บทย่อ
ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีข้างกายฮ่องเต้หนุ่มหล่อ ที่มีเสียงเล่าขานว่าไม่ยอมแต่งเมียเพราะ นิยมบุรุษด้วยกัน
ผู้ถูกเลือก
เจียเฟย สวมอาภรณ์ชุดขันทีสวมหมวกขันทีเปิดเผยใบหน้าที่จะว่าหล่อเหลา หรืออ่อนหวานก็ไม่อาจแยกแยะในเมื่อคิ้วดกวาดยาวบนใบหน้า ริมฝีปากรูปกระจับหยักสวย กับดวงตาคมพอสวมหมวกขันทีแล้วไม่อาจแยกแยะว่าหญิงหรือชาย อกนุ่มถูกรัดด้วยผ้าฝ้ายดิบจนแบนราบ
เอวกิ่วไม่ได้ดึงสายรัดเอวให้ตึงแน่นยังปล่อยให้ชายอาภรณ์ทิ้งตัวลงมาคลุมทับกางเกงสีเดียวกันนั้น ไม่บอกใครจะรู้ว่าเจียเฟยคือหญิงอายุ18ที่ลักลอบเข้ามาในวังหลวงในตำแหน่งขันทีฝึกหัด แต่ละคนใบหน้าหมดจด เมื่อสวมอาภรณ์ขันทีล้วนมองไม่ต่างกัน เจียเฟยจะทำอย่างไรได้ในเมื่อครอบครัวทุกข์เข็ญ อดมื้อกินมื้อ ขันทีในวังหลวงเองก็ตุ้งติ้งไม่ต่างกันกับหญิงงาม เช่นนั้นปรับท่าทีเสียหน่อยก็พอจะ ถูไถไปได้
“ขันทีฝึกหัดทั้งหลายยยย วันนี้ฝ่าบาทจะทรงคัดเลือกขันทีคนใหม่หลังจากที่กงกงที่ชรายิ่งไม่อาจรับใช้เบื้องยุคลบาทได้อีกแล้ว พวกเจ้าโชคดีเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมมีโอกาสไต่เต้าได้รับตำแหน่งพิเศษ”
“หวังว่าคนที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่ให้ดี เพราะนั่นหมายถึงความสุขสบายชั่วชีวิตของเจ้า และวันนี้พวกเจ้าอาจได้คารวะข้าเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องพึ่งพาพวกเจ้า"
เจียเฟยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ได้เป็นขันทีข้างกายฝ่าบาทนั่นหมายถึงเงินทองมากมายกองตรงหน้า แต่ก็อดที่จะหันมองข้างหลังเสียไม่ได้รู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ จะซวยสักวันไหมเล่า แค่เพียงทำให้ถูกใจฝ่าบาทยังยาก แต่เจียเฟยกับแอบลักลอบเข้ามาผ่านกระบวนการต่างๆ จนได้เข้ามาฝึกหัดในหอฝึกหัดขันที หวั่นว่าจะถูกจับได้
"ฮ่องเต้ เสด็จจจจจจจจ"
ร่างสูงที่สูงเกินหน้าเกินตาคนที่เดินมาด้วยกันใบหน้าเจิดจรัสเปล่งประกาย ราวเทพบนสวรรค์ ของม่อเฉวียนท่วงท่ายามก้าวเดินดังแม่ทัพผู้เกรียงไกร นางกำนัลที่ย่อกายลงถวายพระพร ต่างซุบซิบ
“วันนี้ฝ่าบาทอารมณ์ฉุนเฉียวจะคัดขันที คงไม่ใครก็ใครสักคนที่จะต้องโดน ..เล่นงาน” เจียเฟยลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก
"ลุกขึ้น"
น้ำเสียงเรียบเฉยทว่าทรงพลังไม่มีการทอดเสียงอ่อนโยนในปลายเสียง ครอะไรจะกระด้างเหมือนผ้าที่ไม่ได้ซักป่านนั้น
