ตัดแขนเสื้อ
ตำหนักไทเฮา
“เป็นอย่างไรบ้างฝ่าบาทกับขันทีคนใหม่”
“มีแต่เสียงกรีดร้องเพคะ” หรูหราน เอ่ยปากยิ้มๆ
ไทเฮาวางถุงหอมที่เลือกหยิบมาดูทีละอันลงในถาด ถอนหายใจยาว
“เฉวียนเอ่อร์ ที่ข้ากลัวคือเขานิยมบุรุษ มาบัดนี้จึงอยากจะลองใจ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลคงต้องเปลี่ยนตัวขันทีเสีย”
“ยังไม่มีอะไรเพคะ”
ก้มหน้าหลบตาจะว่าไปเสี่ยวเฟยก็น่าเอ็นดูหลังจากพูดคุยกันเมื่อวาน จึงรู้ว่าเสี่ยวเฟยเองลำบากไม่น้อย กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้หากจะถูกปลดจากตำแหน่งขันทีข้างกายเพราะความชอบส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ก็คงไม่ยุติธรรมนัก
“เอาล่ะเจ้าไปเถิดไปคอยจับตามองฮ่องเต้แทนข้า แล้วอย่าลืมนำเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักของเฉวียนเอ่อร์มาเล่าให้ข้าฟัง”หรูหรานย่อกายจากไป
“ควรทำอย่างไร” เอ่ยปากกับนางกำนัลข้างกาย
“จะทำสิ่งใดได้ คงต้องคัดสรรหญิงงามมาให้ฝ่าบาทดูตัวเช่นเคยที่ผ่านมา ไทเฮาทรง ลองใจฝ่าบาทโดยการส่งขันทีร่างอ้อนแอ้นหน้าตาหวานละมุนยิ่งจะทำให้ฝ่าบาทจิตใจไหวเอน อีกอย่างหากเป็นอย่างเรื่องเล่าจริง คนที่จะลำบากใจที่สุดก็คือไทเฮา เคยมีเรื่องเล่าขานเมื่อนานมาว่าขันทีมักจะเหนือบัลลังก์ ยามที่ฝ่าบาท ยอมเชื่อใจ ไทเฮาไม่กล้ากดดันฝ่าบาทเรื่องหญิงที่จะมาเป็นฮองเฮาคราวนี้ไทเฮาลอง กดดันฝ่าบาทเสียหน่อยดีไหมเจ้าคะ”
“ส่งเทียบเชิญคุณหนูจากตระกูลขุนนางทั่วแคว้น ส่งเข้ามาให้ฝ่าบาทดูตัวในวังกลวง”นางกำนัลข้างกายยิ้ม
ตำหนักใหญ่
ม่อเฉวียนก้าวเดินออกจากห้อง เจียเฟยขยับตัวตามไปมองตามแผ่นหลังเช่นเคย มือบางเหมือนอิสตรี ไพล่หลังไว้ อย่างคนที่ถือตัวร่างสูงใบหน้าเชิดหยิ่ง ทว่าหล่อเหลา
“โอ๊ะ”
ชนเข้ากับร่างสูงอย่างไม่ทันระวังเพราะมัวแต่จินตนาการ ไปถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของคนข้างหน้า มือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าแขนเล็กไว้
“เดินระวังหน่อย”
ดอกเหมยเจ้ากรรมถูกลมพัดผ่านหลุดร่วงลงมา ตรงหน้าคนทั้งสองดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกันในทันที
“ฝ่าบาทนึกจะหยุดก็หยุดใครกันจะเดาใจถูก”บ่นพึมพำก้มหน้าเสีย
สายตาพิฆาตของม่อเฉวียนน่ากลัวยิ่งนัก
“เจ้าเดินมาชนข้าเอง อีกทั้งยังเดินไม่ระวัง แบบนี้เป็นข้าที่ผิดอีกแล้วใช่ไหม”
ปล่อยมือออก ปล่อยให้เจียเฟยเซถลา
“เดินแบบนี้ คราวหลังก็จะถูกชนร่ำไป”
บ่นเบาๆ หน้าเง้า ม่อเฉวียนหันมาดวงตาคมกริบก่อนจะเอื้อมมือคว้าคางมนบีบไว้แน่น
“ข้าว่าเจ้ามีท่าที ….แสนงอนเหมือนหญิงงามเลือกได้ ข้าว่าข้าจะส่งเจ้าไปตรวจร่างกายอีกครั้ง”
เจียเฟยตาโต ยกมือประสานกันตรงหน้า ก้มศีรษะลง
“ฝ่าบาท ได้โปรดอย่าส่งเสี่ยวเฟยไปเลย ต่อไปเสี่ยวเฟยไม่กล้าแล้วก็แค่เป็นห่วงฝ่าบาทหากเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็จะถูกชนร่ำไปเสี่ยวเฟยแค่ห่วงใย”
“ไม่มีใครกล้าชนข้ามีเพียงเจ้าที่เซ่อซ่า หลอกด่าข้ายังบอกว่าห่วงใย ไปได้แล้วเดินนำไปเลย เดินตามเดี่ยวเจ้าก็เผลอชนข้าอีก”
“ชนนิดชนหน่อยก็ไม่ได้”
“ พี่ใหญ่ญญญญญญญญญ"
เสียงเล็กแหลมขององค์หญิงมู่เฉวียนดังลั่นมาจากด้านหลัง เจียเฟยหันหน้ามาก่อนจะขยับกายถอยห่างประสานมือก้มหน้า
“โอะขันทีคนใหม่”เดินมามองสำรวจเจียเฟยจนครบสามรอบ
“พี่ใหญ่ นี่มันไม่สิเจ้า เป็นผู้หญิงใช่ไหม”ม่อเฉวียนขมวดคิ้ว
“พี่ใหญ่แอบซุกหญิงงามไว้ในตำแหน่งขันที”
เจียเฟยส่ายหน้าทำไมความลับจึงถูกเปิดเผยได้ง่ายดายเพียงนี้
“เจ้ากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่ามู่เฉวียน การคัดตัวขันทีฝึกหัด มีความรัดกุมมากไม่มีทางที่จะมีสตรีเล็ดลอดเข้ามาได้” มู่เฉวียนยิ้ม
“ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็น นางเป็นหญิง”ยิ้มมุมปาก
ขยับเข้าใกล้เจียเฟยเอื้อมมือตั้งใจจะบีบอกนุ่มที่รัดด้วยผ้าฝ้ายดิบไว้
เจียเฟยเหลือบตามองมู่เฉวียน เอาวะเป็นไงเป็นกันดีกว่าความลับแตก ก่อนจะคว้าเอวเล็กเอนกายของมู่เฉวียนลงใช้มืออีกข้างรับแผ่นหลังไว้ ประกบริมฝีปากของตัวเองกับปากบางของมู่เฉวียนไว้แน่น มู่เฉวียนตกใจอย่างที่สุดแต่ภายในใจกับรู้สึกประหลาด จ้องหน้าขาวของเจียเฟยนิ่งตาสบตา
ม่อเฉวียน จ้องมองริมฝีปากอิ่มกดปิดริมฝีปากของมู่เฉวียนรู้สึกว่าโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กับสิ่งที่เจียเฟยทำ มือไวเท่าความคิดดึงคอเสื้อของเจียเฟยออกห่างมู่เฉวียนแววตาถมึงทึง ผลักเจียเฟยลงไปกองกับพื้น
“เจ้านี่บังอาจนัก กล้าล่วงเกินองค์หญิงเชียวหรือ องครักษ์นำตัวขันทีผู้นี้ไปโบยห้าสิบไม้”
มู่เฉวียน ทรุดกายลงกับพื้น
“พี่ใหญ่ม่ายยยย ไม่อย่าทำเขา”
กางมือขวางเจียเฟยที่ทรุดกายลงก้มหน้านิ่ง
“เขาล่วงเกินเจ้า โบยเขาแล้วข้าจะปลดเขาจากขันทีข้างกายเสีย”
“พี่ใหญ่เป็นข้าที่หาเรื่องเขาเอง พี่ใหญ่หากจะลงโทษเขา ลงโทษข้าเถิด”
“มู่เฉวียนแต่เกียรติของเจ้าสำคัญยิ่ง เขาแค่เพียงขันที”
“พี่ใหญ่ หากข้าจะบอกว่าข้าชอบเขาเล่า ท่านจะใจดำทำร้ายคนที่ข้าชอบได้หรือ”
เจียเฟยอ้าปากค้าง ม่อเฉวียนถอนหายใจยาว
“พบกันครั้งแรกเจ้าก็บอกว่าชอบเขาแล้วหรือ”
“พี่ใหญ่ ข้าชอบเขาจริงๆ หากท่านกล้าทำอะไรเขาข้าจะยอมตาย"
มู้ฉวียนดึงมีดสั้นที่พกติดตัวออกมากำไว้
"องค์หญิงส่งมีดมาให้ข้าน้อย"เจียเฟยรู้สึกผิดที่ทำให้เกิดเรื่อง