15. ได้แค่มอง
“จงเฟย เจ้ามาได้เช่นไร” จางหย่าเอ่ยถามสหาย
“ข้ามากับฮูหยินยามนี้อยู่บนรถม้า” เอ่ยกับอีกฝ่ายเบา ๆ เกรงเหล่าทหารจะได้ยิน เรื่องที่นางเป็นฮูหยินแม่ทัพ จงเฟยเองก็ไม่อยากเปิดเผยเช่นกัน
“หา! ฮู อื้อ” มือเรียวปิดปากสหายไว้ทันที เพราะเกรงว่าจะหลุดฐานะของนางออกมา
“ห้ามเรียก นางมาในฐานะบุรุษ” จงเฟยรีบบอก อีกฝ่ายจึงพยักหน้าให้ มือเรียวจึงคลายออก ทว่ายามนี้มีสายตาคมดุจ้องมาที่พวกเขาเสียแล้ว
“ท่านอ๋อง กระหม่อมจะพานายน้อยไปที่กระโจมก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ” จงเฟยกล่าวกับผู้ที่ยืนมองตนอยู่ ทว่า
“จัดให้อยู่ข้างกระโจมข้า ติดกันเลยยิ่งดี” ออกคำสั่งเสียงเข้ม ทำเอาองครักษ์หนุ่มถึงกับหน้าเสีย จะฝ่าฝืนก็ทำไม่ได้ คนผู้นี้เป็นรองอยู่ก็แค่ฮ่องเต้ ข้ารับใช้ตัวน้อย ๆ เช่นเขาไหนเลยจะกล้า ทำได้ก็แค่รับคำสั่งเท่านั้น
“พ่ะย่ะค่ะ” จงเฟยจูงม้าตามทหารไปที่พักทันที มีจางหย่าเดินตามไปเพื่อรอรับนายหญิงด้วย ยังดีที่มันอยู่ฝั่งเดียวกับแม่ทัพลู่อยู่ หนิงเหอจึงได้แวะตรวจอาการเขาก่อน ซึ่งยามนี้จินฟานรู้สึกตัวพอดี
“จงเฟยเจ้ามาได้อย่างไร แล้วคนผู้นี้ใครกัน?” ตงเล่อเอ่ยถามสหายที่ควรจะอยู่เมืองหลวงมากกว่า
“บาดเจ็บหนักเพียงนี้เชียว” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างกายของสามี ซึ่งมีบาดแผลแค่น้อยนิดที่เป็นรอยดาบ ทว่าบนร่างกายเขามันเขียวช้ำทั่วไปหมด
“ฮูหยินน้อย” จงเฟยคลายความสงสัยของสหาย และยามนี้เขาก็กำลังมองตามร่างของนางที่เดินไปนั่งบนเตียงไม้ไผ่ที่ทำขึ้นง่าย ๆ มีขนสัตว์ปูรองพอให้พื้นไม่แข็งจนเกินไป นางจับชีพจรผู้ที่นอนมองหน้าอยู่
“พิษช้ำใน” เอ่ยออกมาแผ่วเบา ก่อนจะหันมาหาองครักษ์ของตน “ข้าอยากได้เตาและภาชนะที่ต้มน้ำได้ จำต้องใช้ความร้อนละลายเลือดที่จับตัวอยู่” สั่งคนสนิทตนจบ นางก็หันมาหาคนของสามี
“เป็นมานานหรือยัง เขาถูกพิษไม่มีใครรู้เลยหรือ” ถามทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน ทั้งคู่ก็ได้แต่ส่ายหัว
“แย่จริง จะฝังเข็มก็คงไม่มีทางกระอักเลือดเป็นแน่ รีบไปหาเตาและหม้อมาสิ จะยืนบื้ออยู่ทำไม” เป็นคราแรกที่หนิงเหอต่อว่าคน
ทำเอาสองสหายต้องรีบออกไปจัดการหาสิ่งที่นางสั่ง เป็นจังหวะที่ชินอ๋องตรงมาเยี่ยมแม่ทัพหนุ่มพอดี จึงทันได้เห็นภาพที่หนิงเหอกำลังประคองจินฟานไว้แนบอก
นางป้อนยาใส่ปากให้แม่ทัพหนุ่มอย่างอ่อนโยน ไม่ต่างจากยามที่ทำแผลให้เขาเลย
“เจ้าดูแลคนเจ็บดีเช่นนี้ทุกคนสินะ โดยเฉพาะบุรุษรูปงาม” ถ้อยคำประชดดังขึ้นมา ทำเอาคนตัวเล็กตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
มิหนำซ้ำยังส่งสายตาตัดพ้อมาให้นางอีก ทว่าเขาเห็นเช่นนี้ก็ดี จะได้ตัดปัญหาที่ชินอ๋องเอ่ยกับนางบนรถม้าไปเสียเลย แม้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่ลมปากหรืออารมณ์ชั่ววูบ
“ท่านแม่ทัพคือสามีหม่อมฉัน ใกล้ชิดกันมันก็เป็นเรื่องปกติอีกอย่างเขาก็ถูกพิษ หม่อมฉันซึ่งเป็นหมอก็ต้องรีบรักษาเป็นธรรมดา ต่อให้เป็นคนอื่นก็รีบเช่นกันเพคะ” ตอบกลับทันที พร้อมกับค่อย ๆ วางสามีให้นอนลงตามเดิม คนเจ็บจึงคว้าข้อมือนางไว้
“นะ หนิงเหอ” เสียงแหบพร่าเปล่งออกมา เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร คนถูกเรียกนึกขำในใจ
ตั้งแต่แต่งงานกันมา นางคิดว่าคนบนเตียงไม่รู้ชื่อเสียด้วยซ้ำ ทว่าวันนี้เขากลับเอ่ยเรียกได้อย่างถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันเสียจริงเชียว
“ยาก็แค่บรรเทาอาการ ต้องใช้ความร้อนเพื่อสลายพิษ ร้อนหน่อยแต่มันสามารถช่วยได้” บอกพร้อมกับลูบมือเขาเบา ๆ ภาพตรงหน้าทำเอาชินอ๋องถึงกับกำหมัด แก้มสากก็ขึ้นเป็นสันนูน ทว่าเขาก็ทำสิ่งใดไม่ได้แล้วจริง ๆ
“ได้ยินว่าเจ้าเจ็บหนัก แต่ลู่ฮูหยินมาดูแลรักษาเจ้าเองเช่นนี้ อีกไม่นานก็หายกระมัง เช่นนั้นข้าจะไปวางแผนการรบ เจ้าก็พักรักษาให้หายดีเถอะ เรื่องอื่นข้าจะจัดการเอง” เอ่ยกับคนบนเตียง ทว่าหางตาเขาก็มองมายังร่างเล็กที่นั่งไม่ยอมออกห่างสามีเลย ทำให้ใจแกร่งยิ่งวูบไหวกว่าเดิม
“ทะ…ท่านอ๋อง กะ…กระหม่อม ขออภัย..ทะ” คนเจ็บหมายจะเอ่ยกับชินอ๋อง ทว่าแม้แต่แรงจะเปล่งเสียงยังไม่มี จึงถูกซีหลางตำหนิทันที
“พอเถอะ เจ็บหนักเพียงนี้แล้ว อย่าเอ่ยอันใดอีกเลย รีบรักษาตัวให้หายเถอะ ประเดี๋ยวฮูหยินเจ้าจะเสียใจร้องไห้หากเจ้าเจ็บหนักมากกว่านี้” ยังมิวายประชดสตรีที่ทำเขาเสียศูนย์ และนางก็ไม่ยอมเงยหน้ามองเขาเลย
“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะที่เข้าใจหม่อมฉัน ไม่ได้พบสามีมาเกือบสามปีแล้ว เห็นเขาเป็นเช่นนี้หม่อมฉันปวดใจยิ่งนัก” กล่าวกับอีกฝ่ายโดยไม่มองหน้า ซึ่งคนฟังได้ยินแค่นั้นก็เดินออกไปทันที ยามนี้เองที่หนิงเหอปล่อยมือจากคนเจ็บ แล้วลุกออกจากเตียงเดินไปรินน้ำดื่ม
จินฟานได้แต่มองตามคนตัวเล็ก ริมฝีปากอันแห้งผาดมีรอยแตก เผยยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยเรียกนาง
“นะ หนิงเหอ” มือไร้แรงพยายามยกขึ้น ร่างเล็กจึงเดินมาหาพร้อมกับถ้วยน้ำ นางนั่งลงแล้วค่อย ๆ ป้อนให้เขาดื่ม เป็นจังหวะที่เหล่าคนสนิทหาของมาได้ จึงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ทว่าจงเฟยกลับเดินดุ่มเข้ามา
