บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 หอเหม่ยฮวา

หวงซื่อซิงกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับการปลอมตัวในครั้งนี้ “ทำไมข้าต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยเล่า” เขาอยู่ในชุดฟู่ฟ่อง ยาวลากดิน สีชมพูตัดกับสีเหลือง ใส่ผ้าปิดหน้า เปิดเผยเพียงตากลมโตสองดวง

หวงซานหานกล่าวเสียงเรียบ “คุยกันแล้วนี่” สายตาที่จ้องมองหวงซื่อซิงดูเหมือนจะยังไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “ใบหน้าเจ้าสะดุดตาเกินไป ไหนจะตาแวววาวสองดวงนี่อีก”

หวงซานหานกำลังคิดว่าหากเขาหาอะไรมาปิดตา หวงซื่อซิงได้ก็คงจะดี แต่มันจะทำให้น้องชายเขามองไม่เห็น หรือว่าจะให้แกล้งเป็นคนตาบอด อืม..เหมือนจะยุ่งยากเกินไป ความคิดนี้ จึงปล่อยผ่าน

หวงซื่อซิงยังไงก็ไม่เห็นด้วย ทำไมเขาจะต้องแต่งเป็นผู้หญิง ในขณะที่หวงซานหานเพียงแค่หาหนวดเครามาแปะๆ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

หวงซื่อซิงยังตะโกนส่งเสียงแว้ดๆๆ “อย่างอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องแต่งเป็นผู้หญิง” เขาแค่ใส่หนวดเคราเหมือนหวงซานหานก็ได้แล้วนี่ ไม่เห็นต้องลงทุนลงแรงขนาดนี้เลย

หวงซานหานเอ่ย “ตอนเด็กท่านแม่จับเจ้า แต่งเป็นเด็กผู้หญิงก็ออกบ่อย”

หวงซื่อซิงยังไม่ย่อท้อ “แต่ข้าเป็นผู้ชายนะ”

หวงซานหานมองเขา ตั้งแต่หัวจรดเท้า และมองจากเท้าขึ้นมาที่หัวอีกครั้ง เขาเอามือกอดอกทำท่าครุ่นคิด รูปร่างเพรียวบาง สูงกว่าผู้หญิงปกตินิดหน่อย ไหล่เล็ก เอวสอบ แขนขาเรียวยาว ใบหน้ารูปไข่ เส้นผมตรงดำขลับ ดวงตากลมโตทอแสงระยิบระยับ ต่อให้จับใส่หนวดปลอมจนเห็นแต่ตาก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเป็นผู้ชายอยู่ดี

หวงซานหานยังยืนยัน “หากเจ้าไม่เชื่อฟัง ทุกอย่างเป็นอันยกเลิก” เขากล่าวเสร็จก็หันหลังทำท่าจะเดินออกไป หวงซื่อซิง รีบคว้ามือพี่ชายไว้ กล่าวเสียงอ่อย “ก็ได้” จากนั้นก็เดินสะบัด ลากกระโปรงยาวนำหน้าหวงซานหานไป ภายในใจคิดว่าฝากไว้ก่อนเถอะ ต้องมีสักวันที่เขาเอาคืน วันนี้ขอเข้าไปให้ได้ก่อน

หอเหม่ยฮวา เป็นหอคณิกาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้ มีหญิงสาวหลายร้อยชีวิตคอยให้ความบันเทิงกับลูกค้า จะร้องรำทำเพลง กินดื่ม ดูการแสดง ที่นี่มีครบทุกอย่าง ด้านหน้ามีสาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม คอยเชื้อเชิญหนุ่มๆ มาด้านใน ตอนกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดในย่านนี้ ในแต่ละคืนมีผู้คนเข้าออกหลายร้อยคน จนทำให้เหมือนตลาดขนาดย่อม

หวงซื่อซิวตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ หากแผนวันนี้สำเร็จเขาอาจจะได้เสียความบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก ความบริสุทธิ์ที่เก็บมาจากชาติที่แล้ว มันช่างยาวนานจนเกินไป แต่คนที่มาด้วยนี่สิดูท่าจะจัดการยากสักหน่อย หวงซื่อซิงยิ้มย่องในใจ ตนไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายทั้งแท่ง เข้ามาในนี้แล้วจะไม่หวั่นไหวไปกับสาวๆบ้าง แต่ละคนออกจะมีเสน่ห์เหลือล้นขนาดนี้ หน้าอกหน้าใจแทบจะดันจนทะลักออกมาข้างนอกชุดที่ใส่

พอเห็นแขกเดินเข้ามา สาวๆ กลุ่มนี้ก็รีบมายื้อแย่งถือแขนหวงซานหาน และฉุดเขาเข้าไปข้างใน หวงซื่อซิง จึงก้าวเดินตามเข้าไปด้วย แต่มีเสียงทักดังตามมา “ที่นี่อาจไม่เหมาะกับผู้หญิงกระมังเจ้าคะคุณชาย ให้คนของท่านรอข้างนอกเถอะเจ้าค่ะ เราจะดูแลท่านข้างในเอง”

หวงซานหานกล่าวเสียงเรียบ “คนของข้า ก็ต้องอยู่กับข้า หาไม่แล้วข้าก็คงเข้าไปไม่ได้เช่นกัน”

หญิงสาวที่ดูมีอายุมากหน่อยในกลุ่ม เห็นท่าไม่ค่อยดี จึงรีบกล่าวขึ้นว่า “ช่างเถอะ ๆ จะหญิงหรือชาย เราก็ดูแลได้ทั้งนั้น” ก่อนจะปิดปากหัวเราะอย่างเอียงอาย ชะม้อยชายตาให้หวงซานหาน หนุ่มรูปหล่อ สง่างาม ดูร่ำรวย ขนาดนี้หลงเข้ามาจะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร วันนี้เราอาจจะดวงดีมีบ่อทองมาให้ขุด ก่อนจะลากหวงซานหานเข้าไปห้องโถงใหญ่ หวงซื่อซิงเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ

ภายในหอเหม่ยฮวาแห่งนี้ กว้างขวาง ภายในห้องโถงมีน้ำพุขนาดย่อมอยู่ทั้งสองข้าง ตรงกลางเป็นเวทีสำหรับการแสดงร่ายรำและดนตรี มองดูด้านบนสูงสี่ชั้น แบ่งเป็นห้องรับรองแขกย่อยๆ หลายห้อง บริเวณชั้นสองมีโต๊ะเรียงรายสำหรับรับรองแขกที่ต้องการดูการแสดงซึ่งมีฉากกั้นเป็นส่วนตัว และมองเห็นเวทีการแสดงชัดเจน กลิ่นของน้ำอบน้ำหอม ฟุ่งตลบ อบอวนไปทั้งหอ ผู้คนมากหน้าหลายตาส่งเสียงจอแจ สลับกับเสียงหัวเราะคิกคัก ของสาวๆ ที่กำลังเอาอกเอาใจแขก หวงซานหานและหวงซื่อซิงเลือกโต๊ะบริเวณชั้นสอง ที่คนพลุกพล่านน้อยที่สุด

หลังจากสั่งอาหารเสร็จ การแสดงก็เริ่มต้นขึ้นที่บริเวณเวทีด้านล่าง เป็นการร่ายรำจากนางรำทั้งหกคน หวงซื่อซิงตื่นเต้น เปิดหูเปิดตามาก ช่างน่าอัศจรรย์กว่าที่เคยดูในโทรทัศน์สมัยชาติที่แล้ว หากไม่มาสัมผัสบรรยากาศเองคงไม่มีทางรับรู้ถึงสีสันและความน่าตื่นตาตื่นใจ ของมันได้เลย

หวงซานหานกลับทำหน้านิ่ง ราวกับนั่งอยู่ที่ห้องหนังสือของตระกูลหวง

หวงซื่อซิงอดแขวะไม่ได้ “พี่สาม ท่านสนใจสาวคนไหนหรือไม่ เรียกมาสักคนก็ได้นะ ข้าไม่ฟ้องท่านพ่อหรอก”

หวงซานหาน วางถ้วยชาที่พึงยกจิบลง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “รีบกินจะได้รีบกลับ”

หวงซื่อซิงนิ่วหน้า หันไปมองบนเวทีต่อ “จะรีบกลับทำไมการแสดงยังไม่หมดเลย” อีกอย่างข้ายังไม่ได้กอด สาวเลยสักคน จะให้กลับได้ยังไง อุตส่าห์ลงแรงแต่งตัวขนาดนี้ ในใจกำลังคิดแผนการร้ายอยู่ อย่างแรกจะต้องเปลี่ยนชุดก่อนแล้วค่อยสนุกกับสาวสวยต่อ

จริงๆ หวงซื่อซิงคิดไว้แล้วว่ารูปการณ์จะออกมาแนวนี้ จึงได้ใส่เสื้อผ้าไว้ข้างในอีกชุด แค่ถอดกระโปรงยาวนี่ออก ใส่เสื้อคลุมสักตัว เขาก็คลอกคราบได้แล้ว

หวงซานหานทวงสัญญา “ไหนเจ้าบอกว่าแค่เข้ามาดู แล้วจะกลับเลย”

หวงซื่อซิงทำหน้ามึน “ข้าไม่รู้ว่าข้างในมันน่าสนุกขนาดนี้นี่”

หวงซื่อซิงตักอาหารไปวางบนชามข้าวของพี่ชายอย่างเอาอกเอาใจ ก่อนกล่าวว่า “ท่านกินสิ ไม่ต้องรีบหรอก”

หวงซานหาน คีบอาหารเข้าปาก หวงซื่อซิงรีบตักอย่างอื่นเพิ่มให้เขาอีก ใบหน้าส่งยิ้มหวานอย่างพออกพอใจ แต่ตัวเองกลับไม่กินสักคำ

หวงซานหานเอ่ย “กินเสร็จแล้วกลับเลยนะ”

หวงซื่อซิงตอบรับทันที “แน่นอน ข้าสัญญากับท่านแล้วนี่ ว่าเราแค่เข้ามาดูแล้วก็จะกลับเลย” จากนั้นก็ตักกับข้าวอีกสองสามอย่างใส่ชามเพิ่มให้หวงซานหาน

หวงซานหานกินไปได้สี่ห้าคำ ก็วางตะเกียบเอามือมากุมท้องตัวเอง หวงซื่อซิงทำเนียนเป็นสนอกสนใจการแสดงบนเวที แต่หางตากลับคอยสังเกต

ชั่วประเดี๋ยวสีหน้าของหวงซานหานก็เปลี่ยนจากแดง สลับกับขาว หวงซื่อซิงจึงค่อยๆแกล้งหันกลับมา พอเห็นสีหน้าของผู้เป็นพี่จึงรีบกว่าแสดงความเป็นห่วง

หวงซื่อซิ่ง “พี่สามท่านเป็นอะไร”

หวงซานหานลุกขึ้น “เจ้านั่งไปก่อนพี่จะไปทำธุระ”

หวงซื่อซิงพยักหน้า ก่อนจะรีบกล่าวอย่างเสเสร้ง “ท่านรีบไปรีบมานะ ข้ากลัว”

ยาออกฤทธิ์เร็วมาก ไม่คิดว่าจะรวดเร็วปานนี้ พี่หาน เท่านี้ท่านก็ตามตอแยข้าไม่ได้แล้ว อย่างแรกเลยเราต้องหาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel