ตอนที่ 2/2
“เรามารบกวนเวลาอาหารของพวกเจ้าหรือเปล่า” เจ้าชายอคาเชฟเดินตรงมาที่โต๊ะอาหารโดยที่ไม่ทันได้สังเกตเห็นหญิงสาวที่นั่งหันหลังให้เพราะพระองค์ร้อนพระทัยเรื่องที่ทางลิเบียคิดก่อการกบฏ จึงได้รีบรุดมา และนั้นจึงเป็นโอกาสให้หญิงสาวทั้งสองซึ่งตอนนี้ล้างความน่าเกลียดออกหมดแล้ว เดินออกจากโต๊ะอาหารไป เล่นเอาหัวใจผู้เป็นบิดาและมารดาแทบจะหยุดเต้นเพราะลุ้นให้สองสาวออกไปอย่างปลอดภัยโดยไม่เป็นที่สังเกตอันใดให้กับเจ้าชายอคาเชฟ
“ไม่พระเจ้าค่ะ แต่ทรงให้ทหารมาเรียกกระหม่อมไปพบก็ได้พระเจ้าค่ะ ไม่น่าเสด็จมาด้วยองค์เองแบบนี้เลยนะพระเจ้าค่ะ” กาซัสลุกขึ้นโค้งต่ำ เช่นเดียวกับนาเดียที่ลุกขึ้นย่อตัวลงและเดินเลี่ยงออกไปจากโต๊ะอาหารเพราะดูสีพระพักตร์ของเจ้าชายหนุ่มน่าจะมีเรื่องหนักพระทัย
“ข้ามีเรื่องร้อนใจ จึงได้มาเองดีกว่า” สีพระพักตร์ตึงเครียด
“เชิญเสด็จทางนี้พระเจ้าค่ะ” แม่ทัพกาซัสนำเสด็จไปที่ห้องหนังสือและปิดประตูเงียบไม่มีเสียงอันใดรอดออกมาแม้แต่น้อย จนเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงทั้งคู่จึงเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และองค์อคาเชฟก็เสด็จกลับตำหนัก อรสาเดินออกมาจากที่ซ่อนเข้าไปหาบิดา
“ท่านพ่อ ทำไมสีหน้าท่านไม่ดีเลยล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ ลูกพอจะช่วยอะไรได้บางไหมคะ” ลูกสาวบุญธรรมคนโตถามขึ้นด้วยความห่วงใย
“มันเป็นเรื่องของผู้ชาย พวกเจ้าเป็นหญิงถึงรู้ไปก็ช่วยไม่ได้” กาซัสส่ายหน้าให้อรสาก่อนจะเดินกลับเข้าห้องหนังสืออีกครั้ง
“แต่ท่านพ่ออย่าลืมนะคะว่าลูกไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมือนใคร” อรสาจึงเดินตามเข้าไป กาซัสมองหน้าลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะเล่าให้ฟัง อรสานั่งฟังนิ่งแล้วใช้ความคิดเพราะในโลกปัจจุบันเธอได้อ่านเรื่อง อาหรับราตรีมาบ้าง บางทีอาจจะนำมาใช่กับการศึกที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้านี้ได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงปรึกษากับผู้เป็นบิดาถึงแผนการณ์ที่คิดได้
“พ่อคิดว่าองค์ฟาโรห์จะไม่ยอมใช้วิธีที่เจ้าพูดนะซิ เพราะพระองค์ทรงชอบการใช้กำลังมากกว่า”ผู้เป็นบิดากังวลเล็กน้อย
“ลูกคิดว่าท่านพ่อคงมีวิธีที่จะทำให้พระองค์ทรงยอมรับได้แน่ ” อรสายิ้มให้ผู้เป็นบิดาแล้วเดินออกจากห้องไป
“ ข้าโชคดี ยิ่งนักที่ได้พวกนางมาเป็นบุตรสาว มีความเฉลียวฉลาดยิ่ง” แม่ทัพกาซัสยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ภายในห้องว่าราชการ
ฟาโรห์หนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อได้ฟังแผนการณ์ของแม่ทัพใหญ่ ในพระทัยพระองค์ไม่ชอบที่จะใช้แผนลับๆ แบบนี้ พระองค์ชอบตาต่อตา ฟันต่อฟันมากกว่า
“ใครมีความคิดดีๆ อีกก็ว่ามา” อคาเมฟิสตรัสออกมาเสียงกร้าว กวาดสายพระเนตรไปยังเหล่าแม่ทัพ ขุนนางระดับใหญ่ที่นั่งนิ่งเงียบ
“กระหม่อมเห็นว่าเราควรทำตามแผนการณ์ที่ท่านแม่ทัพกาซัสบอกพระเจ้าค่ะ เพื่อลดการสูญเสียเหล่าทหารของเราพระเจ้าค่ะ” ขุนนางท่านหนึ่งทูลขึ้น การทำสงครามย่อมมีหารสูญเสียไพร่พล แต่จะดีกว่าถ้าจะลดการเสี่ยงชีวิตลง
“พวกเกล้ากระหม่อมก็เห็นด้วยพระเจ้าค่ะ” เสียงเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างเห็นด้วย เมื่อมีคนนำ
“งั้นท่านแม่ทัพไปเตรียมการนี้ได้เลย ข้าจะรอดูผลงานของท่าน แต่ถ้าผิดพลาดขึ้นมาท่านต้องรับผิดชอบในความคิดของตนเองด้วยชีวิต” อคาเมฟิสหรี่ดวงเนตรลง ถึงพระองค์จะไม่ชอบแต่เมื่อมติของเหล่าขุนนางออกเสียงข้างมาก จึงทรงยึดตามนั้น
“พระเจ้าค่ะ” แม่ทัพกาซัสน้อมรับคำสั่ง จากนั้นวรกายสูงก็เสด็จลงจากบัลลังก์ทองและเสด็จออกไป แม่ทัพกาซัสก็รีบไปเตรียมตัวจัดกองทัพทันที
วันเวลาผันผ่านไปเป็นเดือนหลังจากที่แม่ทัพกาซัสได้ยกทัพไปทำสงครามกับลิเบีย เขาทำตามแผนการณ์ที่บุตรสาวบอกทุกอย่าง และมันก็เป็นไปตามแผนการณ์ที่อรสาคิดไว้ ดังนั้นท่านแม่ทัพจึงได้รับชัยชนะต่อลิเบียอย่างง่ายได้ และเมื่อองค์อคาเมฟิสได้รับข่าวก็ยังความแปลกพระทัยให้กับกษัตริย์หนุ่มยิ่งนัก เพราะใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งเดือนเศษเท่านั้น แต่ทรงพอพระทัยในผลงานของแม่ทัพกาซัสเป็นอย่างมาก
และเมื่อกองทัพเดินทางกลับมาถึงวัง ได้มีการเลี้ยงฉลองและพระราชทานตำแหน่งและรางวัลแก่เหล่าทหารกล้าทั้งหลาย
“เป็นเพราะแผนการณ์ที่ชาญฉลาดของเจ้าอรสาที่ให้พ่อใช้การล่อเสือออกจากถ้ำแล้วใช้การลอบโจมตี ทำให้พ่อได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย” เมื่ออยู่กันสองคน ผู้เป็นพ่อจึงกล่าวชมบุตรสาว
“เป็นเพราะฝีมือของท่านพ่อด้วยค่ะ จึงทำให้แผนสำเร็จได้อย่างง่ายดาย” อรสาคลี่ยิ้มกว้าง
“แต่อีกหนึ่งอาทิตย์ทางลิเบียจะส่งเจ้าหญิงซีเนียมาถวายตัวเป็นพระสนม”
“แค่นี้ยังมีสนมไม่มากพออีกเหรอท่านพ่อ ถึงต้องรับเจ้าหญิงจากเมืองโน่นเมืองนี่มาเต็มวังไปหมดแล้ว สงสารพี่เอซาน่า” อรสานิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจ พร้อมกับถอนใจเฮือกใหญ่
“มันคือธรรมเนียมของประเทศที่แพ้สงครามน่ะลูก เอซาน่ายอมรับได้ในเรื่องนี้ เจ้าอย่าวิตกกังวลไปเลย” กาซัสตบบ่าบุตรสาวพร้อมกับยิ้ม แล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้นเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นเข้า
‘ถ้าเกิดเจ้าหญิงแห่งลิเบียสวยกว่าพี่เอซาน่า แล้วนางจะทำอย่างไรนะ เรื่องนี้ต้องไปปรึกษาแม่หัวอัจฉริยะสมองกลอย่างยัยกาญ’ อรสาคิดพร้อมกับมองตามหลังบิดาไป ก่อนจะเดินไปหากาญวดี
“กาญ มานี่หน่อยซิพี่มีเรื่องอยากปรึกษา”อรสากวักมือเรียกน้องสาวออกมาจากงานเลี้ยง
“มีอะไรพี่อร กาญกำลังกินอยู่” กาญวดีพูดไปเคี้ยวไป
“มีเรื่องนะซิ เจ้าหญิงแห่งลิเบียกำลังเดินทางมาถวายตัวเป็นพระสนมแห่งองค์ฟาโรห์”
“แล้วอย่างนี้พี่เอซาน่าก็แย่ซิ เดี๋ยวขอเวลา กาญคิดแผนสะกัดดาวรุ่งก่อนนะ คิด...คิด..คิด นึกออกแล้ว” เมื่อคิดแผนการณ์ออกแล้วก็กระซิบบอกพี่สาวทันที
“จะดีหรือ แล้วเราจะไม่เดือดร้อนแน่นะกาญ ” อรสาเป็นกังวล
“เชื่อหัวไอ้กาญซิ รับรองสำเร็จแน่ๆๆ” กาญวดีใช้นิ้วชี้มาที่หัวของตนเอง
แล้วแผนการสกัดดาวรุ่งก็เริ่มขึ้น แต่เชื่อได้เลยว่าความพังพินาศกำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน