เสียงหัวใจ
"ก็เพราะเจ้าขันทีผู้นี้แหละ"บ่นงึมงำ
หมอหลวง ขมวดคิ้วเพราะเหมือนม่อเฉวียนอยากจะพูดกับหมอหลวงคนเดียวมากกว่าจะให้ผู้อื่นได้ยิน
"ท่านหมอ"ไทเฮาแสดงสีหน้ากังวล
"อาการของฝ่าบาท ยังพอจะแก้ไขได้ ข้าน้อย จะใช้เวลาต่อจากนี้ดูแลและตรงฃวจรักษาพระอาการประชวรอย่างลฃะเอียดไมทเฮาอย่าทรงกังวลเพียงแต่ตอนนี้จะต้องเร่งตรวจดูพระอาการประชวรเสียก่อน"ประสานมือตรงหน้าไทเฮา
"ฉะนั้นท่านหมอดูแลฝ่าบาท ข้าไม่กวนใจแล้ว เฉวียนเอ่อร์แม่จะส่งบุตรีขุนนางคนแรกมาในอีกสองวัน"ม่อเฉวียนยิ้มน้อยๆ
ไทเฮาจากไปพร้อมกับความกังวลใจ
"มะ ท่านหมอข้าพร้อมแล้ว"
"ฝ่าบาทคงต้องถวายยาคลายความกังวลบำรุงร่างกายให้หลับสบาย"
"ท่านหมอข้ายังไม่ได้บอกท่านหมอว่าข้ามีอาการเช่นไร"
หมอหลวงถอนหายใจ
"ฝ่าบาท ไม่นิ่งซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการของคนที่กำลังสับสนและวิตกกังวล ตอนนี้ฝ่าบาทมีความรู้สึกท้อแท้และไม่แน่ใจบางอย่างบ้างไหม"
ม่อเฉวียนพยักหน้า
"น่านอย่างไรเล่า ฝ่าบาทกำลังมีเรื่องกังวลใจอย่างยิ่ง ฝ่าบาทบอกข้าน้อยมาเถิดว่าฝ่าบาทกำลังกังวลใจเรื่องไร รับรองว่าคุยกับข้าน้อยแล้วจะต้องหายกังวลแน่นอน เมื่อเรื่องอะไรก็เล่าให่ข้าน้อยฟังได้บางทีสองหัวอาจดีกว่าหัวเดียว"นับว่าท่านหมอเข้าใจพูดในสิ่งที่อยากฟังม่น้อย
ม่อเฉวียนยิ้มแห้งๆ หมอหลวงมีสีหน้ามั่นใจที่สุด
"เล่ามาเถอะฝ่าบาท เราจะได้หาทางแก้ไข"
ม่อเฉวียนถอนหายใจ
"ข้า กำลังคิดว่าข้าจะตัดแขนเสื้อตัวเองแน่ๆ หากแก้ไขช้ากว่านี้"
"ฝ่าบาท สิ่งนี้ไม่ผิดการที่เราเป็นตัวเราไม่ผิดแต่มันผิดตรงที่ฝ่าบาทจะต้องมีฮองเฮาสนมนางในเพื่อสืบสันติวงค์"พูดไปตามเนื้อผ้าเสียมากกว่าจะตั้งใจ
“ท่านหมอสัญญาก่อนว่าาจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใครไม่อย่างนั้นลานประหารที่โหดเหี้ยมนั่นเป็นของท่านแล้ว”
“ฝ่าบาทข้าน้อยรับไม่แพร่งพราย อย่างแน่นอน”ยิ้มแห้งๆ
"ข้าอยากจะให้ท่านหมอรักษาอาการของข้า เพราะข้าคิดว่าข้าคิดไปเองหรืออาจจะเป็นเพราะไม่พบหญิงงามถูกใจและเผอิญว่าเจ้าขันทีนั่นมีใบหน้าและกิริยาถูกใจข้า ทำให้ข้ายิ้มได้ทำให้ข้าสนุกข้าเลยอยากอยู่ใกล้อยากจะ...อย่าพูดเลยเอาเป็นว่าข้าคิดว่าข้าแค่คิดไปเอง"พูดรัวเร็ว
"ขันทีผู้นั้น"ทำสีหน้าครุ่งคิดขันทีคนไหน หว่า
"ขันทีข้างกายคนใหม่ตั้งแต่ขันทีน้อยผู้นี้เข้ามา ข้าก็มักจะคิดถึงแต่ใบหน้าของเขาไม่ว่ายามหลับยามตื่น อยากอยู่ใกล้ อยากฟังเสียง อยากจะ...เฮ้อ แต่กับคนอื่น ข้าไม่ได้รู้สึกอะไรหรือแม้แต่นางกำนัลข้าก็ไม่อยากจะชายตามองด้วยซ้ำไป"
"ฝ่าบาท แน่แล้วนี่คือความคิดไปเองของฝ่าบาท หากไม่เคยชอบบุรุษอื่นมาก่อนหากเป็นเพราะฝ่าบาทเป็นแบบนี้ มาตั้งแต่กำเนิดฝ่าบาทจะต้องเคยถูกใจบุรุษอื่นมาบ้าง"
ม่อเฉวียนพยักหน้าค่อนข้างจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านหมอพูด
"ข้าต้องทำอย่างไรปลดขันทีข้างกายออกจากตำแหน่งเลยดีไหม"
