3 ยกเลิกการหมั้นหมาย
ได้ยินว่าเขาไม่ตกลงปฏิกิริยาของร่างกายลู่เอ๋อก็เกิดสั่นเทาขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ที่เขาขึ้นเสียงเมื่อครู่ว่าไม่ตกลงก็เล่นทำเอานางหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
นางไม่เชื่อว่าเขาจะไม่เลือกข้อเสนอที่นางยื่นให้จึงคิดถามเขาเพื่อความมั่นใจอีกหนึ่งรอบ
“ท่านอ๋อง ถ้าพูดกันให้เข้าใจแบบภาษาชาวบ้าน คือข้าไม่อยากแต่งกับท่านแล้ว”
ใบหน้าหล่อเหลายังคงคิดว่านางมีแผนการอะไรเป็นแน่ ถึงได้ยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมา
“ท่านหญิงเฉินบอกมาเสียเถอะว่าเจ้ามีแผนการอะไร”
“ข้าไม่มีแผนการอะไรทั้งนั้น”
ในเมื่อเขาฟังที่นางพูดไม่เข้าใจเฉินลู่เอ๋อทำท่าจะลุกออกไปจากตรงนั้นเสียให้ได้
“จะไปไหน”
ลู่เอ๋อสะบัดแขนออกจากมือเขา
“ข้าให้ตัวเลือกท่านสองทาง ในเมื่อท่านไม่เอาข้าก็คร้านจะพูดคุยด้วยแล้ว”
“เฉินลู่เอ๋อ มาพูดกันให้เข้าใจก่อน...เจ้ามีแผนการอะไรกันแน่”
“ข้าไม่มีแผนการอะไรทั้งนั้น” นางจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา มันล้ำลึกดำมืดยากที่นางจะคาดคะเน “พรุ่งนี้ช่วยส่งจดหมายอย่างเป็นทางการมาถอนหมั้นกับข้าด้วย ป่าวประกาศไปเลยว่าข้าคบชู้ หรือเป็นสตรีแพศยาที่ท่านรังเกียจ หรือไม่ก็ที่ออกมาวันนี้เพราะข้าตั้งใจออกมาพบกับชายชู้ อยากเขียนอะไรลงไปในจดหมายก็เขียนไป”
“เจ้า....”
เฟิ่งหยางชิงที่นางรู้จักควรจะหัวเราด้วยความดีใจ หัวเราะและยิ้มร่าเพราะในที่สุดเฉินลู่เอ๋อคนเดิมก็ตัดใจจากเขาได้แล้ว
แต่เหตุใดกัน...เพียงเสี้ยววินาที นางเห็นความลังเลในแววตาของเขา แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น
“ข้ามันสตรีร้ายกาจที่ท่านไม่อยากแต่งงานด้วย มันเป็นเช่นนั้นมาตลอด ในเมื่อข้ารักท่านเพียงฝ่าย...”
นางไม่ทันจะได้พูดสิ่งใดต่อเฟิ่งหยางชิงก็โน้มใบหน้าเข้ามาจุมพิต
คนตัวเล็กร่างกายแข็งทื่อ หูตาพร่าเบลอ สมองของนางขาวโพลน รอบ ๆ กายเงียบสงบลู่เอ๋อไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น เขาไม่ได้จูบนางเฉย ๆ แต่ยังดึงดันสอดลิ้นเข้ามาช่วงชิงความหอมหวาน กลิ่นของขนมหยวนเซียวที่เจือความหอมของดอกกุ้ยยังคงอบอวลวนเวียนอยู่ในโพรงปาก
ชายหนุ่มเห็นปากเล็กสีแดงสด ๆ ที่เอาแต่พร่ำบอกว่าจะให้เขาถอนหมั้น ก็อดใจไว้ไม่ได้ ถ้าวิ่งตามเขาแล้วก็ควรวิ่งตามเขาให้ตลอดสิ ไม่ใช่จู่ ๆ จะมาผลักไสเขาออกไปเช่นนี้
เรื่องมันต้องไม่เป็นเช่นนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ไม่เคยใกล้ชิดนางสักครั้ง แค่จับมือกันยังใช้นิ้วนับไม่หมดเลย แล้วนี่เขากำลังคิดอะไรกับนางกันแน่
นางสัมผัสได้ถึงมือซุกซนที่ล้วงเข้าไปใต้กระโปรงสีขาวของนาง เฟิ่งหยางชิงเริ่มบดคลึงเรียวปากอย่างรุนแรงจนนางหายใจแทบไม่ทัน มือของเขาเย็นเฉียบยามที่สัมผัสกับร่างกายนุ่มนิ่มของนาง คนตัวเล็กเริ่มลดการป้องกัน และก่อนที่เขาจะทำอะไรไปมากกว่านี้
ลู่เอ๋อก็กัดเรียวปากของเขาไปเต็มแรง ความเจ็บและกลิ่นคาวเลือดที่วนเวียนอยู่ในปากทำให้เขาได้สติ
เพียะ!!
มือเล็กฟาดลงไปที่ใบหน้าหล่อเหลา เฟิ่งหยางชิงถึงกับผงะหนีถอยร่นออกไป
“ข้า....”
ขอบตาทั้งสองข้างของลู่เอ๋อ เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ เวลานี้แม้สักครึ่งคำนางก็ไม่อยากเสวนากับเขา
“อย่าได้พบกันอีกเลย” พูดจบคนตัวเล็กวิ่งปราดออกจากห้องไป
“ท่านหญิงเฉิน” เฟิ่งหยางชิงรีบวิ่งตามนางไปในทันที
ไม่ทันจะได้ก้าวออกไปจากหอชมเมือง เฟิ่งหยางชิงก็เข้ามาคว้าตัวนางเอาไว้
“ปล่อยข้า” นางดิ้นรน เรี่ยวแรงของนางมีอยู่น้อยนิด
“ข้าจะไปส่ง”
“ไม่ต้องข้าจะกลับเอง”
“....”
“ท่านอ๋องปล่อยข้าเดี๋ยวนี้” นางดีดดิ้นร้องโวยวาย
“...”
แต่ตะโกนจนเหนื่อยเขาก็ไม่ปล่อยให้นางไปไหน สายตาของผู้คนรอบข้างก็เริ่มจดจ้องมาที่พวกนาง ในที่สุดก็ต้องนั่งรถม้ากลับไปกับเขาอีกครั้ง บรรยากาศภายในรถม้าอึมครึมเหมือนมีเมฆฝนกลุ่มใหญ่ อึดอัดเสียยิ่งกว่าตอนมา
เฟิ่งหยางชิงเองก็คิดไม่ถึงว่าตนเองจะกระทำเช่นนั้น ตอนนางอายุ 15 เป็นช่วงเวลาที่สตรีอื่นยอมแต่งงาน แต่เขาดันไปสัญญาส่งเดชกับนางเอาไว้ เฉินลู่เอ๋อจึงตามติดและเฝ้าคอยที่จะแต่งงานกับเขา เวลานี้นางอายุ 18 บุรุษมากหน้าหลายตาเข้ามาสู่ขอนางก็ไม่ยินยอมจะแต่งด้วย
ในที่สุดจักรพรรดิก็มอบสัญญาหมั้นหมายให้แก่นางตามที่นางขอ
แน่นอนว่ามีบางอย่างแอบแฝง มีหรือคนเช่นจักรพรรดิจะมอบอะไรให้ง่าย ๆ โดยไม่มีสิ่งตอบแทน ตั้งใจจะใช้นางและครอบครัวคอยควบคุมให้เขายอมอ่อนข้อ ไม่คิดคดทรยศ ให้เขาอยู่ใต้อาณัติการควบคุม เสด็จพี่จักรพรรดิ ท่านคิดน้อยเกินไปแล้ว
เขาจึงรังเกียจในตัวนางเสมอมา ที่นางเข้าหาเขาก็เพราะว่าเป็นแผนการของคนพวกนั้นไม่ใช่หรือ ที่อยากแต่งงานกับเขาก็เพราะคนพวกนั้น นิสัยร้ายกาจดื้อดึงใครจะอยากได้มาเป็นภรรยากัน
เช้าวันรุ่งขึ้น!!
ขนมและเครื่องประดับถูกส่งมาที่จวนแม่ทัพเฉิน เฉินลู่เอ๋อถึงกับกุมขมับ นางต้องการจดหมายยกเลิกการแต่งงานไม่ใช่ของพวกนี้
ไม่ได้การแล้วนางต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องอีกรอบ
“ข้าจะไปจวนอ๋อง เก็บขนมพวกนั้นใส่กล่องลังให้หมดและตามข้ามา....”