ตอนที่ 4 ประลอง
ตอนที่ 4 ประลอง
สิ่งของมากมายที่คณะราชทูตได้นำมาถวายในครั้งนี้มีทั้งเสื้อผ้าแพรพรรณสีสด และเครื่องประดับงามตามากมาย ได้ถูกนำมาเปิดให้องค์ฟาโรห์ องค์ชายอคาเชฟ และเหล่าสนมนางกำนัลดูในสวนด้านหน้าตำหนักขององค์ฟาโรห์ เหล่าพระสนมทั้งหลายขององค์กษัตริย์ทั้งสองต่างสนใจและอยากได้มาเป็นเจ้าของ ต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“หนวกหูเป็นบ้าเลย” กาญวดีกระซิบบอกกับอรสา จึงทำให้โดนหยิกหนึ่งที
ราชทูตสูงวัยหน้าตามีเล่ห์เหลี่ยมยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นเหล่านางสนมชื่นชอบเครื่องบรรณาการที่เขานำมาถวายให้
“ฝ่าพระบาท เกล้ากระหม่อมใคร่จะขอชมความสามารถของเหล่าทหารของพระองค์ได้ไหมพระเจ้าค่ะ”หัวหน้าราชทูตต่างแดนคิดแผนอะไรได้ขึ้นมาจึงทูลถามออกไป เพราะกษัตริย์ของเขาสั่งให้มาดูซิว่าความเป็นอยู่ของเหล่าราษฎรของที่เป็นอย่างไรบ้าง
“ได้ เจ้าต้องการจะทดสอบอะไร เจ้าเสนอมาได้เลย” อคาเมฟิสนึกอยู่แล้วว่าการมาเจริญสัมพันธไมตรีในครั้งนี้มันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ ‘ข้าจะดูซิว่าเจ้าจะทำอย่างไร’
จากนั้นราชทูตจึงหยิบแจกันขึ้นมาใบหนึ่ง จากในหีบที่เป็นของกำนัลนั้น “ข้าต้องการรู้ว่าแจกันใบนี้มีน้ำหนักเท่าไร โดยห้ามจับ ห้ามนำไปชั่ง และห้ามเดินเขามาดู ใครพอจะตอบคำถามนี้ได้บ้างโปรดก้าวออกมา”
พระพักตร์ขององค์ฟาโรห์บึ้งตึงขึ้นมาทันที ‘นี่ถ้าพวกมันไม่ใช่คณะราชทูตล่ะก็พระองค์คงสั่งตัดหัวไปแล้ว’ ทรงได้แต่คิดในพระทัย และทุกคนในที่นั้นก็นิ่งเงียบ มีเพียงเสียงซุบซิบๆ เบาๆ เท่านั้น
“ว่าอย่างไรฝ่าบาทจะให้ใครตอบข้า” หัวหน้าราชทูตหันไปยิ้มใส่พระพักตร์ขององค์ฟาโรห์หนุ่ม แต่ยังไม่ทันที่พระองค์จะได้ตรัสสิ่งใด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“หม่อมฉันขอตอบเองเพคะ ” นางกำนัลอรสานั่นเองที่เป็นคนอาสา
“เจ้าแน่ใจนะว่าจะเป็นคนตอบ ”หัวหน้าราชทูตถามอย่างไม่มั่นใจ
“เจ้าค่ะท่าน แต่มีข้อแม้อยู่หนึ่งข้อท่านจะทำให้ข้าได้หรือไม่ ” นางถามกลับไป
“ เจ้าจะให้ข้าทำสิ่งใดว่ามา ”
“เมื่อข้าตอบแล้วท่านจะต้องทดสอบให้ข้าดูด้วยว่าที่ข้าตอบนั้นถูกหรือไม่”หญิงสาวยิ้มเยือนให้
“ได้ ข้ารับคำเจ้า” ราชทูตหัวเราะในลำคอ เพราะคิดว่าไม่มีใครสามารถตอบได้แน่นอน
“แจกันใบนั้นมีน้ำหนักเท่ากับ....น้ำหนักศีรษะของท่านพอดิบพอดีไม่มีขาดแม้แต่นิดเดียว”คำตอบของอรสาทำให้หัวหน้าราชทูตถึงหน้าซีด ‘ดันรับปากนางว่าจะพิสูจน์ให้นางดู แล้วนี่เขาจะต้องตัดหัวตัวเองไปชั่งเทียบกับแจกัน โอ่..พระเจ้า นางผู้นี่ช่างฉลาดนัก’
“เจ้าว่าเยี่ยงไร คำตอบที่นางตอบไปถูกหรือไม่” ฟาโรห์หนุ่มยิ้มและตรัสถามออกไป
“ถูกต้องพระเจ้าค่ะ นี่แค่เป็นนางกำนัลยังฉลาดหลักแหลม กระหม่อมหายสงสัยแล้วว่าทำไมอียิปต์ถึงรุ่งเรืองได้ขนาดนี้” หัวหน้าราชทูตทูลตอบแล้วแสร้งหัวเราะ
“วันพรุ่งนี้พวกเกล้ากระหม่อมก็ครบกำหนดที่จะต้องเดินทางกลับบ้านเมืองแล้ว พวกเกล้ากระหม่อมขอทูลลาตรงนี้เลยพระเจ้าค่ะ” พูดแล้วจึงก้มลงกราบแนบพื้นแล้วจึงเดินทยอยออกไปห้องพักของตน
“เจ้าเก่งมากแล้วข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม ถ้าเจ้าต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษให้บอกมาได้เลย” อคาเมฟิสตรัสแล้วยิ้มออกมาอย่างยินดี
“หม่อมฉันไม่ต้องการสิ่งใดเพคะ ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินเพคะ” อรสาเอ่ยออกมาแล้วถอยกลับไปนั่งที่เดิม
“เจ้าสอนคนของเจ้าได้ดีมากเอซาน่า วันนี้เจ้าทำอาหารให้ข้ากินได้หรือไม่ ข้าจะไปกินเป็นเพื่อนเจ้า” กษัตริย์หนุ่มหันมารับสั่งกับพระสนมองค์โปรด สายพระเนตรฉายแววซุกซน สายตาอิจฉาจากเหล่าสนมองค์อื่นทอดมองมายังพระสนมเอซาน่าทันที ซึ่งพระนางก็ทำไม่รู้ไม่ชี้เสียแล้วหันไปส่งยิ้มให้กับผู้เป็นพระสวามีอย่างอายๆ แล้ววรกายสูงก็โอบประคองร่างบาง พากันเสด็จออกไปจากบริเวรนั้น พระสนมเซฮาน่าและพระสนมซีเนียนั่งกำหัตถ์แน่นอย่างริษยา
ในอาทิตย์ต่อมาสองสาวได้รับอนุญาตกลับบ้าน พวกนางจึงแวะที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อหาซื้อสร้อยใส่เพราะเห็นสร้อยที่เพื่อนนางกำนัลคนหนึ่งใส่จึงอยากได้บ้าง สองสาวเดินตรงเข้าไปที่ร้านแห่งหนึ่งซึ่งด้านในมืดมากมีเพียงแสงจากคบไฟส่องสว่างเล็กน้อย หญิงชราเดินออกมาจากหลังร้านแล้วส่งยิ้มให้ พวกนางจึงยิ้มตอบ
“พวกเจ้าต้องการสิ่งใด เชิญดูได้ตามสบาย” หญิงชราเจ้าของร้านกล่าวเชื้อเชิญสองสาว
สองสาวจึงเดินดูของในร้าน ทุกอย่างสวยงามมากไม่เคยเห็นมาก่อนในยุคปัจจุบัน แต่รู้สึกว่าร้านนี้จะเน้นรูปแบบไปทางงู เพราะกำไลก็เป็นรูปงูคดตัวเป็นวงกำไล สร้อยคอก็มีจี้รูปงูสองตัวพันกัน
“พี่อรมาทางนี้ซิ กาญว่าแหวน 2 วงนี้น่ารักดี ” กาญวดีร้องเรียกเพื่อนรุ่นพี่มาดูแหวนที่ตนเองกำลังมองอยู่
“น่ารักจริงด้วย ว่าแต่เจ้าไม่เอาสร้อยแล้วหรือ” กาญวดีส่ายหน้าเพราะหลงรักเจ้าแหวนวงน้อยตรงหน้าเสียแล้ว เป็นแหวนสีเงิน และสีทอง หัวแหวนเป็นรูปหัวงูนัยตาสีเขียวมรกต และสีแดงทับทิม
“พี่อร กาญเอาวงสีเงินนี้นะ กาญชอบ ” พูดแล้วก็หยิบขึ้นมาสวมที่นิ้วนางด้านซ้าย
“งั้นพี่เอาวงสีทองแล้วกัน” แล้วจู่ๆ ก็มีลมพัดเข้ามาจนสองสาวขนลุกซู่
“สวยมากของๆ ใครก็ต้องกลับไปอยู่กับเจ้าของ” หญิงชราเดินเข้ามาดูและพูดเป็นปริศนา สองสาวมองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก แล้วก็จ่ายเงินให้หญิงชราและเดินออกจากร้านไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาจากมุมปากของหญิงชราเจ้าของร้านคนนั้นแล้วนางก็เดินหายลับเข้าไปด้านใน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน กาญวดีก็รีบเข้าไปหามารดาบุญธรรมแล้วโอบกอดร่างอวบอิ่มเอาไว้ ก่อนจะโชว์แหวนที่นิ้วของตนเอง
“ท่านแม่แหวนวงนี้สวยไหมคะ ข้ากับพี่อรไปเจอที่ร้านขายเครื่องประดับเลยซื้อมา”
“สวยจ้ะ แต่แม่ไม่เคยเห็นแหวนแบบนี้เลยนะหรือเป็นแบบใหม่ที่พ่อค้าเพิ่งนำมาขาย” ท่านหญิงนาเดียจับนิ้วลูกสาวขึ้นมาพลิกดูแหวน นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าดวงตางูสองตัวนี้เป็นสีเดียวกับรูปปั้นงูที่เป็นสาวกขององค์เทพีไอซิส นางรู้สึกประหลาดใจจึงถามบุตรสาว “พวกเจ้าเห็นหน้าคนขายหรือไม่ ว่ารูปร่างอย่างไร”