“ได้ของครบแล้วขอรับ” บอกพร้อมกับวางเตาและกะทะที่พอหาได้ หนิงเหอหันกลับมามองเขา
“ขอบคุณพี่เฟย ข้าขอผ้ากับอ่างน้ำด้วยนะ” บอกก่อนจะหันมาตรวจอุปกรณ์ ท่าทางคล่องแคล่วยังอยู่ในสายตาของคนบนเตียง และยังเลยผ่านมายังผู้ติดตามของฮูหยินตน ที่ดูรู้งานดีรวมถึงท่าทีสนิทสนมนี้ด้วย
หนิงเหอไม่ได้ใส่ใจสายตาของสามี นางรู้ว่าเขากำลังจับจ้องทุกการกระทำ ยามนี้สิ่งสำคัญคือต้องรักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้ เพื่อไม่ให้ท่านโหวและไท่ฮูหยินเสียใจ
ผ่านไปหนึ่งจิบชา [=5นาที] ร่างของจินฟานก็เต็มไปด้วยไอร้อน เมื่อผ้าที่อยู่บนกะทะถูกนำมาพักไว้เพียงครู่ ก็เอามาวางบนตัวแม่ทัพหนุ่ม ยามนี้ร่างกายเขาแดงไปหมด เพราะฮูหยินไม่ปล่อยให้มีที่ว่างเลย
“อดทนหน่อยนะเจ้าคะ” บอกกับสามีซึ่งยามนี้มีเพียงผ้าที่ปิดบังส่วนสงวนไว้เล็กน้อย
ทว่าหนิงเหอก็กระดากอายเกินจะสัมผัสด้านล่าง นางให้จงเฟยเป็นผู้จัดการเอาผ้าโปะแทนตน
ผ่านไปหนึ่งเค่อ [15นาที] ทั้งร่างของแม่ทัพลู่ ก็แดงเถือกดูน่ากลัว หนิงเหอจึงสั่งให้จับคนเจ็บลุกนั่ง สองสหายรีบเข้ามาทันที ด้านจงเฟยรีบดึงผ้ามาคลุมส่วนล่างไว้ สตรีเพียงหนึ่งเดียวจึงยิ้มให้เขาเป็นการขอบคุณ
เมื่อจินฟานถูกจับนั่งเรียบร้อย หนิงเหอก็เริ่มฝังเข็มให้สามี ไม่นานนักเขาก็กระอักเลือดออกมา และก็อ่อนแรงลงทันที ทั้งสามจึงหันมาหานายหญิงของพวกเขา
“จากนี้ดื่มแค่ยาก็พอ เราคงต้องหาที่นอนให้ท่านแม่ทัพใหม่ พี่สองคนจัดการที่เหลือด้วยแล้วกัน ข้ายังมีธุระอย่างอื่นที่ต้องทำอีก” เอ่ยแล้วก็ยืนขึ้น มองร่างสามีที่ถูกวางให้นอนลง ยามนี้เขาหมดสติไปแล้ว
“ท่านแม่ทัพปลอดภัยแล้วใช้หรือไม่ฮูหยินน้อย” ตงเล่อเอ่ยถามนายหญิง เพราะเกรงผู้เป็นนายจะอาการหนัก
“อืม พี่จัดการตามที่ข้าบอกเถอะ คิดว่าไม่นานนักเขาก็น่าจะฟื้น ไม่ก็คืนนี้ เอาไว้ข้าเสร็จธุระจะกลับมาดูอีกที” สั่งทั้งคู่ที่ดูไม่ค่อยแน่ใจกับการรักษาของนางนัก
“ฮูหยินไม่ได้มาที่นี่เพราะท่านแม่ทัพหรือขอรับ”
“ไยข้าต้องมาเพราะเขาด้วยล่ะ เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าข้ากับแม่ทัพของเจ้าไม่ได้ลงรอยกัน ที่ข้าช่วยก็เพราะเห็นแก่ท่านพ่อที่เมตตาให้ที่อยู่ข้า ถึงกำหนดเมื่อใด ข้ากับเขาก็ไม่ข้องเกี่ยวกันอีก เพราะฉะนั้นเรื่องอื่น ข้าคงไม่ต้องรายงานพวกเจ้ากระมัง” เพื่อตัดปัญหาไม่ให้เข้าใจผิด
คิดว่านางมาที่นี่เพราะคนบนเตียง หนิงเหอจึงเอ่ยดักทางไว้ก่อน ภายหน้าแม่ทัพหนุ่มจะได้ไม่คิดว่านางอยากมาทำดีเพื่อเอาใจเขา ซึ่งมันไม่ใช่เช่นนั้นเลย
#ลงเรือลำไหน เลือกกันเอาเด้อ 555