บท
ตั้งค่า

บทที่6

เมื่อคุณสุดาแต่งตัวเสร็จและเดินออกมาอีกครั้ง เธอพบว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยังคงนั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวเดิม ข้างหน้ามีกาแฟถ้วยเก่าที่มิได้พร่องลงสักน้อย และบัดนี้ก็คงจะเย็นชืดไม่เหลือรสกาแฟสดคั่วใหม่ๆ อย่างเช่นที่หอมกรุ่นกำจายอยู่เมื่อสักชั่วโมงที่แล้ว ทว่าสีหน้าของคนที่นั่งอยู่นั้นกลับยิ้มละไมยามที่ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มอย่างช้าๆ

คุณสุดาส่ายหน้าอย่างเอ็นดู พลางถามยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงแกมประชด

“อ้าว ตาวีร์ กาแฟมันอร่อยนักหรือไงจ้ะ ถึงได้ทำเหมือนจะเก็บไว้ดื่มพรุ่งนี้ ดูสิ...ไม่หมดถ้วยสักที จนแม่แต่งตัวเสร็จแล้วนะจ้ะลูก”

คำถามของแม่เพิ่งจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวว่าเวลาคงผ่านล่วงเลยไปนานแล้ว นิสัยของเขา...ไม่ใช่คนเฉื่อยชาหรืออืดอาดยืดยาด เขาจึงหันมายิ้มฝืดๆ วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะแล้วเดินมาสวมกอดผู้เป็นแม่หลวมๆ ซึ่งกริยานี้คุณสุดารู้ดีว่าเป็นการเฉไฉออกนอกเรื่องของเจ้าลูกชายตัวดี เธอจึงเฉยเสียมิได้คิดจะเย้าแหย่อะไรต่อไปและยิ่งไม่อยากซักถามหรือเร่งเร้าอะไรในตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าการจัดการพ่อลูกชายตัวดีนั้น...ควรจะใช้วิธีอย่างไร

...การยัดเยียดความคิดให้คงไม่ดีเท่า การให้รู้สึกและคิดด้วยตัวเอง...

“แม่ไปล่ะจ้ะ ยังไงถ้าลูกจะไปทานข้าวกับพ่อแม่เย็นนี้โทรบอกแม่สักหน่อยก็ดีนะลูก แม่จะได้ให้เขาเตรียมอาหารที่ลูกชอบไว้ให้ หรือถ้าไม่ไป แม่จะได้สั่งแม่บัวคำให้ทำกับข้าวให้ลูกเย็นนี้”

“ครับ แม่”

ลูกชายรับคำ พลางเดินไปส่งผู้เป็นแม่ถึงชานบันไดที่ทอดลงจากตัวเรือนไม้สักไปสู่ลานหินทรายที่เป็นทางเดินเล็กๆ ตัดไปยังโรงรถที่อยู่ไม่ไกลกันนักกับเรือนหลังใหญ่ ด้านหน้าโรงรถมีรถจี๊ปเชโรกีจอดรออยู่

คุณสุดาก้าวขึ้นนั่งบนที่นั่งตอนหลัง แล้วก็โบกมือให้ลูกชายที่ยืนมองอยู่ที่เรือนใหญ่

“คำสุขแวะที่สวนคุณน้อยสักเดี๋ยวนะ”

คุณสุดาเอ่ยกับคนขับรถเก่าแก่ เมื่อเขาก้าวขึ้นนั่งในที่นั่งคนขับเรียบร้อย

“ครับ แม่เลี้ยง”

รถจี๊ปเชโรกีคันงามเคลื่อนออกไปพ้นสายตาแล้วนั่นล่ะ ชนวีร์จึงหันหลังเดินกลับเข้าเรือน อันที่จริงวันนี้มีงานมากมายรออยู่ แต่เพราะคันยิบๆ กับคำท้าเมื่อวันวานเขาจึงคิดจะเยี่ยมหน้าไปสวนข้างๆ อยากรู้เหมือนกัน หากคนตัวเล็กเห็นหน้าเขา จะทำหน้าอย่างไร แถมรับปากแม่ไว้แล้วว่าจะไปกราบน้าน้อย เพราะฉะนั้นเขาควรจะต้องรีบซะแล้ว นี่ก็เสียเวลามาตั้งเยอะแล้ว

