ขันทีคนใหม่
ก้าวเดินจากไปเจียเฟยยืนนิ่งหูอือตาลาย หวยออกที่เจียเฟยอีกแล้วหรือ
“ตามไปสิ ตามฮ่องเต้ไป”
เสียงไทเฮากระซิบบอกเบาๆ เจียเฟยผ่อนลมหายใจออกจากปาก ด้วยความโล่งอกดึงชายเสื้อที่รุ่มร่ามวิ่งตามขันทีชราข้างกายม่อเฉวียนไปมองตาแผ่นหลัง ของม่อเฉวียนต่อไปนี้ จะต้องเฝ้ามองแผ่นหลังนั้นไม่ให้คาดสายตา เขาอยุ่ที่ไหนเจียเฟยต้องอยุ่ที่นั่น ตามที่ขันทีฝึกหัดสั่งสอนมาตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมานี้
“กงกงหมดหน้าที่ท่านแล้ว ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมายี่สิบสองปี”ราวกับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในการกล่าวลาขันทีอาวุโสผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดมาตลอด
ขันทีชราปาดน้ำตา ปอยๆ
ยี่สิบสองปีกับใบหน้าหล่อเหลา อีกทั้งยังดูอ่อนกว่าวัย เจียเฟยยกท่อนแขนตัวเองขึ้นมาดูผิวคล้ำแดดกับมือหยาบกระด้าง เจียเฟยเป้นหญิงแท้ๆยังไม่ขาวสะอาดเรียบเนียนเหมือนผิวกายของม่อเฉวียน เทียบไม่ติดกันเลยทีเดียว
“เจ้าชื่อแซ่ว่าอย่างไร”ขันทีอาวุโสถามขึ้นเบาๆทำความรู้จักกันไว้ ในเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสิ่งเดียวที่อยากทำคือการสั่งเสียขันทีหนุ่มน้อยให้ภักดีต่อม่อเฉวียนที่ขันทีชราดูแลมาตลอด
“แซ่เจีย นามว่าเฟย”
ม่อเฉวียน เอามือไพล่หลัง มองออกนอกหน้าต่างไม่สนใจว่ากงกงจะพูดอะไรกับเจียเฟย
“อาเฟย ไม่สิเสี่ยวเฟย เจ้าต้องดูแลฝ่าบาทให้ดี ฝ่าบาทนิยมนอนตื่นแต่เช้า จิบชาอุ่นๆ และเสวยอาหารที่รสไม่จัดนัก” เจียเฟยประสานมือก้มหน้านิ่งน้อมรับคำสั่งสอนจากผู้ที่ได้ชื่อว่ารุ้ใจนายคนใหม่ของเจียฟยที่สุด
“ยี่สิบสองปีข้านอนข้างๆ นั่น”
ชี้มือไปที่ผนังห้อง
เจียเฟยกระแอมเบาๆ ปรับเสียงให้ทุ้ม
“ขอรับ” ม่อเฉวียนหันขวับกลับมาทันที
“พูดใหม่สิ”น้ำเสียงกระตุก
“ขะขะขอรับ” ม่อเฉวียนนิ่ง
“ผ่านการฝึกหัดขันทีมาแล้ว จะต้องทำงานที่รับผิดชอบได้ดี เสี่ยวเฟยข้าฝากฝ่าบาทไว้กับเจ้า ต่อไปไม่ว่ายามหลับยามตื่นจะต้องมีฝ่าบาทในสายตา ข้าไม่อยากจากไปความจริงอยากรับใช้ฝ่าบาทจนตายทว่าแข้งขาข้าที่ไม่อาวิ่งตามฝ่าบาทได้อีกต่อปแล้วสายตาข้าพร่ามัวเกินกว่าจะระวังภัย เจ้าต่อไปต้องตั้งใจให้มาก” เจียเฟยยิ้มแหย๋ๆ
“หรูหราน ถวายพระพรฝ่าบาท”นางกำนัลร่างเล็กย่อกายลงตรงหน้า
“อืมหรูหราน ดูแลขันทีคนใหม่ ช่วยข้าย้ายข้าวของเข้ามาในห้องด้านข้าง”
เจียเฟยยิ้ม ให้กับหรูหรานที่เดินนำออกไป
กงกงประสานมือ ม่อเฉวียนเดินกลับไปที่โต๊ะยกหีบไม้ที่ภายในมีทองหลายพันชั่ง ยกวางที่อ้อมแขนของขันทีชรา
“ฝะฝ่าบาท”
“ท่านดูแลข้ามาตลอดมันน้อยไปด้วยซ้ำ”ขันทีชราน้ำตาซึม
“ท่านไปเสียแล้ว เจ้าขันทีหนุ่มนั่นจะได้เรื่องไหมข้าก็ไม่อาจคาดเดา แต่ท่านก้ควรพักผ่อนจวนขันทีที่ข้าให้เขาสร้างให้กับกงกงหวังว่าจะอยู่สบาย รับใช้ข้ามาตลอดต่อไปให้อยุ่สบายเสียทีข้าจัดหญิงรับใช้ให้กงกงสองคน หากมีสิ่งใดขาดตกต้องรีบบอกข้า” เจียเฟยก้มหน้ายิ้ม ยิ่งภักดียิ่งได้ใจเอ้อต่อไปจะต้องตั้งใจดูแลฝ่าบาทอย่างน้อยพอต้องจากกันหวังว่าฝ่าบาทจะตอบแทนเจียเฟยเหมือนที่ดูแลเฉินกงขันทีชราผู้นี้ก็พอ
“ฝ่าบาทความจริงเฉินกงก็ไม่เห็นด้วยที่จะนำขันทีร่างอ้อนแอ้นนั่นมาข้างกาย”เจียเฟยไม่อยู่จึงกล้าพูด
“ทำไมกัน กลัวว่าข้าจะทำอย่างเรื่องเล่าเกินจริงอย่างนั้นหรือ”
ยิ้มน้อยๆหลุบตามองพื้นขนตางอนงามราวกับอิสตรี
“นั่นไม่สำคัญเท่ายิ่งโหมกระพือเรื่องเล่าเหล่านั้นให้เกินจริง ฝ่าบาทคงต้องคอยระวังเรื่องเหล่านั้นจะทำให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท”
“กงกงวางใจ เพียงไม่กี่วันบางทีข้าอาจเปลี่ยนตัวขันที เพราะไม่เห็นว่าขันทีหนุ่มนั่นจะได้เรื่องได้ราวอะไร เพียงแค่ไม่อยากขัดพระราชปรารภของไทเฮาก็เท่านั้น” สีหน้าเรียบเฉย
“เช่นนั้นเฉินกงก็วางใจ จะเปลี่ยนหรือไม่นั่นก็คือการตัดสินใจของฝ่าบาทเพียงผู้เดียว ข้าน้อยหวังว่าฝ่าบาทจะตัดสินใจไม่ผิดพลาด เฉินกงทูลลา”
หอบเอาหีบทองคำออกไป
ม่อเฉวียนฮ่องเต้นั่งลงวางหมากลงไปบนกระดานเดินหมากเพียงลำพังสีหน้าครุ่นคิด
เสียงท้องร้องจ๊อกๆ ยังไม่ได้ เสวยยามเที่ยง
“เจ้าขันทีคนใหม่ ลืมเวลาเสวยของข้า”
“เสี่ยวเฟย เสี่ยวเฟย”เงียบไร้สรรพเสียง