ข้าเป็นบุรุษ(จริงๆ)นะ

176.0K · จบแล้ว
วิหคสีรุ้ง
71
บท
14.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ที่เสียใจหนักที่สุดในชีวิต คือ โตจนอายุปูนนี้แล้วไม่มีแฟนสักคน ใกล้จะตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วแต่ยังไม่เคยมี ‘หลัว’ กับเค้าเลย(ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับหน้าตาตัวเองสักนิด) พระเจ้าท่านช่างใจร้ายนัก เกิดมาทั้งทียังให้รักษาความบริสุทธิ์ไว้อีก จะเกิดมาให้เสียชาติเกิดทำไมเนี่ย! ขอฟินสักหน่อยก็ยังไม่ได้! ถ้า..ถ้าชาติหน้ามีจริงนะ ขอละ... ขอให้เกิดมารวยที ขอให้รวยๆ เอาแบบว่าจะกินจะใช้ทั้งชาติหรืออีกสิบชาติก็ไม่หมด ขอหน้าตาดี ไม่ต้องทำศัลยกรรมก็หน้าตาดี เอาแบบพระเจ้าประทานไม่ใช่ธรรมชาติลงโทษแบบทุกวันนี้ ขอให้มีพ่อแม่ที่รัก มีพี่น้องที่อบอุ่นไม่ใช่ตัวคนเดียวตั้งแต่เกิดจนตอนนี้นอนร่อแร่อยู่บนเตียงก็ไม่มีใครมาเฝ้าสักคน ถ้ามันจะขอได้ขนาดนั้นแล้วละนะ ขอไปเกิดแนวแฟนตาซีหน่อย แนวเทพเซียนอะไรเทือกนั้น อยากเหอะเหินเดินบนน้ำได้ ไหนๆ ก็ขอได้แล้วนี่ เรื่องเหลือเชื่อขนาดไหนก็คงไม่เกินไปหรอก ฮ่าๆ และสุดท้าย ขอละ ขอเกิดเป็นผู้ชายสักชาติเถอะจะได้หาสาวสาว สะสมไว้เป็นฮาเร็ม ชดเชยชาตินี้ที่อดอยากปากแห้งเหลือเกิน แต่พอได้มาเกิดใหม่ทั้งที หล่อเหรอก็ใช่แหละ รวยหรือ ก็ใช่ ใช้อีกสิบชาติก็ไม่หมด แต่เรื่องที่อดอยากจากชาติที่แล้ว น่ะ...ทำไมมันตาลปัตรไม่เหมือนกับที่ขอไว้นี่ ชาติที่แล้วเป็นผู้หญิงยังไม่มีหลัวเลย ชะ..ชาตินี้อุตส่าห์เป็นผู้ชายทั้งที ทำไม ถึงมีหลัวได้เล่า พระเจ้าท่านเล่นตลกใช่ไหม

นิยายเทพเซียนนิยายจีนโบราณนิยายYaoi

บทที่ 1 จุดสิ้นสุด คือ จุดเริ่มต้น

ตี๊ด.. ตี๊ด.. ตี๊ด.. เสียงเครื่องจับสัญญาณชีพดังตามการเต้นของหัวใจ ในห้องผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าผู้ที่อยู่ที่นี่ความเป็นความตายเท่ากัน หรืออาจจะเอียงๆไปทางหลังเสียมากกว่า

วาริณ ถอนหายใจเฮือก พยายามอยากสุดใจที่จะหายใจให้ได้ในแต่ละครั้ง ทุกครั้งที่หายใจราวกับหอบเอาเม็ดทรายเข้าไปในปอด ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างกำลังกัดเข้าไปทุกอณูของเซลล์ นี่ขนาดว่าขอยาแก้ปวดชนิดแรงสุดจากคุณหมอฉีดเข้าไปเป็นเข็มที่สองแล้วนะ อาการเจ็บปวดยังไม่รู้สึกบรรเทาลงเลย

บางทีนะ บางที หลายๆ ครั้ง วาริณก็แอบคิดว่าขอตายไปเลยซะยังจะดีกว่า อยู่แล้วทรมานขนาดนี้ แต่ทำอย่างไรได้พระเจ้ายังไม่ให้ตายก็ต้องกัดฟันทนสู้กันไปจนกว่าวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง สักพักยาน่าจะพอออกฤทธิ์บ้างแล้ว จนทำให้อาการกระเสือกกระสนเอาอากาศเข้าปอดเมื่อครู่นี้ ค่อยเป็นการหายใจที่รู้สึกว่าเป็นอากาศขึ้นมาหน่อยไม่ใช่เป็นเม็ดทรายเหมือนก่อนหน้านี้

วาริณจึงค่อยมีสติ นอนคิดทบทวนชีวิตอันแสนรันทดของตัวเองที่ใช้ชีวิตผ่านมา 35 ปี คนเราเนอะจะได้มานั่งทบทวนชีวิตตัวเองก็ตอนที่นอนใกล้ตายอยู่บนเตียงนี่แหละ และมักจะปลอบตัวเองว่าหากมีชีวิตรอดไปได้จะใช้ชีวิตใหม่ ตระหนักกับการมีชีวิตมากขึ้น แต่จะมีสักกี่คนเชียวที่จะได้มีโอกาสที่สอง สำหรับชีวิต พระเจ้าไม่ได้มีเมตตาขนาดนั้นหรอก

วาริณถอนหายใจอีกรอบ ส่วนถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่อย่าได้นับเลย เธอเป็นโรคอะไรนะเหรอ ก็โรคสุดฮิตของคนยุคปัจจุบัน “มะเร็งปอด” สงสัยจะกลัวไม่ทันสมัยเลยต้องเป็นกับเค้าเสียหน่อย บางคนอาจจะสงสัยว่าเธอสูบบุหรี่หรือเปล่า อยากจะบอกว่า วาริณเป็นพวก เหล้าไม่แตะ บุหรี่ไม่สูบ ไม่ติดเพื่อน ไม่ติดเที่ยว ขยันขันแข็ง มีความมานะ ขยัน อดทนและทะเยอทะยาน แต่! คนแบบเธอที่แหละที่เป็น “มะเร็ง” ฮ่าๆ อยากจะหัวเราะให้เป็นภาษาอารบิก (ว่าแต่มันหัวเราะยังนะ) คนดีเค้าคงไม่อยากให้อยู่นาน คนดีผีไม่คุ้ม วาริณนึกถึงอดีตที่ใช้ชีวิตผ่านมาสามสิบกว่าปี เธอไม่เคยเกเรเลย เป็นเด็กดีของพ่อแม่ เนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีฐานะอะไร จึงต้องปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เด็กๆ หาเงินเรียนเอง จนจบทำงานเลี้ยงครอบครัวซึ่งมีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้น จนเมื่อสองสามปีที่ผ่านมาท่านก็จากไปอย่างสงบ ด้วยโรคอะไรนะหรือ ไม่น่าถาม พ่อ ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ และแม่ ‘เป็นมะเร็งปากมดลูก’

วาริณหัวเราะ ถากถางให้กับตัวเองในใจ ของพวกนี้มันติดต่อกันทางพันธุกรรมสินะ ช่างมีวาสนาเหลือเกินที่ได้มรดกตกทอดจากพ่อแม่ คนอื่นอาจได้ทรัพย์สินเงินทอง แต่วาริณได้โรคมาแทน ความเศร้าเสียใจที่สูญเสียบุพการีเพิ่งผ่านมาไม่นาน วาริณจึงเริ่มคิดอ่านเพื่อตัวเองบ้างเนื่องจากที่ผ่านมาทำเพื่อครอบครัวมาตลอด แทบไม่เคยเที่ยว ไม่เคยลาพักร้อน เก็บเงินทองไว้ใช้ยามแก่เฒ่า ทุ่มเทแรงกายและใจให้กับงานจนก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่บริษัทหนึ่ง สองปีหลังจากพวกท่านเสียไป บวกกับหน้าที่การงานที่เริ่มอยู่ตัว วาริณจึงเริ่มเจียดเวลาไปท่องเที่ยวต่างประเทศและใช้จ่ายเงินเพื่อตัวเองบ้าง แต่ๆๆ ชีวิตเพิ่งเริ่มมีความสุขได้เพียงแค่ปีสองปีเท่านั้น ก็ดันตรวจพบเจ้ามะเร็งบ้านี่

วาริณเอ๋ยวาริณ ช่างน่าสงสารนัก!

ที่เสียใจหนักที่สุดในชีวิต คือ โตจนอายุปูนนี้แล้วไม่มีแฟนสักคน ใกล้จะตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วแต่ยังไม่เคยมี ‘หลัว’ กับเค้าเลย (ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับหน้าตาตัวเองสักนิด) พระเจ้าท่านช่างใจร้ายนัก เกิดมาทั้งทียังให้รักษาความบริสุทธิ์ไว้อีก จะเกิดมาให้เสียชาติเกิดทำไมเนี่ย! ขอฟินสักหน่อยก็ยังไม่ได้!

วาริณได้แต่ตะโกนสาปแช่งตัวเองอยู่ในใจ ไม่อาจจส่งเสียงออกมาได้ เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจครอบอยู่ และถึงแม้จะไม่มีเจ้านี่ ก็ไม่มีแรงจะตะโกนอยู่ดี

ว่าแต่ในเนื้อเพลงเป็นโสดทำไม ท่อนที่ ว่า ‘เป็นโสดทำไมตายไปเจอะยมบาลท่านรู้ว่าไม่แต่งงานเดี๋ยวจะพาลไม่ให้มาเกิด’ มันจริงไหมนะ แล้วถ้าไม่ได้เกิดอีกจะทำอย่างไรดีละเนี่ย ไม่เคยได้ฟินกับเค้าสักที ไอ้ความรู้สึกที่ว่านี้มันเป็นยังไงนะ จะให้ตายทั้งที่ยังค้างคาใจแบบนี้นะเหรอ ไอ้จะให้ลุกจากเตียงตอนนี้แล้วไปทำเรื่องอย่างว่า ก็สายเกินไปแล้ว วาริณถอนหายใจอีกครั้ง หลังจากจิตแตกซ่านกระเจิดกระเจิงและก่นแช่งชะตากรรมตัวเองแล้ว วาริณก็เริ่มสงบลง น้ำใสๆคลออยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง ปริ่มๆ จะหยดออกมา

ถ้า..ถ้าชาติหน้ามีจริงนะ ขอละ ขอให้เกิดมารวยที ขอให้รวย เอาแบบว่าจะกินจะใช้ทั้งชาติหรืออีกสิบชาติก็ไม่หมด ขอหน้าตาดี ไม่ต้องทำศัลยกรรมก็หน้าตาดี ดีแบบพระเจ้าประทานไม่ใช่แบบธรรมชาติลงโทษเหมือนทุกวันนี้ ขอให้มีพ่อแม่ที่รัก มีพี่น้องที่อบอุ่นไม่ใช่ตัวคนเดียวตั้งแต่เกิดจนตอนนี้นอนร่อแร่อยู่บนเตียงก็ไม่มีใครมาเฝ้าสักคน ถ้ามันจะขอได้ขนาดนั้นแล้วล่ะนะ ขอไปเกิดแนวแฟนตาซีหน่อย เป็นเทพเซียนอะไรเทือกนั้น อยากเหอะเหินเดินบนน้ำได้ ไหนๆ ก็ขอได้แล้วนี่ เรื่องเหลือเชื่อขนาดไหนก็คงไม่เกินไปหรอก ฮ่าๆ และสุดท้าย ขอละ ขอเกิดเป็นผู้ชายสักชาติเถอะจะได้หาสาว สาวสะสมไว้เป็นฮาเร็ม ชดเชยชาตินี้ที่อดอยากปากแห้งเหลือเกิน

เหนื่อย ขนาดแค่คิดฟุ้งซ่านในใจยังเหนื่อยได้ขนาดนี้ ร่างกายนี้คงจะทนทานได้ไม่นานเท่าไหร่แล้ว ช่างเถอะ จะอยู่ได้กี่วันก็ช่าง ด่าให้กับชีวิตที่บัดซบของตัวเองก็ด่าแล้ว ไอ้ที่ร้องขอพระเจ้า(ที่ไม่มีอยู่จริง) ก็ขอแล้ว อืม ..ทำไมถึงได้รู้สึกง่วงขนาดนี้นะ ยากล่อมประสาทคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

วาริณแอบหวังในใจลึกๆ หลับรอบนี้คงไม่ต้องตื่นอีก ไม่อยากตื่นอีกเลย ความเจ็บปวดมันเกินทน ง่วง ง่วงจังเลย ภาพที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ พร่าเลือน หายไป ก่อนทุกอย่างเงียบสนิท