คุณมันทนากำลังสาละวนกำกับสาวๆ ทั้งสามคน ...มีนาวลัย...เกดแก้ว...จอมขวัญ ให้ทานอาหารเช้าที่สั่งให้แม่ครัวทำมาเสียเต็มโต๊ะ เมื่อเสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้าน เธอชะเง้อมองจากระเบียงที่ตั้งโต๊ะอเนกประสงค์ซึ่งใช้ทั้งรับแขก ทานข้าว และทำงาน และก็ยิ้มออกเมื่อเห็นว่าผู้ที่มาเยือนเป็นใคร

เธอละมือจากสาวๆ เดินไปต้อนรับแขก

“พี่สุดา ลมอะไรหอบมาถึงนี่คะ” คุณมันทนาทักทายคนที่เดินลงมาจากรถ พลางเดินลงไปรับถึงที่อย่างทีท่าสนิทสนม

“ใครน่ะ มีนา” จอมขวัญกระซิบถามเพื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อสังเกตเห็นว่ามีนาวลัยทำท่าเหมือนกลืนก้อนน้ำลายแข็งลงคออย่างยากเย็น

“ป้าสุ…แม่ของอีตาบ้าเมือวานนี้ไง”

คำตอบหลังช่วยให้อีกสองสาวกระจ่างใจถึงท่าทีของเพื่อนสนิททันที เกดแก้วอมยิ้มพลางขู่อีกฝ่ายอย่างได้ที

“ไงล่ะ มีนา แกท้าเขาไว้ไม่ใช่เหรอ นี่ไง...เขาส่งแม่มาปราบแกแล้วไง คราวนี้แกแย่แน่ๆ”

“บ้า!” คนที่กำลังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เอ่ยตอบไม่เต็มเสียง เพราะคุณสุดาก้าวขึ้นมาบนระเบียงพร้อมกับคนเป็นแม่เสียแล้ว ทั้งสามสาวทำความเคารพผู้ที่มาเยือนอย่างนอบน้อม โดยเฉพาะคนที่รู้สึกเสียวสันหลังวูบๆ อย่างมีนาวลัย เมื่อวานนี้หล่อนออกจะใจร้อนไปหน่อย ก็หนอยยยย....ตานั่นก็น่านัก ที่จริงหล่อนยังคันไม้คันมือยิบๆ อยู่เลย ดีว่าเพื่อนๆ รั้งตัวหล่อนไว้แน่นหนา ไม่งั้น...

“แวะมาเยี่ยมจ้ะ” คุณสุดาเอ่ยตอบคำถามของคนเป็นเพื่อน ทว่าสายตากลับจับอยู่ที่สามสาวซึ่งลุกขึ้นยืนรับเธออย่างเรียบร้อย สายตาของคนสูงวัยจับอยู่ที่หญิงสาวคนกลางซึ่งดูท่าทางเรียบร้อยผิดจากที่เคยเป็น

“ป้าแวะมาเยี่ยมเฉยๆ จ้ะ หนูมีนา” คุณสุดาพูดยิ้มๆ เดินมาลูบหลังลูบไหล่คนที่ยืนยิ้มเจื่อนๆ คำพูดนั้นทำให้ทุกคนรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันวานมิได้เร้นรอดไปจากหูผู้ที่มาเยือน

“น้อยต้องขอโทษแทนลูกด้วยคะ” คุณมันทนาออกตัวแทนคนที่ยืนยิ้มเจื่อนสนิท อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างระอาแกมเอ็นดู

มีนานะลูก...ดูสิทีเมื่อวานโมโหจนลืมคิด ตอนนี้ล่ะจะมาทำกลัว ยืนตัวลีบไม่พูดไม่จา

“โอ๊ย...” คุณสุดาปัดไม้ปัดมือเป็นพัลวัน พลางพูดต่อโดยเร็ว เพราะกลัวว่าจะทำให้เจ้าของบ้านเข้าใจผิด

“น้อย จะมาขอท้งขอโทษอะไรกัน เรื่องของเด็กๆ เขาทะเลาะกัน ฉันไม่เอาใส่ใจหรอกจ้ะ แค่คิดถึงอยากจะมาเยี่ยมเท่านั้นแหละ และก็กลัววว่าน้อยนั่นแหละจะคิดมาก”

คุณสุดาพูดอย่างคนที่รู้จักกันมาเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้คุณมันทนายิ้มออกมาได้อย่างใจชื้น เธอกับคุณสุดาเป็นแม่เหมือนกัน แถมยังมีลูกรักหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวเหมือนกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าความรักที่มีให้ลูกนั้นมากมายเพียงใด

อีกคนที่ยิ้มอย่างโล่งอกเห็นจะเป็นคนตัวเล็กแต่อารมณ์ร้อนอย่างมีนาวลัยนั่นเอง หล่อนยิ้มปากกว้าง พลางยกมือไหว้อีกครั้งเป็นการขอโทษ

“มีนาต้องขอโทษด้วยนะคะ ป้าสุ เมื่อวานมีนาทำเกินไป แต่...” คำพูดหล่อนสะดุดเพียงเท่านั้น เมื่อนึกว่าไม่ควรจะหลุดประโยคต่อมา... มันเหลือทนจริงๆ

ดูเหมือนว่าผู้สูงวัยกว่าจะเข้าใจ เพราะคำพูดแกมหัวเราะที่ตอบกลับมา ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่นั้นหัวเราะออกมาราวนัดกัน

“จ้ะ ป้ารู้ บางทีตาวีร์ลูกชายป้าเขาก็กวนประสาทอย่างเหลือร้ายทีเดียวล่ะ”

“ขอบคุณ พี่สุดานะคะ ที่ใม่ถือโทษโกรธเคือง” คุณมันทนากล่าวขอบคุณอีกครั้ง พลางเชื้อเชิญให้คนมาเยือนนั่งลง

“พี่สุดาทานอะไรมาหรือยังคะ รับกาแฟหรือชาไหมคะ มีนา...”

ก่อนที่คนเป็นแม่จะทันสั่งความคนเป็นลูก ผู้เป็นแขกก็ชิงตัดบทเสียก่อนด้วยไม่อยากให้วุ่นวายไปกันใหญ่

“โอย...ไม่ต้องเลยจ้ะ น้อย ฉันเพิ่งจะทานกาแฟมาจากที่บ้านเมื่อตะกี้นี้เอง นี่แวะมาหาเฉยๆ ก็อย่างที่บอกแหละ ว่าคิดถึงและก็กลัวว่าน้อยจะคิดมากไม่สบายใจเสียเปล่าๆ เอ...แล้วนี่สาวๆ จะไปไหนกันเหรอจ้ะ”

คำถามท้ายนั้นคุณสุดาเอ่ยปากถามอย่างใคร่รู้เมื่อมองไปเห็นเป้หลายใบวางกองอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง คุณมันทนาเป็นฝ่ายตอบเสียเอง

“เขาจะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่กันน่ะค่ะ พี่สุดา เกด กับ ขวัญ...เพื่อนมีนาเขามาเยี่ยมน่ะค่ะ”

“งั้นเหรอ... แล้วไปกันยังไงล่ะ” คุณสุดาถามอย่างสนใจ ทว่าปลายเสียงกลับแฝงไว้ด้วยความผิดหวัง

“ก็ว่าจะให้คนที่สวนไปส่งน่ะค่ะ เพราะเห็นเขาว่าอาจจะค้างกันในเมืองสักคืนสองคืน”

“เหรออ...” จู่ๆ ความคิดคนสูงวัยก็สว่างขึ้นมาเสียอย่างนั้น ประโยคถัดไปจึงรัวเร็ว “งั้นไปกับป้ามั้ย”

หญิงสาวทั้งสามคนหันมามองหน้ากันเหมือนจะถามความเห็นของกันและกัน

“ป้าจะเข้าเมืองอยู่แล้วล่ะจ้ะ รถก็มีที่นั่งพอ จะได้ไม่ต้องกวนให้ใครไปส่ง ตอนนี้งานในสวนก็เยอะไม่ใช่เหรอ อีกอย่าง...ถ้าหนูจะค้างในเมือง ไปค้างที่โรงแรมป้าดีกว่าจ้ะ แม่เขาจะได้ไม่ห่วง”

เธอยื่นข้อเสนอที่ทำให้ทั้งสามคนต้องมองหน้ากันอย่างชั่งใจอยู่เป็นครู่ คุณสุดานั้น...นอกจากจะเป็นเจ้าของสวนส้มที่ใหญ่เป็นรองจากสวนมีนาวลัยแล้ว ยังเป็นเจ้าของโรงแรมห้าดาวในตัวเมืองเชียงใหม่ นั่นยังไม่รวมธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่าง เพราะเหตุนี้ทุกคนจึงพากันออกปากเรียกคุณสุดาว่า...แม่เลี้ยง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel