เป็นข้า
“ออกไปยืนห่างๆ ไปไกลๆ ”เจียเฟยขยับออกเพียงนิด
“ไปอีก”ขยับไปอีกนิด
“ไปอีก ข้าบอกให้ไปห่างๆ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า”
เจียเฟยขยับไปยืนข้างประตูไปข้างประตูหันข้างเหลือบตามอง ม่อเฉวียน
“ ห่างแค่นี้พอไหม”
“หุบปาก”
ม่อเฉวียนส่งเสียงดังๆ เจียเฟยรีบหันหน้าเข้าไปหาประตูหันหลังให้ม่อเฉวียนในทันที
ม่อเฉวียนถอนหายใจยาว รอยยิ้มเมื่อครู่ทำเอาเขาเกือบเผลอยิ้มตาม นี่เขาเป็นอะไรไป
“เจ้าขันทีมานี่หน่อย” เจียเฟยวิ่งพรวดเข้ามาชนเข้ากับร่างสูงของม่อเฉวียนเต็มเปา
“ซุ่มซ่าม”คว้าแขนเล้กแต่พอนึกได้ก็ปล่อยให้เจียเฟยล้มลงกับพื้นก้มจ้ำเบ้าแต่เจียเฟยก็ยังลุกขึ้นยืนยิ้ม อยู่ตรงหน้า
“ฝะฝะฝ่าบาทมีเรื่องใดให้เสี่ยวเฟยรับใช้ดูแลปกป้องและ ช่วยเหลือ”ม่อเฉวียนถอนหายใจ เจ้านี่พูดมากเสียจริง
“นอนที่นั่นนอนตรงนั้นเหมือนที่เฉินกงเคยนอน”ชี้มือไปที่แท่นนอนอีกอันที่ต่ำกว่า ข้างข้างผนังห้องกว้าง
“ได้ขอรับ”
“ไปขนเอาเครื่องนอนของเจ้ามาเจ้าขันที”
ไม่ต้องบอกหรอกขอรับเรื่องนั้นเจียเฟยจะต้องไปเอาเครื่องนอนมาแน่เพราะฝ่าบาทคงไม่มีน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นยอมมอบเครื่องนอนอันสวยงามและหอมกรุ่นของฝ่าบาทให้กับเสี่ยวเฟยแน่ๆ”
“เจ้านี่ รีบไปหัดสงบคำเสียบ้าง”
เจียเฟยวิ่งแน่บ
“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทเสี่ยวเฟยมาแล้ว”ม่อเฉวียนขมวดคิ้วคม
“มาแล้วก็ไปนอน” คลี่ผ้าห่มห่มคลุมร่างบางแหมท่นนอนของเฉินกงกงนี่นุ่มเสียจริง
“ขอรับแต่เอาเข้าจริงๆนะขอรับฝ่าบาทก็อายุตั้ง22ปีแล้ทำไมไม่หักนอนเพียงลำพังหรือหาสนมนางในมานอนร่วมแท่นอนจะได้ไม่ต้องอ้างว้างลำพังเช่นนี้”
“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว”
“นั่นสินะฝ่าบาทนี่ก็แปลกเป็นถึงฮ่องเต้จะหาหญิงงามสักกี่คนก็ๆได้แต่กลับไม่เลือกใครหรือว่าจะเป็นเหมือนคนเขาพูดกันนะ ว่าฝ่าบาททรงชื่นชอบ…..อุ๊ป”รีบเอามืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าพูดมากไปล่ะ
“เอาล่ะออกไปนอนข้างนอกข้ารำคาญ เจ้าที่พูดมาก”ม่อเฉวียนลุกขึ้นเดินมาลากเอาเจียเฟยติดมือมาด้วยก้าวเดินไปยังประตุทางเข้าออกตั้งใจจะโยนคนตัวเล็กออกไปแต่ทว่า
“ฝ่าบาทข้างนอกนั่นมันหนาว”กอดแขนม่อเฉวียนไว้แน่น
“ไหนใครๆก็ต่างพูดกันว่าฝ่าบาทพระทัยดีที่สุด เฉินกงกงก็บอกข้าน้อยอย่างนั้นแล้วทำไมตอนนี้ฝ่าบาทกลับจะใจร้ายให้เสี่ยวเฟยออกไปนอนตากหิมะด้านนอกพระทัยร้ายเสียจริง”
“คงจะได้ยินมาผิดแล้วเจ้านี่นอกจากไม่ได้เรื่องแล้วยังชอบเอาเรื่องที่คนอื่นครหาข้ามาทำให้ข้าหนักใจ ออกไปข้างนอกนอนเฝ้าที่หน้าห้องข้านั่นแลหะดีแล้วข้าจะได้ไม่ต้องฟังคำพูดเหลวไหลชวนปวดหัวของเจ้า” เจียเฟยยังกอดแขนม่อเฉวียนไว้แน่นอีกคนยิ้มเย็น แกะมือเล็กออกช้าๆยิ้มเย็นนั่นบาดเข้าไปในหัวใจของเจียเฟยที่สีหน้าตื่นกลัว
“นอนเฝ้าที่นี่นี่คือบัญชาข้า”
ปิดประตูอย่างแรง เจียเฟยกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
“ลุกซี้”เจียเฟยพลิกตวันอนหงายเหยียดยาวแต่ยังนอนสั่นสะท้านอยู่แบบนั้น ม่อเฉวียนฉุดแขนเล็ก เจียเฟยกับขืนตัวไว้ทำให้ม่อเฉวียนไม่ทันระวังล้มลงไปทาบทับร่างเย็นเฉียบบนพื้นเจียเฟยที่หนาวๆก็ยกมือขึ้นกอดร่างอุ่นไว้แน่นเกลือกลิ้งใบหน้าใสกับอกกว้าง
“อุ่นจัง”หลับตาพลิ้ม ม่อเฉวียนลืมว่าต้องลุกขึ้นปล่อยให้เจียเฟยกอดแบบนั้นจ้องมองใบหน้าที่หลับตานิ่งขนตางอนงามริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่ม เผลอแล่บลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง
ก่อนจะคิดได้
“นี่เจ้า เสี่ยวเฟยเจ้าขันทีโง่งมตื่นได้แล้ว”เปล่งเสียงดังลั่น เจียเฟยลุกขึ้นนั่งหันหน้าหันหลังแล้วลุกขึ้นยืนเต็มตัว
“ฝะฝะฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น”
“เข้าไปนอนข้างในกับข้า ที่นี่มันหนาว”เจียเฟยอมยิ้ม มองตามแผ่นหลังผึ่งผายของม่อเฉวียนก้าวเดินตามไปติดๆ
ทรุดกายลงพิงประตูห้องกอดอกแน่น
“หนาวจัง แต่ช่างเถอะไม่เป็นไรเมื่อก่อนอยู่บ้านนอกกับแม่ไม่เป็นจะได้สบายแบบนี้หนาวกว่านี้อีก เจียเฟยเอ๊ยเจียเฟยอย่าทำสำออยนักเลย”หลับตาลงช้าๆ กัดฟันข่มความหนาว
ดึกสงัด ยิ่งหนาวหนาวจนตัวสั่นกอดอกแน่นพิงประตูหลับไปเพราะความหนาว
ม่อเฉวียนนอนพลิกตัวไปมาป่านนี้แล้วเขายังนอนไม่หลับ เจ้าเด็กนั่นจะนอนแบบไหนกัน
ช่างเถอะก็เรื่องของขันทีนั่น ไม่ได้สิอาจขัดบัญชาเขาหนีกลับไปนอนที่ห้องอุ่นสบายไปแล้ว ไม่สิหากเจ้าทึ่มนั่นยังนอนตากลมหนาวแล้วหากตายไป เขาไม่รู้สึกผิดจนตายหรือ ช่างเถอะนอนเสียม่อเฉวียน แต่ไม่ได้ เจ้านั่นอาจกำลังแช่งเขาหรือบ่นเขาอยู่ก็ได้ถือว่าเขาไม่ได้ยินเจ้านั่นคงบ่นเขาน่าดูอาจแช่งชักเขาด้วย
“ผัวะ”เปิดประตูออกปร่างเล็กที่ล้มลงกับพื้น ม่อเฉวียนนั่งลงเขย่าตัวเจียเฟยเบาๆ
“อือออออ ท่านแม่หนาวจังเมื่อไหร่จะผ่านคืนนี้ไปเสียที ท่านบอกจะเก็บฟืนหาเงินซื้อผ้าห่มนี่พรุ่งนี้เจียเฟยช่วยท่านเก็บฟืนไปขายซื้อผ้าห่มกันหนาวกันเถอะ”ม่อเฉวียนส่ายหน้าไปมา
“ตื่นได้แล้วแล้วเข้าไปนอนในห้อง หากมาตายตรงนี้ข้าจะถูกครหา”
ม่อเฉวียนบ่นพึมพำจะว่าไปกว่าจะรู้ใจกันมันก็นานไม่น้อยอย่างเฉินกงกงที่เขาก่อนหน้านั้นก็ไม่พอใจเฉินกงกงหลายเรื่องแต่มาบัดนี้ถึงได้รู้ว่านานเข้าคนเราก็จะปรับเข้าหากันเอง เจ้าขันทีนี่ถึงจะไม่ดีหลายอย่างแต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เขาเหงา ถึงจะปากพล่อยไปหน่อยก็เถอะ แค่ลดการพูดจาเรื่อยเปี่อยลงได้บ้างเจ้านี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร