บทที่ 3 นึกแล้วเชียว……หล่อจนอึ้งเลย
ระหว่างทางไปบ้านอดีตภรรยา พิหยางหยางถูกซูเสวี่ยฉิงบังคับลากเข้าไปในร้านซาลอนทำผมแห่งหนึ่ง
“พี่ๆ คะ ทำทรงผมเท่ๆ ให้เขาหน่อย แบบไหนดูดีก็ทำแบบนั้น……”
พิหยางหยางแทบจะเด้งขึ้นมาจากเก้าอี้
“รับทราบค่ะ คุณซู”
พิหยางหยางราวกับนั่งบนสักหลาดเข็ม รู้สึกว่าไม่ได้กำลังทำผม แต่กำลังถูกตัดศีรษะ
“อืม ไม่เลว นี่สิถึงจะเหมือนผู้ชายของซูเสวี่ยฉิงคนอย่างฉัน”
ทำทรงผมเรียบร้อย ซูเสวี่ยฉิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เดินหมุนรอบพิหยางหยางสามรอบ หมุนจนเขาเกือบจะวิงเวียน
“ผู้ชายของคุณ?” ช่างทำผมตะลึงงัน
“ไปละ วันหลังจะเลี้ยงเหล้าพวกพี่ๆ ……”
ซูเสวี่ยฉิงไม่อธิบาย ทิ้งคนทึ่มไว้เต็มห้อง โบกมืออย่างสง่างาม ควงแขนพิหยางหยาง แล้วเข้าไปในร้านเสื้อผ้าชายแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
“จัดให้เขาสามชุด ชุดชั้นใน ถุงเท้า รองเท้าเปลี่ยนให้หมดเลย……”
พิหยางหยางเดินโซเซ มองซูเสวี่ยฉิงอย่างเหลือเชื่อ
“มองอะไร? บนเสื้อผ้าคุณยังมีกลิ่นน้ำหอมของเธอ เปลี่ยนไม่ลง?”
บนหน้าผากพิหยางหยาง ปรากฏสามเส้นดำหดหู่
นี่เหมือนสตรีจากตระกูลใหญ่ตรงไหนกัน นี่มันสาวน้อยอันธพาลชัดๆ?
ประเด็นสำคัญที่สุด นี่เธอจะทำอะไรเนี่ย?
ผู้จัดการมาบริการด้วยตัวเอง พยักหน้าและโค้งคำนับ
“คุณซู ต้องการเกรดไหนครับ?”
“เพ้อเจ้อ ผู้ชายของฉัน นายถามว่าต้องการเกรดไหน?”
“เข้าใจแล้วครับ!”
ผู้จัดการตกตะลึง ยิ้มหน้าเบิกบานใจทันที ตามด้วยใบหน้าชักกระตุกเล็กน้อย
เชี่ยเอ๊ย ไอ้เด็กนี่โคตรโชคดีเลย!
คุณหนูใหญ่บ้านรวยสมัยนี้ ชอบแบบนี้กันเหรอ? พรุ่งนี้ฉันจะแต่งชุดกับรองเท้าธรรมดาทั้งตัว!
ไม่แน่อาจจะถูกสาวไฮโซที่ไหนชื่นชอบ
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
เมื่อพิหยางหยางเปลี่ยนชุดเรียบร้อยปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง ภายในร้านก็เกิดความเงียบสงัด
“ปึ้ง!”
หญิงสาวคนหนึ่งผู้มาซื้อเสื้อผ้ากับแฟนหนุ่ม โทรศัพท์ร่วงหล่นพื้นโดยไม่รู้ตัว
หล่อ!
หล่อจริง!
หล่อจนอึ้งไปเลย!
ในเวลานี้ ในใจทุกคนมีคำเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมา
พิหยางหยางรู้สึกถึงสายตาแปลกประหลาดของทุกคน หันตัวไปมองตนเองในกระจก ก็อึ้งโดยฉับพลัน
นึกแล้วเชียว……หล่อจนอึ้งเลย?
“มองอะไร? มองผู้ชายของพวกคุณไปสิ นี่สามีฉัน!”
ซูเสวี่ยฉิงเหมือนตื่นตระหนกเล็กน้อย รีบก้าวไปควงแขนเขา แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ “ดูท่าแล้วต่อไปห้ามแต่งตัวให้คุณดีเกินไป มันไม่ปลอดภัย”
พิหยางหยางหมดคำจะพูดอีกครั้ง
เขารู้สึกว่าวันนี้ตัวเองจะบ้าแล้ว เล่นละครน้ำเน่าที่ไม่มีสคริปต์กับหญิงเพี้ยนคนหนึ่งโดยไม่มีมูลเหตุ
รูดบัตร ชำระเงิน
ทั้งหมดบริโภคไปห้าแสนเก้าหมื่น
ผู้หญิงคนนี้ ทำไมโง่ขนาดนี้?
ลากผู้ชายมาแต่งงานตามใจชอบ ทั้งยังทุ่มเงินจำนวนมากสร้างรูปลักษณ์ภายนอกให้เขา?
“ไป ตอนนี้ไปบ้านอดีตภรรยาคุณกัน……”
เธอขบฟันเน้นคำว่า “อดีต” ซะแน่นเชียว กลัวพิหยางหยางลืมไป
ณ เขตชุมชนหยางกวง ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน
เหยียนจินเฟิ่งผู้เป็นแม่ของฉินอวี้เจี๋ยกำลังรอคอยอย่างคาดหวัง
“ก็ไม่รู้ว่าอวี้เจี๋ยกับไอ้สวะนั่นหย่ากันแล้วจริงไหม?”
เธอมองนาฬิกาแขวนไม่หยุดหย่อน แล้วเอ่ยอย่างกังวลใจเล็กน้อย
“แม่ แม่ไม่ต้องห่วง คราวนี้พี่สาวฉันเอาจริง หย่าแน่นอน!”
ฉินอวี้อวี่ผู้เป็นน้องชายของฉินอวี้เจี๋ยตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ
“ก็ไม่แน่! ไอ้สวะนั่นเกาะกินเป็นนิสัย ไปจากตระกูลฉินเรา หรืออาศัยแผงลอยโทรมๆ นั่นหลอกลวงคนอื่นเพื่อดำรงชีพได้จริงเหรอ?”
“เฮอะ ลองมันกล้าไม่หย่าสิ! ฉันแจ้งคุณชายฮวาไปแล้ว ถ้ามันบังอาจแยกไม่ออกว่าอะไรควรไม่ควร ดูสิว่าคุณชายฮวาจะไม่หักขามันไหม!”
“ทำได้ดี! ตอนนี้ฉันวางใจละ! รอไอ้สวะนั่นไสหัวไปจากตระกูลฉินของฉัน ฉันจะให้คุณชายฮวามาบ้านเราสู่ขอทันที!”
“ใช่ พี่สาวฉันมีแค่คุณชายตระกูลเศรษฐีอย่างคุณชายฮวาเท่านั้นถึงจะคู่ควร พิหยางหยางนับเป็นตัวอะไร? แค่ไอ้สวะไม่มีอะไรดีตัวหนึ่ง!”
สองแม่ลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ฉินซื่อไห่ผู้เป็นพ่อของฉินอวี้เจี๋ยนั่งโซฟาสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง
เขาขมวดคิ้วแน่น เหมือนกับกำลังกังวลใจอะไรบางอย่าง
“พี่สาวส่งข้อความมา หย่าแล้ว!”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ฉินอวี้อวี่ก็ดังขึ้น เขาเช็คดูข้อความทันที จากนั้นก็เอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“จริงเหรอ?”
