็นคนอกหัก เขาดันศีรษะได้รูปพิงหน้าอก หญิงสาวโอนอ่อนแต่โดยดี มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก
“เข็มฟ้าเป็นคนน่าสงสาร อยากได้ใคร่ดี มีความทะเยอทะยาน แต่ก็เป็นเรื่องของเขา เราอย่าไปเก็บมาใส่ใจ เราพยายามรักษาความรักให้มั่นคง และยั่งยืนก็เพียงพอแล้ว ไปเถอะคนดีผมจะไปส่งอากาศเย็นมากแล้วเดี๋ยวจะไม่สบาย”
หญิงสาวยังคงอิดออดจนเขาอดสงสัยไม่ได้
“มีอะไรเหรอที่รัก”
“ก็ดาอายนี่คะ เวลาร้องไห้นาน ๆ ตามันจะบวมแดง ถ้าสองคนนั่นเห็นคงต้องรู้ว่าดาร้องไห้”
“เรื่องเพียงแค่นี้ มืดแล้วไม่มีใครเขามองเห็นหรอก ป่านนี้เขาคงดับตะเกียงนอนกันหมดแล้วมั้ง ถ้าอายก็เอาผ้าขาวม้าคลุมหัวไปก็แล้วกัน มาผมคลุมให้”
ภูผาบรรจงคลุมผ้าขาวม้าสีสดให้ด้วยความนุ่มนวล หญิงสาวรู้สึกมีความสุขแอบสูดกลิ่นกายเขาจากผ้าขาวม้าเอาไว้เต็มที่ รู้ว่ากลิ่นไม่เพี้ยนแม้แต่นิดเดียว ชั่วครู่ร่างสาวสวยเดินขึ้นบ้านพักแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ทองสายหลับแล้ว เหลือเพียงเข็มฟ้าที่นั่งเหม่อมองออกนอกหน้าต่าง
“ไม่ปิดหน้าต่างล่ะ ลมแรงนะวันนี้เดี๋ยวไม่สบายหรอก”
ดาริกาเตือนด้วยความหวังดี เข็มฟ้ายังนั่งนิ่ง เธอคร้านจะพูดต่อจึงล้มตัวลงนอน แต่สายตาไม่วายที่จะหันไปมองเพื่อนสาว เห็นว่ายกมือทั้งสองข้างขึ้นเสียงสะอื้นดังลอดออกมา แรงสะอื้นทำให้ร่างสั่นไหวน่าเวทนายิ่งนัก
ผู้ตกอยู่ในห้วงของความผิดหวังจะทุกข์ทรมานเช่นนี้ทุกคนหรือ ดาริกาเฝ้าถามตัวเองในใจ ก่อนที่ม่านตาค่อย ๆ ปิดลงทั้งสองข้าง
“ไม่ ไม่นะ”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นแต่เช้าตรู่ ปลุกดาริกาและทองสายสะดุ้ง มองไปที่ต้นเสียงก้เห็นเข็มฟ้ายกมือทั้งสองข้างขยี้เส้นผมตัวเองจนยุ่งเป็นกระเซิง ตาแดงกล่ำจนน่ากลัว ดาริกาปราดเข้าไปหา แต่ถูกผลักเสียจนร่างบางกระเด็นออกมา ทองสายดึงมือดาริกาลุกขึ้น แล้วจ้องด้วยความโมโห
“เธอเป็นบ้าอะไรขึ้นมาล่ะ ถึงได้ร้องเหมือนเปรตขอส่วนบุญอย่างนี้ แล้วดาริกาผิดอะไรเธอถึงผลักเสียจนหลังแทบหัก เธอใช้ไม่ได้เลยนะ”
ทองสายต่อว่าอย่างไม่เกรงใจ และประคองดาริกาไปนั่งบนเก้าอี้ เข็มฟ้าเดินเข้ามาหาด้วยตาแดงก่ำ โดยทองสายกั้นอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง
“ถ้าเธอจะทำอะไรดาริกาก็ต้องผ่านชั้นไปก่อน เข้ามาซี๊ เข้ามา”
สาวร่างเล็กชะงัก ตาแดงจนน่ากลัว แก้มทั้งสองข้างเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตา และชี้นิ้วสั่นระริกไปที่ราวตากผ้าในห้อง
“นั่นผ้าขาวม้าคุณภู มาอยู่ในห้องนี้ได้ไง ไปทำมารยาอะไรเขาถึงให้ หนอยแน่ไหนว่าจะไม่สนผู้ชายคนนี้ไง ทำไมเดี๋ยวนี้กลับคำเสียล่ะแม่คนใจคด”
ดาริกาลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจที่ถูกด่าอย่างไร้มารยาท หญิงสาวเผชิญหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน ตาจ้องตา บัดนี้เข็มฟ้าเหมือนกับคนบ้า ที่ผ่านมาคงไม่ได้นอนทั้งคืน ใบหน้าจึงทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด
“คนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงกันได้ จะให้เกลียดกันทั้งปีทั้งชาติคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อเขาเป็นคนดี ฉันจะบ้าเกลียดเขาได้ไง”
“ใช่เดี๋ยวนี้เธอไม่เกลียดแต่รักเขา ทำไมเธอถึงทำร้ายฉัน เธอก็รู้ว่าฉันรักเขารักมากด้วย ฉันตายแน่ถ้าขาดเขาไป ได้โปรดเถอะอย่าทำร้ายกันมากไปกว่านี้เลย”