ตอนที่ 4
ลั่วอิง Vs เว่ยอิง
ลั่วอิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นกับสถานที่ที่ดูไม่คุ้นตา เธอจำได้ว่าถูกส่งไปทำภารกิจที่แอนตาร์คติกเพื่อกอบกู้ระเบิดที่ทางรัฐบาลวางเอาไว้เพื่อป้องกันศัตรูเข้าไปเจาะเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรลับอินทรีสายฟ้า แต่กำลังที่จะตัดสายสุดท้าย ระเบิดได้ระเบิดออกมาร่างของเธอจึงกระเด็นออกมาหลังจากนั้นก็ไม่รู้ตัวอีก
ลั่วอิงคือหน่วยสืบราชการลับขององค์กรที่ทำงานร่วมกับกองทหารของประเทศ หน่วยนี้เอาไว้สืบข่าวให้รัฐบาลและทำเรื่องที่เสียงอันตรายมาทุกรูปแบบกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ไม่คิดว่าคำขอสุดท้ายที่หวังจะมีชีวิตให้นานกว่านี้จะเป็นจริง แต่ที่นี่มัน……
“ที่ไหนเนี่ย ชุดอะไรวะ รุงรังจริง เล่นงิ้วเหรอ โอ๊ย….”
ความทรงจำบางอย่างกำลังไหลเข้าสู่ในหัวของลั่วอิงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
(นี่มันเรื่องอะไรกัน บุตรีคนที่สามของท่านโหวหรงเสวียน แม่ทัพแดนเหนือ ถูกนำมาที่นี่เพื่อลอบทำร้าย นี่มันเหตุการณ์อะไรกัน ถูกกลั่นแกล้ง รังแกตั้งแต่เด็กทั้งๆ ที่เป็นบุตรของฮูหยินคนก่อนแต่ความเป็นอยู่ในจวนกลับไม่ต่างกับคนใช้ ชุดเสื้อผ้าก็ล้วนแต่เป็นของเก่าที่ล้าหลังของบุตรฮูหยินรองที่ขึ้นมาดูแลแทน)
“ชีวิตบัดซบเสียจริง”
“ช่วยข้าที ช่วยข้าด้วย”
“ใครกัน เธอเป็นใคร”
“ข้าหรงเว่ยอิง ข้ายังไม่ทันได้พบหน้าท่านพ่อเลย ช่วยหาคนที่ทำร้ายข้า ให้พวกเขาได้รับผลกรรมที่ทำร้ายข้าด้วย ช่วยข้าด้วย”
“แล้วจะให้ช่วยยังไงล่ะ”
“ช่วยด้วย….”
“เดี๋ยวสิ นี่ เดี๋ยวก่อน!!”
เสียงม้าดังมาจากข้างนอก ลั่วอิงก้มมองร่างตัวเองในชุดสีส้มอ่อนที่สุดเชยนี้ ทั้งรุงรังและหนักจนอยากจะโยนทิ้ง แต่นางก็ได้แต่แกล้งหลับต่อเพื่อให้ได้ยินเสียงข้างนอก
“มาแล้วหรือ จัดการตามที่บอกแล้ว หากว่านางตื่นก็พอดีกับยาจะออกฤทธิ์ เอาล่ะ พวกข้าขอตัวก่อน”
“ฮูหยินหรงของพวกเจ้าบอกว่าต้องรอพาตัวแม่นางนี่กลับไปหลังจากที่ ….ฮ่าๆ พวกเจ้าอยากร่วมวงด้วยหรือไม่เล่า”
“ไม่ล่ะๆ พวกเจ้าตามสบายเถอะ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะมารับนาง”
"ฮูหยินหรง น้องสาวต่างมารดา นี่คือสิ่งที่เจ้าของร่างบอกเอาไว้ คนพวกนี้เองหรือที่ฆ่านางและยังส่งคนมาทำร้ายนางอีกด้วย แย่จริงเห็นทีงานนี้ต้องจัดการเจ้าพวกนี้ก่อนแล้ว"
ลั่วอิงในร่างของเว่ยอิงเอื้อมมือไปหาสิ่งของที่จะป้องกันตัวได้ สุดท้ายนางจึงเอื้อมไปเจอปิ่นเงินที่ปักอยู่บนศีรษะ นางจึงกำมันเอาไว้แน่น รอพวกคนร้ายข้างนอกเข้ามาบนรถม้า เมื่อพวกมันเข้ามาและพบว่าในรถม้านั้นว่างเปล่า
“เฮ้ย แล้วคนล่ะ”
“อยู่นี่”
เว่ยอิ่งที่รอพวกมันอยู่ที่หลังคารถม้ากระโดดลงมาและถีบพวกมันคนหนึ่งออกไปจากตัวรถ ปิ่นเงินนั้นปักไปที่คอของโจรอีกคนจนเกือบมิด มันสิ้นใจทันทีนางดึงปิ่นออกมาจากคอและเดินออกไปตามหาอีกคนหนึ่งที่กำลังจะเดินกลับมาเมื่อเห็นเพื่อนมันกำลังแดดิ้นเฮือกสุดท้าย
“เจ้า..เจ้า..”
“อะไร เรียกใครวะ กล้ามากที่เข้ามาหาเรื่องตาย อย่าโทษกันเลยนะ”
โจรนั้นพอจะมีวรยุทธ์ต่อสู้กับนางเล็กน้อย เว่ยอิงหลบได้ทุกท่าอย่างชำนาญจากชาติที่แล้ว ทักษะการต่อสู้นี้เป็นเรื่องพื้นฐาน และนางเริ่มสวนกลับทั้งหมัดและเท้า
“เวรเอ้ย กระโปรงนี่เกะกะชะมัด ถีบลำบากชิ….หาย”
นางถกกระโปรงขึ้นและถอดสายคาดเอวมามัดเอาไว้และเริ่มจัดการโจรที่เหลืออีกสองคน พวกมันมากันทั้งหมดสามคน มือหนึ่งฟาดปิ่นไปที่ตาของโจรอย่างโหดเหี้ยม สายตาของนางเป็นสิ่งสุดท้ายที่มันได้มองเมื่อปิ่นนั้นเปลี่ยนจากกรีดที่หน้ามาปักที่คอหอยของมันจนทะลุ ขาถีบคืนไปที่คนข้างหลังจนคอหัก ตายคาที่
“ก็แค่นี้เอง กระจอกจริงๆ”
นางเดินกลับไปที่ม้า ตาเริ่มลายและสติเริ่มจะไม่อยู่กับตัว
“อะไรเนี่ย หน็อย วางยาปลูกเซ็กซ์ด้วยเหรอ โคตรโบราณเลยแต่ก็นะ ที่นี่มันยุคโบราณนี่หว่า นี่ น้องม้าเด็กดี นิ่งๆ นะ”
นางกระซิบบางอย่างกับม้าของโจรที่พวกมันขี่มา ราวกับม้านั้นฟังนางรู้เรื่อง มันพานางวิ่งเข้าไปในป่าลึกและเริ่มหาสิ่งที่นางต้องการ
“ในนิยายน้ำเน่าพวกนั้นเขาข้ามมิติมาไม่ได้ลำบากขนาดนี้ทำไมฉันข้ามมาชีวิตรันทดขนาดนี้วะ ชีวิตอย่างกะซินเดอเรล่าเลย โอย เด็กดี รีบเร็วเข้าข้าจะไม่ไหวแล้ว”
ม้ารับคำสั่งและเร่งความเร็ววิ่งเข้าไปจนลึกเมื่อพวกมันหยุดตรงหน้า นางก็พบสิ่งที่นางต้องการตามหา
“ไม่ทันแล้ว นี่เด็กดี เฝ้าด้วยนะ หากใครมาใกล้กัดเลยนะ โอเคมั้ย”
เว่ยอิงพูดกับม้าพร้อมกับเริ่มถอดชุดออกจนเหลือเพียงชุดด้านใน
“โห ชุดชั้นในโบราณนี่ปิดอะไรได้เนี่ย แทบไม่มิดเลยให้ตาย แล้วต้องปักให้มันคันเพื่อ….บ้าบอ โอย ไม่ไหวๆ ขอแช่น้ำก่อนก็แล้วกัน”
เว่ยอิงค่อยๆ เดินลงในสระน้ำเย็นตรงหน้าเพื่อทำสมาธิไล่พิษยาปลูกกำหนัดออกไปจากร่างกาย ร่างกายนางเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ มือไม้เริ่มสั่นปากเริ่มซีดและตัวเริ่มสั่น
“แย่แล้ว ยานี่มันแรงเกินไป ทำไมในนิยายเขามีตัวช่วยทีฉันไม่มีอะไรช่วยเลยวะ อยากได้ยาแก้พิษสักหน่อยมีมั้ย”
แสงสีฟ้าสว่างจ้าขึ้นตรงหน้านางทันที
“อะเมซซิ่ง มีตัวช่วยด้วย คือเลิศอยู่ให้อภัยแต่ภาษาที่พูดนี่คงต้องเปลี่ยน มีวุ้นเปลี่ยนภาษาเหมือนการ์ตูนมั้ยอ่ะ จะได้ไม่ต้องดัดจริต”
ทุกอย่างที่นางต้องการถูกวางที่มือของนางทั้งยาแก้พิษและอีกขวดน่าจะเป็นยาที่นางขอ
“เอาล่ะนะ กินยาก่อนทีนี้ ข้าขอรับรู้เรื่องราวของเจ้าโดยละเอียดหน่อยสิ จะได้ช่วยเจ้าได้ ช่วยตัวข้าเองด้วย”
เมื่อเว่ยอิงเริ่มกินยาเข้าไป เหมือนว่าร่างกายนางจะดีขึ้น ความทรงจำของหรงเว่ยอิงค่อยๆ ไหลเวียนเข้ามาในหัวของนาง เล่าตั้งแต่เริ่มสูญเสียมารดา พี่ชายสองคนเป็นแม่ทัพที่ออกรบด้านนอก พี่รองสิ้นในสนามรบ พี่ใหญ่กับบิดาอยู่ที่กองทัพอุดรด้วยกัน
ที่บ้านเหลือเพียงฮูหยินรองที่ทำตัวเป็นใหญ่กลั่นแกล้งนางสารพัด อีกทั้งน้องสาวที่มักจะเอาเปรียบนางและมักแกล้งนางให้อับอายต่อหน้าผู้คนทุกครั้งที่ออกงานข้างนอกจวนจนนางไม่อยากออกไปไหน ชื่อเสียงความซุ่มซ่ามและความน่าละอายของนางเล่าลือไปทั้งเมืองหลวง
“นี่มันชีวิตรันทดอะไรกันเนี่ย อะไรมันจะอดสูถึงเพียงนี้”
ชีวิตนางอดสูถึงที่สุดคือวันที่เข้าวังและหกล้มถูกเลือดสุนัขและมีคนมาช่วยนาง องค์ชายเก้าของนางหมั้นแต่นางปฏิเสธไป ใบหน้านั้นมองได้ไม่ชัดเจน คิดว่าความทรงจำของเจ้าของร่างเองก็คงเป็นเช่นนั้น นางไม่กล้าแม้แต่จะเปร่งเสียงพูดให้ดังๆ เสียด้วยซ้ำ
“รันทด รันทดโดยแท้ นี่นางอยู่มารอดได้ป่านนี้ก็เก่งแล้วนะนี่”
“แกร๊บ…”
เว่ยอิงมีสัมผัสที่ไวขึ้นหลังจากกินยาเข้าไป ดูเหมือนว่าพละกำลังจากชาติที่แล้วของนางเริ่มฟื้นขึ้นมาเต็มที่หลังจากได้กินยาและแช่น้ำเย็น นางรีบกระโดดขึ้นจากสระน้ำและร้องขอสิ่งใหม่
“ขอชุดใหม่สักชุด ไม่เอารุงรังลากพื้น เอาแบบเดินสะดวกๆ อ้อ เอาแบบทันสมัยหน่อย เดี๋ยวๆ สีต้องไม่ฉูดฉาดมากไป แล้วก็เอาสวยๆ แหะๆ”
หน้าจอสีฟ้าสว่างขึ้นอีกรอบพร้อมกับสิ่งที่นางต้องการวางที่พื้น และคำพูดบางอย่างให้นางได้ทันอ่าน
“เรื่องมากยิ่งนัก”