เหยียนจินเฟิ่งรีบเข้าไปใกล้
“ดูสิ ถ่ายใบหย่ามาแล้ว ปลอมไม่ได้หรอก……”
“ดีจังเลย ไอ้สวะนี่ไสหัวออกไปจากบ้านเราสักที……”
สองแม่ลูกร้องไชโยด้วยความลิงโลด
“คุณนาย คุณชาย คุณผู้ชายกลับมาแล้ว……”
ในเวลานี้ คนรับใช้ผู้หนึ่งเข้ามารายงาน
“คุณผู้ชายอะไร? เขากับอวี้เจี๋ยหย่ากันแล้ว ต่อไปไม่ใช่ลูกเขยตระกูลฉินอีก!”
เหยียนจินเฟิ่งสีหน้าเยือกเย็น กล่าวอย่างโกรธเคือง
“ไป แม่ เราไปดูกันเถอะ มันมาทำอะไรอีก?”
ฉินอวี้อวี่ตื่นเต้นเล็กน้อย ลากเหยียนจินเฟิ่งเดินออกไปข้างนอก
เมื่อพวกเขาเห็นพิหยางหยางยืนหน้าประตูคฤหาสน์ ก็ตะลึงงันในเวลาเดียวกัน
เหยียนจินเฟิ่งขยี้ตาตัวเอง นึกว่าตนเกิดภาพหลอน
“นี่มัน……ไอ้สวะพิหยางหยางนั่น?”
“ใช่……ใช่มันหรือเปล่า?”
ฉินอวี้อวี่ก็นึกว่าตนเกิดภาพลวงตา
“ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้?”
“แม่ แม่ลืมไปละสิ พี่สาวฉันบอกว่า ตราบใดที่หย่าก็จะให้เงินมันหนึ่งล้าน ไอ้เด็กนี่เอาเงินไปแล้วแน่เลย……”
ฉินอวี้อวี่พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่าใช่
เหยียนจินเฟิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน ปวดใจอยู่พักหนึ่ง
“แกกลับมาทำอะไรอีก?”
ทันใดนั้น เธอตีหน้านิ่ง พูดกับพิหยางหยาง
“ฉันมาเอาของของฉัน”
พิหยางหยางตอบอย่างเฉยชา
ตอนนี้ เขาหมดใจกับคนในครอบครัวนี้โดยสิ้นเชิง
สามปีที่ผ่านมา เขาทนต่อความลำบากและคำบ่นวิจารณ์ เหมาทุกเรื่องในบ้าน แต่ไม่เคยได้รับคำชื่นชมสักคำเลย
แม้แต่เป็นหินก็ควรได้รับความอบอุ่นเช่นกัน
แต่สุดท้ายแล้วเขาพบว่าที่เขากุมอยู่นั้นคือน้ำแข็งพันปีก้อนหนึ่ง หมื่นปีไม่ละลาย หนาวจนทำตัวเองเจ็บด้วยซ้ำไป
ฉินอวี้อวี่หันไปมองที่กล่องไม้เก่าชำรุดกล่องหนึ่งตรงมุมกำแพง แล้วสาวเท้ายาวเดินไป
“โครม!”
เขาเตะมันอย่างรุนแรง หิ้วกล่องไม้มาตรงหน้าพิหยางหยาง จากนั้นก็เดินไปเอาเท้าเหยียบย่ำ
“ของเน่าๆ ของแกอยู่ในนี้ทั้งหมด! แต่ถ้าแกจะเอาไป ต้องเอาหนึ่งล้านมาก่อน!”
“หนึ่งล้าน? หนึ่งล้านอะไร?”
พิหยางหยางขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าจะเอาหนึ่งล้านอะไรอีก
“เสแสร้งทำไม? พี่สาวฉันบอกว่าตราบใดที่พวกนายหย่ากัน เธอจะให้แกล้านหนึ่ง! เธอเป็นคนตกลง แต่เราไม่ได้ตกลง!”
“เธอบอกว่าจะให้ฉันหนึ่งล้าน แต่ฉันไม่ได้เอา!”
“ไม่ได้เอา? แกเดาสิว่าฉันเชื่อไหม?”
