บทย่อ
เขาเป็นปรมาจารย์สวรรค์ที่เจอตัวยากในร้อยปี น้อมรับคำสั่งอาจารย์แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา กลับถูกภรรยาบังคับให้หย่า วันหย่า ถูกซีอีโอสาวสวยจับแต่งงาน นับแต่นี้ไป กลายเป็นปรมาจารย์สวรรค์พิทักษ์สาวงาม มือซ้ายมีวิชาแพทย์ที่น่าทึ่ง มือขวามีวิชาทางเต๋าที่หาใดเปรียบ ฝ่าทะลวงนคร เด่นสง่าดีเลิศมัดใจสาวๆ เวลาดีก็เป็นหมอช่วยเหลือคนบาดเจ็บ เวลาร้ายก็เป็นยมบาล ที่ควบอำนาจความเป็นตายของผู้คน บู๊เต๋าสูงสุดไร้เทียมทาน ก่อฉกรรจ์ฆาตอันโหดร้าย มีแค้นต้องชำระ มีบุญคุณต้องตอบแทน; หมอหัตถ์เทวะ ปกป้องหญิงงาม ใช่ชีวิตอย่างสง่าผ่าเผย
บทที่ 1 หย่าร้าง & แต่งงาน
ณ ประตูทางเข้าสำนักกิจการพลเรือนเขตเจียงเป่ยแห่งเมืองชิงเจียง พิหยางหยางเดินตามฉินอวี้เจี๋ยออกมาด้วยฝีเท้าอันหนักอึ้งเล็กน้อย
ในมือของพวกเขา ต่างถือใบหย่าหนึ่งใบที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเมื่อสักครู่
สามปีแห่งการสมรส สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ณ เวลานี้
“นายอย่าโทษฉันเลย ระยะห่างระหว่างเรามันไกลออกไปทุกที พยายามฝืนต่อไป ก็ไม่มีความหมายอะไร”
เดินมาถึงริมขอบถนน ฉินอวี้เจี๋ยหันไปมองพิหยางหยาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
“นั่นสิ เธองานยุ่งเรื่อยๆ ถึงขั้นยุ่งจนตอนกลางคืนยังต้องอยู่บริษัท……”
ในดวงตาของพิหยางหยาง ฉายแววสูญเสียและเย้ยหยันตนเองเล็กน้อย
สีหน้าฉินอวี้เจี๋ยเจือความเหยียดหยามบางส่วนขณะเอ่ยขึ้น “ช่องว่างระหว่างเรามันมากขึ้นทุกที ฉันง่วนอยู่กับการพัฒนาบริษัททุกวัน แต่วันๆ นายกลับไม่ทำอะไรเลย เอาแต่ไปตั้งแผงลอยโทรมๆ ใต้สะพาน ต้มตุ๋นคุณตาคุณยาย……”
“ก็เธอไม่ให้ฉันก้าวก่ายงานบริษัท ฉันไม่ตั้งแผงลอย จะไม่ยิ่งว่างงานไม่มีอะไรทำหรือไง?”
พิหยางหยางแบสองมือ แล้วเอ่ยอย่างหมดหนทางนิดหน่อย
เป็นฉันที่อยากว่างงานเหรอ? เป็นเธอต่างหากที่ดูถูกฉันมาตลอด!
“แต่นายรู้ไหมว่าคนอื่นพูดถึงฉันยังไง? พูดว่าฉันแต่งงานกับสามีนักต้มตุน……”
ฉินอวี้เจี๋ยดูสะเทือนใจนิดหน่อย
พิหยางหยางพลันหัวเราะแผ่วเบา ราวกับปล่อยวาง
“พูดแบบนี้ แสดงว่าฉันทำให้เธอขายหน้า แต่ต่อไปนี้ก็จะไม่มีคนว่าเธอแบบนี้แล้ว”
“เรื่องในอดีตฉันไม่อยากพูดละ มันผ่านไปหมดแล้ว หนึ่งล้านในบัตรใบนี้ นายเอาไปทำธุรกิจที่มีเกียรติสักหน่อย เลิกไปตั้งแผงลอยโทรมๆ นั่นของนายได้ละ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป นายจะเป็นได้แค่ไอ้สวะคนหนึ่งตลอดไป……”
ไอ้สวะ?
พิหยางหยางยิ้มเยาะ
ที่แท้ในสายตาของเธอ ตัวเองก็เป็นแค่ไอ้สวะคนหนึ่งเท่านั้น
ในปีนั้นอาจารย์ของเขาทำนายดวงชะตาฝ่าฝืนสวรรค์ให้ตระกูลฉิน เปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้ตระกูลฉิน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการสมรสของเขาและฉินอวี้เจี๋ยให้สำเร็จ
แต่อาจารย์กลับอายุขัยโชคชะตาเสียหายเนื่องจากการทำนายครั้งนี้ จึงเสียชีวิตไปหลังจากนั้นไม่นาน
สามปีนี้ตระกูลฉินทำทุกอย่างราบรื่น เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี
ฉินอวี้เจี๋ยในฐานะภรรยา ได้รับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว ยิ่งงานยุ่งขึ้นเรื่อยๆ
เวลาที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันยิ่งน้อยลงทุกที ยิ่งจืดชืดขึ้นทุกที
สุดท้าย ฉินอวี้เจี๋ยก็เสนอขอหย่า
แต่สามปีมานี้ เขาคอยปกป้องตระกูลฉินให้เจริญก้าวหน้าได้ตามปกติอยู่ตลอดเลยไม่ใช่หรือ หากไม่มีเขา จะมีตระกูลฉินในวันนี้ที่ไหนกัน?
“แล้วก็ รถอาวดี้ที่บ้านคันนั้นนายขับไปเลย ผู้ชายไม่มีรถไม่ได้……”
“ไม่ต้อง!”
พิหยางหยางไม่รับบัตรธนาคารและกุญแจรถ
“ไม่เอา? แล้วต่อไปนายจะเอาอะไรดำรงชีพ? หรือจะอาศัยแผงลอยเล็กโทรมๆ ต้มตุ๋นคนอื่นของนายโดยเฉพาะงั้นเหรอ?”
“เราหย่ากันแล้ว เรื่องของฉัน ไม่ต้องให้ประธานฉินมากังวล”
พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป
เขาหมั่นไส้โทนเสียงฉินอวี้เจี๋ยที่สูงส่งอยู่เหนือ คล้ายกับให้ทานคนยากจน
แต่เพิ่งก้าวเท้าไปหนึ่งก้าว รถหรูจำนวนหนึ่งก็แผดเสียงก้องออกมา
มีคนจำนวนยี่สิบกว่าคนลงมาจากรถ ยืนขนาบสองข้างรถไมบัคคันหนึ่งอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นเปิดประตูรถให้อย่างเคารพนบนอบ
หนุ่มคนหนึ่งสวมสูทและรองเท้าหนัง ท่วงท่าคล่องแคล่วฉับไว ประคองกุหลาบน้ำเงินช่อหนึ่งมาตรงหน้าฉินอวี้เจี๋ย
“อวี้เจี๋ย ยินดีด้วยครับ คุณได้รับอิสระเสียที!”
พิหยางหยางที่เดิมทีตั้งใจจะไปแล้ว ชะงักฝีเท้า แล้วมองไปยังหนุ่มคนนี้
ฮวาหลิ่วปิน หนึ่งในห้าตระกูลเศรษฐีแห่งชิงเจียง คุณชายรองแห่งตระกูลฮวา
พิหยางหยางรู้จักอย่างแน่นอน ทุกครั้งที่เขาไปบริษัทฉินอวี้เจี๋ย มักเห็นดอกไม้ที่ฮวาหลิ่วปินมอบให้ในห้องทำงานเธอเสมอ
มีครั้งหนึ่ง เขาบังเอิญเจอฮวาหลิ่วปินที่ออกมาจากห้องทำงานเธอต่อหน้าอีกด้วย
เมื่อเห็นเขา พิหยางหยางเจ็บปวดหัวใจ ราวกับเข้าใจทุกอย่างแล้ว
หางตาฉินอวี้เจี๋ยเต้นกระตุก “คุณมาได้ยังไง?”
“วันนี้เป็นวันมงคลที่คุณหย่านี่ครับ ฉันจะไม่มาได้ยังไง?”
ฮวาหลิ่วปินกล่าวอย่างมีเหตุมีผล
แล้วยื่นดอกไม้สดในมือให้ทันที
ฉินอวี้เจี๋ยรับมันมาอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็เรียกพิหยางหยาง “บัตรนี่นายเอาไป……”
“ไม่จำเป็น พิหยางหยางอย่างฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งการให้ทานจากคนอื่นถึงจะอยู่รอดได้!”
ในใจพิหยางหยางเยือกเย็นถึงขีดสุด
“นาย……อย่าดื้อรั้นแบบนี้ได้ไหม?”
พิหยางหยางชูใบหย่าในมือขึ้นแกว่ง จากนั้นก็เตรียมจากไปอีกครั้ง
“โอ๊ะ นี่ไม่ใช่พิหยางหยางไอ้แมงดานักต้มตุนชื่อดังของเราเหรอ? ท่านอาจารย์พิ ต้องทำนายดวงชะตาให้ตัวเองสักหน่อยไหม อนาคตจะเป็นอย่างไร?”
เสียงถากถางของฮวาหลิ่วปินลอยมาจากด้านหลัง
พิหยางหยางหันไป มองตำแหน่งหว่างคิ้วของฮวาหลิ่วปินอย่างเยือกเย็น มุมปากวาดโค้งเล็กน้อย เผยอมยิ้มครุ่นคิด
“อนาคตของฉันไม่จำเป็นต้องทำนายหรอก แน่นอนว่าสว่างไสวอยู่แล้ว แต่ฉันทำนายให้นายฟรีได้นะ”
“หว่างคิ้วนายเริ่มเขียวช้ำ ภายในสามวัน จะต้องเกิดหายนะนองเลือด!”
“แก……แกกล้าแช่งฉันเหรอวะ?”
ฮวาหลิ่วปินเกรี้ยวกราดใบหน้าบึ้งตึง
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่นาย”
พิหยางหยางยิ้มเหยียดหยาม คร้านจะพูดไร้สาระ จึงหันตัวเดินจากไป
“คิดจะหนี?”
แต่เขาเพิ่งก้าวออกไปสองก้าว ชายในชุดสูทจำนวนหนึ่งก็มาสกัดกั้นตรงหน้าเขา
“คุณชายฮวาเป็นคนที่แกสาปแช่งตามใจชอบได้งั้นเหรอ?”
คนพวกนี้มีลักษณะดุดันเหิมเกริม ห้อมล้อมเขาไว้ ทำท่าจะใช้ความรุนแรง
คนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวมาก่อน
พิหยางหยางไม่เกรงกลัวสักนิด กวาดตามองหนึ่งทีอย่างไม่แยแส แล้วพูดเสียงเข้ม “พวกแกคิดจะทำอะไร?”
“เราไม่ถูกใจแกมานานแล้ว! แต่ก่อนมีคุณฉินคอยปกป้องแก ตอนนี้แกถูกคุณฉินไล่ออกจากบ้านแล้ว ก็แค่ไอ้สวะเทียบไม่ได้แม้กระทั่งหมา! แกว่าเราคิดจะทำอะไรล่ะ?”
คนผู้หนึ่งกล่าวอย่างเหยียดหยาม พร้อมยกกำปั้นอย่างดุดันหมายจะลงมือ
“หยุด!”
ขณะที่หมัดคนผู้นี้กำลังจะซัดศีรษะพิหยางหยาง ฉินอวี้เจี๋ยก็เอ่ยปาก
“คุณชายฮวา ให้เขาไปเถอะ……”
ฮวาหลิ่วปินแค่นหัวเราะ “ได้ วันนี้ฉันเห็นแก่หน้าคุณ ปล่อยเขาไปสักครั้ง แต่ถ้าคราวหลังมาหาเรื่องฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจละกัน!”
“พิหยางหยาง นายยังไม่รีบขอบคุณคุณชายฮวาอีก?”
“ให้ฉันขอบคุณเขา? ให้ขอบคุณเขาที่ทำเรื่องบนเตียงกับเมียฉันเหรอ?”
“นาย……”
ฉินอวี้เจี๋ยโกรธจนสีหน้าซีดเผือด
“ถูกต้อง ฉันจีบอวี้เจี๋ยมาตลอด! ถ้าไม่ใช่เพราะสามปีก่อนจู่ๆ แกก็โผล่มา อวี้เจี๋ยคงเป็นผู้หญิงของฉันไปนานแล้ว! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อวี้เจี๋ยกับแกไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แกไสหัวไปเท่าที่จะทำได้ซะ อย่าเข้าใกล้อวี้เจี๋ยอีก!”
ฮวาหลิ่วปินกล่าวอย่างภูมิอกภูมิใจ
พิหยางหยางจ้องมองฉินอวี้เจี๋ย นึกว่าเธอจะแก้ตัวสักสองสามประโยค แต่เขากลับผิดหวัง
หัวใจเขาเย็นลงถึงจุดเยือกแข็งทีละนิด ความอาลัยอาวรณ์เพียงน้อยนิดภายในใจ ก็ค่อยๆ สลายหายไป
แม้กระทั่งอธิบายเธอก็ไม่ยอมอธิบายด้วยซ้ำไป ฉันยังจะอาลัยรักอะไรอีก?
“ขอให้มีความสุข!”
ห้าคำแทบจะเค้นออกมาจากไรฟัน
“คุณอดีตสามี ไปดีๆล่ะ……”
ฮวาหลิ่วปินโบกไม้โบกมืออย่างสง่างาม
ขณะนี้ เฟอร์รารี่แดงเพลิงคันหนึ่งขับมา
สตรีงามเลิศคนหนึ่งลงมาจากรถ
รูปร่างอรชร ใบหน้างดงามน่าทึ่ง ผมยาวสีเบอร์กันดี้งามสง่า
เพียงแต่ระหว่างคิ้ว เจือความกระสับกระส่ายบางส่วนอย่างเห็นได้ชัด
“คุณเพิ่งหย่า?”
ผู้หญิงเดินมาตรงหน้าพิหยางหยาง จ้องมองใบหย่าในมือเขา แล้วเอ่ยถาม
พิหยางหยางเงยหน้ามองไปยังผู้หญิง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ไม่รอให้เขาพูด ผู้หญิงปรายตามองฉินอวี้เจี๋ยและฮวาหลิ่วปินหนึ่งที พลันยื่นมือมาควงแขนเขา “คุณมากับฉัน!”
ไม่ปล่อยให้พูดอะไร ผู้หญิงก็ลากเขาเดินเข้าไปในสำนักกิจการพลเรือน
พิหยางหยางไม่ทันตั้งตัว ถูกเธอลากเข้าไปอย่างมึนงงโดยไม่คาดคิด
“เราแต่งงานกัน!”
เมื่อมาถึงช่องดำเนินการจดทะเบียนสมรส ฝ่ายหญิงยื่นบัตรประชาชน หนังสือแนะนำตัวสองฉบับ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น
พิหยางหยางตกตะลึง
นี่มันอะไรวะเนี่ย? ฉุดคนจากข้างถนนมาแต่งงานตามใจชอบ?
แม้กระทั่งหนังสือแนะนำตัวก็เตรียมพร้อม?
“คุณครับ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า?”
เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ผิดหรอก เร็วเข้า บัตรประชาชน……แล้วก็ เซ็นชื่อคุณตรงนี้……”
ผู้หญิงเอ่ยเร่ง
เจ้าหน้าที่ดำเนินการในนั้นก็ตะลึงเช่นกัน ไม่ตอบสนองสักครู่หนึ่ง
“พวกคุณ……จะแต่งงานกันจริงๆ?”
“ฉัน……”
พิหยางหยางลังเล
“คิดอะไรอยู่อีก? คุณยังเป็นผู้ชายหรือเปล่า? เธอมีชู้กับผู้ชายคนอื่น หรือว่าคุณยินยอม?” ผู้หญิงเร่งต่อ
“ยอม? เฮอะ……” พิหยางหยางนึกถึงทุกการกระทำของฉินอวี้เจี๋ย ก็ขบฟันอย่างช่วยไม่ได้
“ฉินอวี้เจี๋ย เธอเห็นฉันเหมือนขยะ ฉันก็จะทิ้งเธอเหมือนรองเท้าผุพัง!”
จากนั้นพิหยางหยางก็ทำการตัดสินใจ ยื่นบัตรประชาชนไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าสับสนมึนงง
“สมรสทะเบียนนี้ ฉันจด!!!”