เสียงสะบัดอาภรณ์ลุกพรึ่บดังขึ้นพร้อมๆ กัน
เจียเฟยเหลือบตามองลอดมือสองข้างของตัวเองที่ประสานกันตรงหน้า ร่างสุงชะลูดใบหน้าขาวสะอาดหล่อเหลาที่สุดในเจ้ดคราบสมุทรที่ได้ยินมาไม่เกินจริงแม้แต่น้อย
"ฝ่าบาทเพฮะ นี่คือเหล่าขันทีในหอฝึกหัดขันทีทั้งหมดรอให้ฝ่าบาทคัดสรรเพียงหนึ่งรับใช้ใกล้ชิด พวกเขาผ่านการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญซ่ำซองอีกทั้งยังดื่มน้ำสาบานว่าจะภักดีต่อฮ่องเต้และราชสำนักตลอดไป"
ผายมือยังขันทีที่ยังหนุ่มแน่นหลายสิบคนที่ประสานมือก้มหน้านิ่งราวกับรูปปั้น
สายตา คมกริบใบหน้าไม่มีรอยยิ้มเพียงนิด กวาดตามองขันที 20กว่านายหนึ่งนางคือเจียเฟยข้างหน้าก่อนจะหยุดตรงหน้าเจียเฟย
“เอามือลง เงยหน้า”เจียเฟยกลืนน้ำลายที่ไม่เหลือให้กลืน
เจียเฟยลดมือลงช้าๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะจะโชคดีใช่ไหมเป้นเจียเฟยที่จะโชคดีได้รับใช้ข้างกายใช่ไหม
“ข้าบอกให้เอามือลง”
ตวาดลั่น เจียเฟยรีบเอามือลงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าหวานที่ม่อเฉวียนเห็นทำเอาคิ้วคมของเขาขมวดเข้าหากัน เจียเฟยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“กงกง”
เรียกขันทีข้างกายเข้ามากระซิบเบาๆ
“นำขันทีฝึกหัดผู้นี้ ไปตรวจร่างกายยยยยยย”
เสียงขันทีข้างกายคนเก่าตะโกนดังๆ
เจียเฟยใจหล่นลงไปที่ตาตุ่มคิดถึงลำคอของตนเองที่พาดอยู่บนแท่นประหารหัวหมา อะไรจะดวงดีกว่าคนออื่นเขาแท้ มาวันนี้กับเอาหัวไปพาดไว้บนลานประหารคิดเสียใจที่ไม่น่าปลอมตัวเข้ามาทำเรื่องยิ่งใหญ่เช่นการหลอกลวงเบื้องสูง
“ไทเฮาเสด็จจจจจจ”
ร่างท้วมของไทเฮาก้าวเข้ามาโดยมีนางกำนัลพยุงมาถึงสองคน ม่อเฉวียนยิ้มสดใส
“เสด็จแม่มาถึงนี่”
น้ำเสียงออดอ้อน เจียเฟยมองรอยยิ้ม สดใสนั้นตาไม่กะพริบ
“ตรวจร่างกาย จะให้ยุ่งยากทำไม”
“เสด็จแม่ ใบหน้างดงาม อาจมิใช่ขันทีอาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น”
ไทเฮาเชยคางมนขึ้น เอียงหน้าเจียเฟยไปมาซ้ายขวา ยิ้มอ่อนโยน
“ ขันทีที่มีท่าทีเช่นนี้ มีหนึ่งเท่ากับสอง รับใช้ใกล้ชิดแล้วยังสามารถทำงานเรียบร้อยหมดจดเหมือนนางกำนัล เพราะพวกเขามีจิตใจเป็นหญิงแต่กำเนิด งานบางอย่างนางกำนัลบกพร่องงานบางอย่างขันทีละเลย มีคนแบบขันทีน้อยผู้นี้จึงนับว่าโชคสองชั้นเป็นทางนางกำนัลและขันที หากเฉวียนเอ่อร์ไม่รับ แม่เลือกไว้ข้างกายเอง”ไทเฮาพูดยิ้มๆเจียเฟยก้มหน้าลอบยิ้ม
“ลูกรับไว้เอง”พูดสั้นๆ