ฉินอวี้อวี่มองพิหยางหยางอย่างครุ่นคิด
“แกไม่เชื่อนั่นก็เรื่องของแก ฉันไม่ได้เอาจริงๆ แกไปถามพี่สาวแกก็ได้”
“ถามเธอ? ทำไมฉันต้องไปถามเธอ?”
ฉินอวี้อวี่ยื่นมือไปจิ้มหน้าอกพิหยางหยาง แล้วพูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “ถ้าแกไม่ได้เอาเงินล้านหนึ่งของพี่สาวฉัน เสื้อผ้าบนตัวแกนี่ไปเอามาจากไหน? แกคงไม่บอกฉันว่าแกซื้อลอตเตอรี่ถูกรางวัลหนึ่งล้านหรอกนะ”
“เสื้อผ้านี่เพื่อนฉันซื้อให้ฉัน!”
“ฮ่าๆๆ ……”
ฉินอวี้อวี่จะเชื่อได้อย่างไร?
“แกเห็นฉันเป็นไอ้โง่? แกมีเพื่อนที่ไหน ฉันไม่รู้หรือไง? ถ้าแกมีเพื่อนแบบนี้ ยังจะไปตั้งแผงลอยหลอกลวงคนอื่นอีกเหรอ?”
พิหยางหยางสายตานิ่งค้างจดจ่อ อารมณ์เดือดดาลในใจเพิ่มขึ้น
“พิหยางหยาง แกอย่าโทษว่าเราใจร้าย! เป็นแกเองต่างหากที่ทำตัวน่าผิดหวัง แกดูอวี้เจี๋ยสิ ตอนนี้เป็นท่านประธานฉินซื่อ กรุ๊ปของเรา!”
“อีกเดี๋ยวเธอจะเจรจาโครงการหลายร้อยล้านได้สำเร็จ ช่องว่างระหว่างพวกเธอ มันมากเหลือเกิน”
“หวังว่าแกจะเข้าใจ ถ้าแกอยู่เคียงข้างเธอ มีแต่จะฉุดรั้งเธอ ฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าตระกูลฉินของเรา……”
ในเวลานี้ เหยียนจินเฟิ่งเดินไป แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
“สมดั่งใจคุณ ฉันไปจากตระกูลฉินแล้ว ตอนนี้ฉันแค่อยากมาเอาของของฉันกลับ”
จิตใจเขาเยือกเย็นแล้ว
โครงการหลายร้อยล้าน? ถ้าไม่ใช่เขา โครงการหลายร้อยล้านจะมาจากไหน?
“แกเป็นผู้ชาย อาศัยผู้หญิงเลี้ยงดู ไม่ละอายใจเหรอ? พวกเธอหย่ากันแล้ว ยังเอาล้านหนึ่งของอวี้เจี๋ยไปอีกเนี่ยนะ แกช่างกล้า?”
เหยียนจินเฟิ่งเห็นพิหยางหยางมีท่าทีเมินเฉย ก็กล่าวขึ้นด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้เอาไปจริงๆ!”
“ฉันไม่เชื่อ! แกไม่ได้เอาไป แกจะเอาเงินจากไหนไปซื้อเสื้อผ้าดีขนาดนี้? แถมยังจัดทรงผมดัดจริตแบบนี้? นี่แกกำลังโอ้อวดเรา?”
เหยียนจินเฟิ่งไม่เชื่ออย่างหนักแน่น
“เสื้อผ้าเขาฉันเป็นคนซื้อ ทรงผมฉันก็ให้คนทำ มีปัญหาอะไรไหม?”
ได้ยินเสียงพูด สองแม่ลูกถึงได้พบว่าที่หน้าประตูไม่ไกล ยังมีเฟอร์รารี่คันหนึ่งจอดอยู่
ผู้หญิงที่สวยงามเกินบรรยาย กำลังบิดเอวเซ็กซี่เดินมาข้างกายพิหยางหยาง แล้วควงแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
“เพียงแต่ ฉันไม่ใช่เพื่อนเขา แต่เป็นภรรยาคนปัจจุบันของเขา……”