บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ถือกำเนิดใหม่

ทำไมมองเห็นไม่ค่อยชัดเลยล่ะ ราวกับว่าดวงตานี้เพิ่งเคยเปิดลืมตาดูโลกครั้งแรกอย่างนั้นแหละ แล้วทำไมถึงได้รู้สึกหนาวขนาดนี้นะ

“เอาน้ำอุ่นมาให้ข้าเร็วเข้า” เสียงหญิงชราคนหนึ่งดังขึ้นข้าง ๆ หู และมีเสียงโครม ตึงตังดังตามมาอีกหลายที จากนั้นก็รู้สึกเหมือนโดนเอาไปแช่ในน้ำอุ่น แต่ก็ยังหนาวจับใจอยู่ดี ในใจนึกอยากร้องตะโกนออกมาว่า “ฉันหนาวจะตายอยู่แล้วใครก็ได้ช่วยเอาผ้ามาห่มที” แต่เสียงที่หลุดออกมากจากปากกลับคล้ายกับเสียงทารกร้องไห้ลั่นบ้านนั่นเสียงเด็กที่ไหนร้อง ว่าแต่ที่นี่ไม่คล้ายโรงพยาบาลเลยแฮะ ที่นี่คือที่ไหนนะ

“โอ๋ๆๆ ร้องดังมากเลยคนเก่ง แบบนี้ต้องแข็งแร็งมากแน่เลย ฮูหยินเจ้าค่ะ ยินดีด้วยค่ะ ท่านได้ลูกชาย” เสียงดังยังอยู่บนหัว รู้สึกเหมือนมีใครเอาผ้าหนาๆ มาห่อหุ้มตัวไว้ ในที่สุดก็มีคนได้ยินสักที

“ลูกชายงั้นเหรอ ข้านึกว่าจะได้ลูกสาวเสียอีก” นำเสียงอ่อนระโหยเจือหอบกล่าวขึ้น

“ข้าขอดูหน้าเขาหน่อย” หญิงชราอุ้มเด็กน้อยเข้ามาให้ผู้เป็นแม่

“น่าตาน่าชังเสียจริง เหมือนเด็กผู้หญิงเลย” ผู้เป็นแม่ของเด็กค่อยๆ ก้มลงมาหอมข้างแก้มที่ยังมีคราบไขที่ห่อหุ้มเด็กแรกเกิดอยู่ ค่อยๆ หอม อย่างทนุถนอม

“ดวงตาเหมือนท่านเลยเจ้าค่ะ ฮูหยิน กลมโต มองแล้วเหมือนเห็นดวงดาวทอประกายอยู่ข้างใน” หญิงชราที่เป็นหมอตำแยทำคลอดให้ฮูหยินบ้านนี้มาแล้วถึงสี่คนรวมเด็กคนนี้ด้วยปลอดภัยทุกคน นับว่าเป็นหมอตำแยที่มีชื่อในเมืองนี้ และเป็นแม่นมให้คุณชายตระกูลนี้มาถึงสองรุ่นแล้ว

“โตมาต้องหน้าตาหล่อเหลา เหมือนคุณชายทั้งสามแน่นอน” เสียงที่กล่าวออกมานั้นจริงใจและชื่นชมเป็นที่สุด เนื่องด้วยคนตระกูลนี้มิมีผู้ใดน่าชังเลยสักคน คุณชายทั้งสามล้วนเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งเมือง แลคุณชายน้อยนี้ก็คงไม่ต่างกัน หรืออาจจะรูปงามกว่าพี่ๆ ด้วยซ้ำ

“เสียดายถ้าเป็นผู้หญิงก็จะดี” ฮูหยินหวังอยากได้ลูกสาวมาก เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นลูกชายทั้งหมด ความคาดหวังกับการตั้งครรถ์ครั้งจึงมากเป็นพิเศษ หญิงชราหันมามองด้วยสายตาอ่อนโยน เดินเอามือมาแตะไหล่ฮูหยินเบาๆ ก่อนกล่าวปลอบใจว่า

“จะหญิงก็ดี ชายก็ช่าง ขอให้คุณชายน้อย แข็งแรงก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือเจ้าค่ะ”สายตาของผู้เป็นแม่ยังคงจับต้องไปที่ใบหน้าของเด็กทารกแรกเกิด อย่างอ่อนโยน

“นั่นสิ อย่างไรข้าก็รักเขา” สายตาของผู้เป็นแม่ยังจ้องตากลมโต ใจนึกเอ็นดูเป็นอย่างมาก เด็กน้อยน่าตาน่ารัก ใบหน้าได้รูป คิ้วไม่เข้มไม่อ่อน ขนตางอนยาว ผิวขาวเหมือนไข่ปอกไร้ซึ่งตำหนิ ช่างไม่มีสิ่งใดขาดหรือมีสิ่งใดเกินมาในคำว่า ‘พอดี’ เลย

“ท่านตั้งชื่อไว้ให้คุณชายน้อยแล้วหรือยังเจ้าคะ” หญิงชราถาม ก่อนจะยกอ่างสำริดที่ใช้สำหรับล้างตัวเด็กส่งให้หญิงรับใช้มารับช่วงต่อไปอีกที

“ท่านพี่ให้เรียก ซื่อ(ลำดับที่สี่) ต่อจากพี่ชายเค้าแต่ชื่อพ่วงท้าย ท่านให้ข้าตั้งเอง”

“แล้วฮูหยินได้คิดเอาไว้หรือยังเจ้าค่ะ” หญิงชราเดินมานั่งข้างๆ เตียง วันนี้นายท่านและคุณชายทั้งสองไปธุระด่วนนอกเมือง เหลือคุณชายสามที่ยังหลับอยู่เพราะเพิ่งสองขวบกว่าๆ ฮูหยินเว้นว่างจากการตั้งครรถ์เกือบสิบปี จนคิดกันว่าจะมีแค่คุณชายใหญ่กับคุณชายรองเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าพอจะมีกลับมาติดกันเลยทีเดียว จากนี้ไปเรือนนี้คงคึกคักกันใหญ่จะมีเด็ก ๆ มาวิ่งให้จับกันวุ่นวาย เนื่องจากคุณชายใหญ่กับคุณชายรองโตเป็นหนุ่มหมดแล้วบ้านจึงค่อนข้างเงียบเหงา มาสักพัก คุณชายสามที่ห่างจากพวกพี่ๆ ก็เหงาไม่มีเพื่อนเล่น จึงมักจะมาอ้อนฮูหยินขอมีน้องมาตลอด

“ดวงตาเขาข้ามองแล้วเหมือนกับมีประกายของดวงดาวอย่างที่ท่านว่าจริง งั้นเรียกเขาว่า ซื่อซิง เป็นอย่างไร”

“ซิงที่แปลว่าดวงดาว หมายถึงดวงดาวลำดับที่สี่ เมื่อนำมารวมกับแซ่หวง(สีเหลือง)ก็เป็น หวงซื่อซิง ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะมาก เจ้าค่ะฮูหยิน”

ฮูหยินยิ้มปลาบปลื้ม ประคองเด็กน้อยในมือชูขึ้นตรงหน้า เพื่อให้ทั้งสองได้มากันตรงๆ เต็มตา พร้อมถามเสียงเบา

“เจ้าล่ะชอบไหม อาซิง”

เด็กทารกที่สงบนิ่งมาตลอดจ้องมองใบหน้าผู้เป็นแม่ที่อุ้มอยู่ราวกับจะเข้าใจทุกคำพูดที่กล่าวออกมา สักพัก จึงทำตาปริบๆ กระพริบตาถี่ ใบหน้าเริ่มแหยเก ก่อนส่งเสียงร้องดังลั่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel