ตอนที่ 5
ว่าที่คู่หมั้น
“อ้าว เชี่ยย ระบบนี่กวนแล้วเดี๋ยวแม่ตบเสียนี่ เป็นสตรีก็ต้องอยากสวยย่อมเป็นธรรมดา เอาเถอะๆ รีบเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่าต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อน”
นางกำลังสวมชุดใหม่เมื่อสวมเสร็จจึงรู้สึกว่าชุดที่สวมใส่สบายกว่าชุดเดิมมาก แต่ทว่า…..
“พิษในกายข้า ยังขับออกไม่หมด แย่แล้ว ต้องรีบซ่อนตัวก่อน”
เสียงเดินนั้นเดินเข้ามาใกล้ มีเสียงกล่าวขึ้นพร้อมกับสั่งการบางอย่าง
“อีพวกนี้ทำไมไม่ยอมปล่อยข้าเสียทีนะ พาพวกมาเพิ่มอีกหรือ แล้วจะเอาสิ่งใดสู้กับมันเล่าทีนี้”
เว่ยอิงคิดไม่ออก นางหลบอยู่ด้านหลังพุ่มไม้เมื่อเสียงเดินนั้นเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ แต่ตอนนี้นางยังขับพิษออกไม่หมด จนกระทั่ง
“เจ้าคือผู้ใด เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ บอกข้ามามิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า….เจ้าเป็นสตรี”
“อืออ หนาวจัง ช่วยด้วย อืออ…”
เว่ยอิงพิษเริ่มกำเริบอีกรอบเพราะยาแก้พิษที่พึ่งกินเข้าไปยังไม่ออกฤทธิ์เต็มที่ เมื่อนางมองเห็นว่าผู้ที่เดินเข้ามาชักดาบกลับเข้าฝักดังเดิมและเดินมานั่งตรงหน้านาง เขาสวมชุดลำลองสีดำเดินเข้ามา ปากนางเริ่มสั่น เมื่อเขามองหน้านางใกล้ๆ และเรียกนาง
“แม่นางหรง!! นี่เจ้า….มาทำอะไรอยู่ในป่านี้”
“ท่าน….ท่านเป็นใครกัน”
เสียงแหบพร่าถามออกไป ใบหน้านางเริ่มเปลี่ยนสี ปากแดงจัดราวลูกเชอร์รี่สุกทำเอาคนตรงหน้าลอบกลืนน้ำลายลงไป
“ข้าหมิงตงหยาง ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือนเจ้าก็ลืมข้าแล้ว……อืม”
เว่ยอิงกระโจนใส่เขาทันที ปากบางนั้นกำลังบดขยี้เขาอย่างจงใจ ร่างน้อยๆ เบียดไปมาบนร่างแกร่งของเขาที่ตกใจกับการกระทำนี้
“เดี๋ยวก่อน หรงเว่ยอิง นี่เจ้า”
“ถอดเสื้อผ้าออก ไม่ต้องห่วง ข้ารับผิดชอบท่านเอง ข้าจะไม่ทิ้งท่านหรอกวางใจได้ แต่ตอนนี้ช่วยข้าก่อน อืมม..”
นางเริ่มถอดชุดที่พึ่งใส่ออก ยาแก้พิษช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะนางพึ่งลงไปแช่น้ำเพียงครู่เดียวเขาก็มา ยังดีที่เขาเห็นห่อผ้าที่เป็นชุดสตรีจึงให้ทหารถอยออกไปเพราะคิดว่านางจะอาย แต่ไม่คิดว่าจะเจอเว่ยอิงในสภาพนี้
ลิ้นน้อยๆ นั้นรุกล้ำเขาจนเขาเริ่มจะทนไม่ไหว บางสิ่งของเขากลับกำลังเรียกร้องให้เขาตอบกลับนางไป แต่ว่า........