"ฝ่าบาท ห้ามปลดขันทีคนนี้เด็ดขาดนี่คือวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด หนามยอกต้องเอาหนามบ่งฝ่าบาทเคยได้ยินไหมว่าต้องเอาชนะความกลัวด้วยความกลัว ฝ่าบาทยิ่งเข้าใกล้ขันทีน้อยคนนั้นแล้วเอาชนะใจตัวเองให้ได้พยายามฝืนใจนั่นแหละคือทางออกที่ดีที่สุด"
"แล้วนานแค่ไหนข้าถึงจะวางใจได้"
"ก็จนกว่าฝ่าบาทจะห้ามใจตัวเองได้ ไม่รู้สึกอะไรกับขันทีหน้าหวานคนนั้น"
ม่อเฉวียนยิ้มผ่อนลมหายใจออกจากปาก
"ขอบคุณท่านหมอ ข้าค่อยเบาใจหน่อย"หากผ่านตรงนี้มาได้จึงจะถือว่าสำเร้จหากวันไหนที่เขาไม่อยากเห้นนห้าเจียเฟยแล้วไม่อยากเข้าใกล้แล้วนะล่ะจึงถือว่าดี
"ข้าน้อยจะจัดยาบำรุงร่างกาย ฝ่าบาทสุขภาพดีแข็งแรงจึงจะบงการจิตใจตัวเองให้หักห้ามใจได้"
หมอหลวงจากไปทิ้งเทียบยาบำรุงไว้ให้
เอาล่ะคงต้องเริ่มจัดการได้แล้วสินะ ยิ้มมุมปากเขาจะได้หลุดพ้นจากความรู้สึกบ้าๆนี่เสียที
"เสี่ยวเฟย เสี่ยวเฟย มานี่สิ"
เจียเฟยที่คอยเงี่ยหูฟังอยู่แล้ววิ่งแน่บเข้ามา ยืนยิ้มแผล่หน้าม่อเฉวียนที่ไม่พูดพล่ามทำเพลงคว้าเอวเล็กดึงเข้าหาตัว เจียเฟยเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาดวงตากลมโต มีแววตาสงสัยว่าม่อเฉวียนกำลังจะทำอะไร ม่อเฉวียนจ้องริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อหักห้ามใจ แต่ใบหน้าใสในอ้อมแขน ลอยเด่นตรงหน้ายิ่งสายตาขี้สงสัยนั้น ทำให้เขาอยากจะกดริมฝีปากตัวเองลงบนเปลือกตาปิดมันเสียไม่ให้ดวงตาคู่นั้นล่อหลอกเขาให้หลงใหล ม่อเฉวียนสะบัดหัวไปมา ไอ้เจ้าขันทีผู้นี้ก็ทำตาปริบๆไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย
เดินหันหลังไปยืนเอามือไพล่หลังที่หน้าต่างมองออกไปไกลสุดไกลเพื่อจะได้ข่มความรู้สึกของตัวเอง
“ฝะฝะฝ่าบาท มันคืออะไรฝ่าบาทตั้งใจทำอะไรหรือว่ากำลังเล่นสนุกอะไรอยู่”ถามเพราะไม่แน่ใจกลัวว่าตัวเองไปทำอะไรผิดมาหรือทำอะไรที่ไม่ถุกใจม่อเฉวียนอีกหรือเปล่า
"เจ้ารู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ใกล้ข้าแบบนี้"
"ไม่รู้สึก อะไร"ส่ายหน้าไปมาแววตาใสซื่อ
ม่อเฉวียนคว้าร่างบางโน้มตัวลงกดริมฝีปากกับปากอิ่มอย่างดูดดื่ม
“อือออ”ความหวานจากริมฝีปากทำเอาม่อเฉวียนรู้สึกเหมือนกำลังปลดปล่อยบางอย่างที่อัดอั้นมานาน จุบหวานซอกซอนลิ้นนุ่มกระหวัดรัดรึงจนเจียเฟยขนลุกซู่ร่างบางเซแซ่ดๆดีที่มีอ้อมกอดของม่อเฉวียนประคองไว้
"ฝะฝะฝ่าบาท เสี่ยวเฟยเป็นบุรุษนะ"
คราวนี้เจียเฟยผลักเต็มแรงก่อนจะถอยห่างจากม่อเฉวียน
"ข้าแค่ ทดสอบดูว่าตัวข้าจะ รู้สึกอย่างไรในเมื่อเจ้าไม่รู้สึกอะไรก็ให้ข้าทดสอบดูหน่อย ไม่ได้หรือ”
เจียเฟยหน้าแดงระเรื่อแค่ทดสอบดูอย่างนั้นหรือ ฝืนยิ้มทั้งที่ใจสั่น
“อย่าบอกนะว่า ฝ่าบาทอยากจะตัดแขนเสื้อตัวเองเหมือนกัน ไม่เหมาะ ไม่เหมาะ รู้ทั้งรู้ว่า เจียเฟยเป็นบุรุษ ฝ่าบาทยังกล้าจุมพิต แบบนี้ไม่พ้นต้องตัดแขนเสื้อตัวเองแน่ๆ “