ตอนที่ 4/2
“นางเป็นผู้หญิง มีอายุมากแล้วแต่ว่าดูสวยมากเลยท่านแม่ และรอยยิ้มของนางก็ช่างดูอบอุ่นมาก” กาญวดีนึกภาพแล้วบรรยายให้มารดาฟัง
“ ใช่ค่ะท่านแม่ ดูอบอุ่นอย่างประหลาด ” อรสาพูดเสริม ท่านหญิงยิ้มออกมานางพอจะเดาได้ว่าเจ้าของร้านผู้นั้นเป็นใครมาจากไหน
“พวกเจ้าใส่แหวนวงนี้ติดตัวไว้ตลอดนะห้ามถอดออกเด็ดขาด แม้เวลาอาบน้ำ”
“ทำไมล่ะคะท่านแม่มีอะไรหรือเปล่า” อรสาถามอย่างสงสัยเพราะผู้เป็นมารดาพูดแบบมีเลศนัย
“ทำตามที่แม่บอกเถิด อย่าถามต่อเลยน่ะ” พูดแล้วจึงโอบกอดลูกสาวทั้งสองอย่างรักใคร่ “แล้วคราวนี้จะกลับมาอยู่กี่วันกันล่ะ”
“พี่เอซาน่าให้หยุดยาวทั้งอาทิตย์เลยค่ะ คงเห็นว่าข้าเริ่มเบื่อในวังแล้วมั้ง” กาญวดีอิงศีรษะกับไหล่มารดา ตอนแรกก็สนุกดีที่ได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ แต่พอได้อยู่จริงๆ เห็นพฤติกรรมของเหล่านางสนมทั้งหลายที่เอาแต่ทะเลาะวิวาท แย่งชิงเอาใจองค์ฟาโหร์ก็เริ่มเบื่อ
“อะไรกัน เพิ่งเข้าไปได้ไม่นานก็เบื่อแล้วเหรอ ตอนแรกแม่เห็นเจ้าคึกคักดีนนี่” นาเดียบีบจมูกบุตรสาวคนเล็ก
“ใช่ค่ะท่านแม่ อยู่ในตำหนักก็หาเรื่องปีนปายต้นไม้เป็นว่าเล่น ซนเหมือนลิง”อรสาอมยิ้ม
“เหรอจ้ะพี่สาจ๋า เจี๊ยกๆๆๆๆ” กาญวดียื่นหน้ายื่นตาแล้วทำเสียงล้อเลียนเหมือนกับลิงน้อย สร้างเสียงหัวเราะคึกครื้นในบ้าน
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว พวกเจ้าไปพักผ่อนกันเถอะ” นาเดียลูบศีรษะอรสาเบาๆ
“เจ้าค่ะ” สองสาวรับคำพร้อมกัน แล้วพากันเดินกลับห้องของตนเอง โดยมีสายตาเอ็นดูรักใคร่ของนาเดียมองตามไป
ตำหนักพระสนมเอซาน่า
หลังจากกลับมาจากบ้าน อรสากับกาญวดีก็รู้ว่าสนมเอซาน่าไม่สบายหนักอาเจียนออกมาเป็นเลือดสองวันติดๆ เล่นเอาสองสาวนั่งไม่ติดกันเลย หมอหลวงเองก็ไม่ทราบสาเหตุ
“เป็นอย่างไรบ้างเอซาน่าข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเลยมาเยี่ยม” พระสนมเซฮาน่าเสด็จเข้ามาเยี่ยมพระอาการ
‘นางต้องการอะไรกันแน่ปรกติเห็นเกลียดแค้นพี่เอซาน่าเป็นอันมาก ไงวันนี้ลงทุนต้มซุปผักมาให้ทาน ’ กาญวดีนิ่วหน้าอย่างสงสัย
“เจ้าทานเยอะๆ นะจะได้หายเร็วๆ มาข้าจะป้อนให้” สนมเซฮาน่ายกถ้วยซุปมาตักแล้วยื่นมาตรงหน้าของพระสนมเอซาน่าซึ่งตอนนี้ใบหน้าซูบซีด เรี่ยวแรงก็แทบจะไม่มี แต่ก่อนที่เซฮาน่าจะป้อนใส่ปากเอซาน่าสุรเสียงดุดันก็ดังขึ้น
“ไม่ต้องเซฮาน่า เดี๋ยวข้าป้อนนางเอง” เสียงออกคำสั่งดังมาจากหน้าประตูห้องบรรทมของพระสนมเอซาน่า
“ทรงเสด็จมาเฝ้าเช้า-เย็นเลยนะเพคะ อย่างนี้อาการพระสนมคงหายวัน หายคืนเป็นแน่” เซฮาน่ารับสั่งแต่ในใจกลับคิดตรงกันข้าม นางต้องการให้พระสนมเอซาน่าตายไวๆ จะได้หมดเสี้ยนหนามที่ตำใจนางอยู่
“นางคือแก้วตาดวงใจของข้า ข้าต้องดูแลนางให้ดีที่สุด” รับสั่งพร้อมกับหยิบถ้วยซุปมาจากมือของสนมเซฮาน่า
“ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันคงไม่มีประโยชน์แล้ว ขอทูลลาเพคะ” คำพูดของพระสนมเซฮาน่านั้นเจือด้วยความน้อยใจนิดๆ และเสด็จออกจากห้องไปอย่างเจ็บแค้น แล้วบังเอิญเจอกับพระสนมซีเนียที่หน้าตำหนักเข้าพอดี
“อ้าว...พระสนมเซฮาน่าเสด็จไปเยี่ยมพระสนมเอซาน่ามาหรือเพคะ แต่ทำไมหน้าบอกบุญไม่รับเยี่ยงนี้ แสดงว่าเห็นภาพบาดตามากระมั่ง” ซีเนียรับสั่งถามแต่ในสายพระเนตรทรงมีแววยิ้มเยาะ
“ฮึ! เจ้าอย่ามาปากดีหน่อยเลย ถามหน่อยเถอะ ตั้งแต่เจ้ามาองค์ฟาโรห์เคยเรียกเจ้าไปพบ หรือไปหาเจ้าบ้างหรือเปล่า ก็เปล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เซฮาน่าตอบกลับไปแล้วสะบัดหน้าเดินจากไป
“ผยองไปเถอะแล้วข้าจะทำให้พวกเจ้าสะอึกเลยทีเดียว” ซีเนียหรี่ตาลง เรียวปากเม้มเข้าหากันอย่างแค้นพระทัย แล้วหันไปมองที่หน้าตำหนักสนมเอซาน่า ก่อนจะเปลี่ยนใจเดินกลับตำหนักของตนเอง
หลายวันผ่านไปอาการของพระสนมเอซาน่านับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเมื่อเช้ากินซุปผักเข้าไปได้ 2-3 คำ ก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด สร้างความกังวลพระทัยให้องค์ฟาโรห์เป็นอย่างยิ่ง ทรงประทับอยู่ในห้องพระสนมเอซาน่าทุกวัน
แม่ทัพกาซัสและท่านหญิงนาเดียก็มาเฝ้าดูอาการทุกวันเหมือนกัน ส่วนสองสาวก็แทบไม่ได้หลับได้นอนเลยเพราะพระสนมทรงมีอาการตัวร้อนสลับกับอาการหนาวสั่นตลอดทั้งคืน
“พวกเจ้าไปพักเถอะเดี๋ยวข้าดูแลนางต่อเอง” องค์ฟาโรห์รับสั่งกับนางกำนัลสาวทั้งสอง
“หม่อมฉันยังไหวเพคะเพราะได้หลับบ้างแล้ว” อรสาทูลตอบแล้วหันไปมองทางกาญวดี
“เจ้าไปเถอะ กาญ เจ้ายังไม่ได้พักเลย” กาญวดีพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาเพราะเธอยังไม่ได้หลับเลยตั้งแต่เมื่อคืน