“แม่นางหรง เจ้าใจเย็นก่อน อย่าพึ่ง นี่เจ้าถูกพิษมางั้นหรือ”
“ไม่ทันแล้ว ช่วยข้าก่อน ชุดท่านน่ะถอดออกเดี๋ยวนี้”
“เดี๋ยวก่อนนี่เจ้าจะทำสิ่งใด เจ้าเป็นสตรีข้าเป็นบุรุษเราไม่ควร อื้ออ…”
ปากนางก้มลงประกบปากเขาอีกครั้งและเริ่มจัดการชุดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างรวดเร็ว มือเรียวนั้นล้วงเข้าไปจัดการหน้าอกแน่นของเขาและ....
“อาาา เว่ยอิง อย่านะ…นี่เจ้า…”
“หากท่านไม่อยู่เฉยๆ ข้าจะกัดแล้วนะ อกแน่นดีจังเลยขอชิมหน่อยละกัน”
นางไม่พูดเปล่ายังก้มลงไปจัดการเขาเองเสียด้วย คนใต้ร่างทนไม่ไหวอีกแล้วเมื่อนางรุกล้ำเขาไม่หยุดด้วยทักษะที่เขาไม่เคยพบเจอ และด้วยการที่เขาออกรบมานานไม่เคยพบพานอิสตรี บัดนี้ร่างกายและความเป็นบุรุษเรียกร้องจนสติสัมปชัญญะของเขาหลุดลอยไปพร้อมกับนาง
ในเมื่อเขาบอกแล้วว่าจะหมั้นหมายกับนาง การทำเช่นนี้ก่อนก็คงไม่ผิดอะไร ที่สำคัญนางถูกพิษมา เขาจูบนางกลับ และด้วยสัมผัสที่หิวโหยรุกล้ำและรุนแรงกว่า ทำเอาเว่ยอินรู้สึกไม่ยอมแพ้ นางตอบกลับเขาอย่างท้าทาย
“เว่ยอิง หากเจ้าไม่หยุด คืนนี้เราจะหยุดไม่ได้อีกแล้วนะ”
“พูดมากเสียจริง ข้าไม่กินท่านจนเดินกลับไม่ได้หรอกไม่ต้องห่วง ข้ารับผิดชอบท่านเอง อาาา ไม่ไหวแล้ว เร็วๆ เข้า อื้ออ…ตรงนี้มัน อา…อื้มมม”
เมื่อนางยืนยันเอง เขาจึงทนไม่ไหวอีกต่อไป แม้ว่าจะผิดขั้นตอนไปสักหน่อย แต่ด้วยความถูกจู่โจมก่อนและไม่อาจจะหนีได้เขาจึงต้องยอมให้นางทำไปเรื่อยๆ จน…..
“อ๊ะ….”
“ปึก!!”
ร่างเล็กร่วงลงมาทับที่อกเปลือยเปล่าของเขาทันทีที่เขาใช้สันมือตีไปที่ท้ายทอยของนาง เขาดึงร่างนั้นออกมาอย่างยากลำบาก อกเปลือยเปล่าที่อวบตึงแต้มจุดสีชมพูที่ไม่เคยผ่านชายใดสัมผัสมาก่อนทำให้เขานึกหวงแหนและอยากมองมันนานกว่านี้อีกหน่อย แต่เหตุการณ์ตอนนี้เขายังคิดเรื่องนี้ไม่ได้ ร่างกายนางถูกพิษอย่างแรงมา เขารีบจัดการสวมชุดให้นางและพานางเดินออกมาจากป่านั้นไปที่ค่ายลับหลังเขาทันที
“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ นั่นคือ…”
“ไปเรียกท่านหมออี้มาเร็วๆ เข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าทหารในค่ายล้วนมองตามองค์ชายเก้าไปด้วยความแปลกใจ ค่ายนี้ไม่เคยมีคนนอกเข้ามา และนี่ยังเป็นสตรีอีกด้วย พวกเขาจึงนึกแปลกใจยิ่งนักและองค์ชายเก้ายังพานางเดินเข้าไปที่กระโจมของเขาด้วย ท่านหมอวิ่งเข้ามาในกระโจมนั้นทันทีแล้วตรวจดู
“ทูลองค์ชาย นางถูกพิษปลูกกำหนัดอย่างแรงมาพ่ะย่ะค่ะ และยังสูญเสียกำลังไปมาก คาดว่านางน่าจะมาไกล ข้าจะสั่งปรุงยาให้ นางกินเพียงสองถ้วยพิษก็จะคลายตัวลงพ่ะย่ะค่ะ”
“ขอบคุณท่านหมอ ฝากท่านด้วย”
ท่านหมออี้ออกไปแล้วเขาจึงเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ เตียงของนาง ปากนางยังแดงไม่หายอาจจะเพราะพิษ หรือไม่ก็…..ฉากในป่านั้นทำเอาเขาถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อเริ่มนึกถึง เดิมทีเขาจะเดินไปเพื่ออาบน้ำตรงนั้นเพราะนั่นเป็นสระน้ำเย็นที่เขามักจะไปแช่ตัวทุกครั้งหลังจากฝึกกับเหล่าทหารในกองทัพมา แต่ไม่คิดว่าจะพบเจอนางที่นั่น
“เหตุใดหรงเว่ยอิงต้องไปที่นั่นด้วย ที่นี่มิได้อยู่ใกล้เมืองหลวงเลย แล้วยังถูกวางยาด้วย นี่มันเรื่องอะไรกัน ใครต้องการจะทำร้ายนางกันแน่”
เว่ยอิงตื่นขึ้นอีกครั้งในตอนเช้า นางพบว่ามียาที่ยังร้อนตั้งอยู่เพราะเห็นว่ามีควันโพยพุ่งออกมา นางหันไปมาโดยรอบกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากป่าที่นางอยู่ก่อนหน้านี้
“ที่ไหนอีกละนี่”
“เจ้าตื่นแล้วงั้นหรือ”
“ผู้ใดกัน!!”
“ข้าเอง นี่เจ้า….จำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ”
เว่ยอิงหันไปมองตามเสียงเขายืนอยู่ตรงด้านหลังอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่นางตื่น เมื่อทั้งคู่หันมาเจอกัน องค์ชายพลันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคนนี้ได้ทำให้เขาเผลอมองหน้านางไปครู่หนึ่งและหันกลับมาทันที
“ท่านคือ……”
“แม่นางหรง เจ้าอย่าบอกนะว่าลืมแม้กระทั่งว่าที่คู่หมั้นของตัวเองน่ะ ข้าหมิงตงหลางองค์ชายเก้าอย่างไรเล่า”
เว่ยอิงลูกจากเตียงและเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับหันไปมองบุรุษหนุ่มตรงหน้าชัดๆ ความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นในหัวนาง พื้นพรมสีแดง เลือดสุนัข นางล้มลง มีคนมาอุ้มและประกาศว่าเขาจะหมั้นหมายกับนาง
“เป็นท่านนี่เอง ท่านคือองค์ชายเก้า”
“ใช่เป็นข้าเอง ว่าแต่เจ้าเหตุใดจึงมาอยู่ในป่าทึบเช่นนี้ได้ สตรีที่อยู่แต่ในเรือนอย่างเจ้า ไม่ควรมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้นี่นา”
“คือว่าข้า….”
นางพึ่งจะนึกได้ตอนที่เขาถาม นั่นสิ เหตุใดนางจึงมาอยู่ที่ชายป่านั่นได้ และทำไมถึงถูกวางยาเพื่อทำร้ายจนมาเจอเขา นางหันกลับไปพร้อมกับหลับตา ความทรงจำสุดท้ายของเจ้าของร่างกลับคืนมา นางมาซื้อของกับสาวใช้ตามคำสั่งฮูหยินและคนขับรถม้าสั่งให้สาวใช้ของนางไปซื้อของจึงทำให้นางสองคนแยกกันและถูกพาตัวมาที่นี่ และคนที่บงการเรื่องนี้ก็คือ…"หรงไป๋ฮูหยิน"
“องค์ชายเพคะ ได้โปรดไปส่งหม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ”