บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เหลือเชื่อ

เสียงธนูแหวกอากาศมาแต่ไกล เสียงอวิ๋นไม่อยากเห็นเขาถูกทำร้าย ช่วงเวลานั้นลืมกลัวเพราะความเป็นห่วง จวบจนเนื้อร้อนบริเวณแขนถูกธนูเฉือน จึงรับรู้ถึงความกลัวขึ้นมา ก้มมองแขนซ้ายที่มีของเหลวสีแดงซึมผ่านอาภรณ์ สีหน้าซีดเผือดยามรับรู้ถึงความเจ็บนั้น

“ไม่กลัวตาย?” เฉินอี้ขมวดคิ้วเอ่ย

“....” ใครบ้างไม่กลัวตาย แค่เมื่อครู่ลืมกลัวตอนนี้สั่นไปทั้งตัวแม้แต่ขาก็แทบรับน้ำหนักตัวไม่ไหว ขาอ่อนปวกเปียก มองไปที่สามีหวังว่าจะพบสายตาห่วงใยไม่ก็คำถามว่าเจ็บรึไม่ก็ยังดี กลับไม่เป็นตามที่หวัง มาถึงขั้นนี้สามียังไม่ปล่อยมือจากสตรีคนนั้น เขาหลบหลีกธนูดอกนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว ความห่วงใยของนางเสียเปล่าแล้ว หากเมื่อครู่เฉินอี้คนสนิทอีกคนของสามีไม่โอบเอวนางดึงออกมา หลังของนางคงถูกธนูปักตำแหน่งจุดตายแทงทะลุหัวใจ ถือว่านางโชคดีเฉินอี้ที่สืบข่าวอยู่ชายแดนมาตลอดกลับมายามนี้ มิเช่นนั้นเมื่อครู่นางคงไม่รอดชีวิตมาได้

“ตามไปจัดการให้สิ้น”

สามีสั่งการเสร็จก็อุ้มร่างอรชรของม่านถิงเข้าไปในเรือนหลังเล็ก ไม่สนใจนางที่เป็นฮูหยินและยังได้รับบาดเจ็บอยู่ เสียงอวิ๋นยืนอึ้งอยู่กับที่น้ำตาไหล ไร้เสียงกรีดร้องแม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มี รู้ว่าเขาไม่รักแต่ไม่คาดคิดว่าจะไม่รักถึงเพียงนี้ ร้าวจนปวดไปทั้งใจ ทั้งที่รักเขาหมดใจทำเพื่อเขาทุกอย่างแม้แต่ชีวิตก็ให้เขาได้ เขากลับทำร้ายจิตใจนางได้ถึงเพียงนี้

“กลับจวนเถิดขอรับฮูหยิน” จางหมิงเรียกสตินายหญิงที่ดูเหมือนจะหลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว หากเขาเป็นฮูหยินเขาจะรีบกลับจวนไปนอน ไม่อยู่ต่อมองภาพบาดตาให้เจ็บหัวใจหรอก เดินไปเตรียมรถม้าเพื่อพาฮูหยินกลับจวน

ร่างเล็กถูกแรงหนึ่งกระชากไป โลหะเย็นเยียบจดจ่ออยู่ที่ลำคอระหง ทว่าสติรับรู้ของเสียงอวิ๋นราวกับดับสิ้นไปแล้ว เหม่อลอยไม่รับรู้ถึงอันตรายราวกับรอบกายมีนางยืนอยู่แค่คนเดียวไร้ผู้คน

“หลี่เฉียง...ฮูหยินของเจ้าอยู่ในมือข้า ถอนกำลังของเจ้าออกอย่าไล่ตามคนของข้าอีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ไว้ชีวิตนาง”

จางหมิงเจ็บใจนัก เผลอเพียงครู่เดียวก็ถูกเว่ยเฉาที่เป็นปฏิปักษ์กับนายท่านทุกเรื่อง จับนายหญิงไปเป็นตัวประกัน เมื่อครู่เฉินอี้มาถึงช่วยชีวิตนายหญิงไว้ แล้วตามมือสังหารคนนั้นออกไปตามคำสั่งนายท่าน ทำให้ที่นี่เหลือเพียงเขาที่คอยคุ้มกัน “นายท่านเป็นข้าน้อยที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่...”

หลี่เฉียงเปิดประตูออกมาจากเรือนหลังเล็กยกมือขึ้นห้ามไม่ให้จางหมิงเอ่ยปากต่อ “ฮูหยินของข้าไม่กลัวของมีคม เมื่อครู่ตอนอยู่ที่จวนยังใช้ปิ่นปักผมสังหารตัวเองอยู่เลย หากเจ้าลงมือตอนนี้ก็เป็นไปตามความปรารถนาของนาง ไม่เชื่อเจ้าถามนางดูได้”

ไม่คาดคิดว่าเว่ยเฉาจะใจกล้าบุกเข้ามายามเขาไร้การป้องกันเช่นนี้ ถือว่าเขาพลาดที่ไม่เตรียมการรับมือไว้ ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งหน้าเขาไม่ยอมอีกแน่

เสียงอวิ๋นได้สติกลับมาเมื่อได้ยินเสียงราบเรียบของสามี นางช้อนตามองเขาแววตาสั่นระริก ส่งความรู้สึกเสียใจ เจ็บปวด หวาดกลัวไปให้เขาผ่านทางสายตา ทว่าเขาไม่มองมาที่นาง จับจ้องเพียงบุรุษที่ใช้มีดจี้ลำคอของนางอยู่ เสียงอวิ๋นปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มเงียบ ๆ ไม่กรีดร้องไม่ด่ากราดอย่างที่ผ่านมา

“ซึ้งใจหรือไม่เล่าจูฮูหยิน...สามีที่เจ้ารักสามีที่เจ้ายอมสละชีวิตเพื่อเขาไปเมื่อครู่...ไม่คิดจะช่วยเจ้า”

หูอื้ออึงเมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยไร้ความห่วงใย เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แข็งเหมือนหินผาบอกว่านางไม่กลัวของมีคม “ท่านพี่” เสียงอวิ๋นเรียกออกมาอย่างแผ่วเบา จุกจนร้าวระบมไปทั้งใจ เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่รัก เหตุใดนางต้องรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นด้วย

“หลี่เฉียงในเมื่อเจ้าไม่คิดจะช่วยนาง ฮูหยินของเจ้าก็ยกให้ข้าเถิด ฮ่าฮ่า” เว่ยเฉาเจ็บแค้นแทนน้องสาวของเขาที่ต้องตายอย่างอนาถเพราะสหายเก่าอย่างหลี่เฉียง ทำให้เขาคิดทวงคืนให้น้องสาว โดยการเอาชีวิตสหายเก่า ไปขอขมาน้องสาวเขาในปรโลก

“เชิญตามสบาย” สีหน้าไม่แยแสกล่าวพลางนั่งลงเก้าอี้โยก ยกป้านชารินใส่จอกดื่มอย่างสบาย ๆ ไม่มีแววกังวลหรือร้อนใจแม้แต่น้อย

เสียงอวิ๋นหาเสียงตัวเองไม่เจอไปชั่วขณะ เขายกนางให้บุรุษอื่น นัยน์ตาแดงก่ำมองไปที่สามีอย่างผิดหวังและเหลือเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“ดี ไปขึ้นรถม้า” เว่ยเฉากระชากร่างบางให้เดินตามไป เขาใช้ปลายมีดสั้นชี้ไปที่หน้าสหายเก่าในระยะไกลและส่งรอยยิ้มเย็นยะเยือกไปให้ “อย่าตามมา ไม่เช่นนั้นข้าไม่รับรองความปลอดภัยของนาง...อีกอย่างถอนกำลังของเจ้าออกให้หมด อีกครึ่งชั่วยามหากคนของข้ายังไม่โผล่หัวมารายงาน ก็มาเก็บศพฮูหยินเจ้าเสีย” ผลักร่างระหงขึ้นไปบนรถม้าได้ ก็กระโดดขึ้นไปตำแหน่งสารถี บังคับรถม้าออกจากเมืองหลวง เพราะที่แห่งนี้เป็นถิ่นของหลี่เฉียง เขาต้องพานางไปให้ไกลจากที่นี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel