ปกป้องคุ้มครองและตายแทน2
ไล่เอาเสียดื้อๆ หิวจนไส้กิ่วแต่กลายเป็นว่าเจ้าขันทีหนุ่มหิวเสียกว่า แต่อิ่มก่อนเขาขืนต่อปากต่อคำเจ้าขันทีหนุ่มอยู่แบบนี้เขาคงฟังเสียงท้องไส้ของตัวเองคร่ำครวญเป็นกู้เจิ้งสายขาด
หยิบตะเกียบคนไปบนเครื่องสวยที่มักจะเอาของดีดีวางไว้ข้างหน้า แต่บัดนี้เจียเฟยคีบใส่ปากไปจนสิ้น ถอนหายใจยาว อย่างไรก็ต้องกิน
"แค่ก ๆ แอ่กๆ "เจียเฟยรินชาส่งให้ม่อเฉวียน
"ฝ่าบาทไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เครื่องเสวยไม่ได้มีขาหนีไปไหนไม่ได้อย่างไรก็ได้กิน"
"ตกลงแล้วเป็นข้าที่ผิดใช่ไหม"
"เสียเฟยแค่จะบอกว่าอาหารรสดีต้องค่อยๆ ละเลียดชิม จึงจะลิ้มรสอาหารได้อย่างแท้จริง"ม่อเฉวียนอ้าปากค้าง
"อยู่นิ่งๆ เจ้าอยู่นิ่งๆ ห้ามขยับ"
ม่อเฉวียนลุกขึ้นยืนย่องช้าๆ มายืนตรงหน้าเจียเฟยร่างสูงสูงสง่า เจียเฟยทั้งตัวรวมทั้งหมวกขันทีด้วยสูงแค่อกของม่อเฉวียน
"กรี๊ดดดดดกรี๊ดดดดดดดกรี๊ด (เสียงมาริโอเมาเร่อตอนกรี๊ด) เจียเฟยกระโดดกอดคอม่อเฉวียนหดขาจนอีกคนต้องอุ้มไว้ มือสองข้างคล้องที่ลำคอฮ่องเต้ไว้แน่นแมงมุมตัวใหญ่ตัวเดิมยังไต่อยู่ที่หมวกขันที ม่อเฉวียนมือไม่ว่างแก้วหูแทบแตกกับเสียงกรีดร้องข้างหู
"กรี๊ดดดดกรี๊ดดด"
ก้มมองใบหน้าหวานในอ้อมแขนที่หลับตาปี๋ตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนเขา อีกทั้งยังรู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นตึกตัก
มีเพียงสิ่งเดียวที่ว่างคือปาก ใช้ปากเป่าแมงมุมให้ถอยห่างจากรัศมีสายตาของเจียเฟย
"ไหนเจ้าว่าปกป้องคุ้มครองและตายแทน"
ลมหายใจรินรดใบหน้าแต่เจียเฟยหาสนใจไม่
"มันไปหรือยัง"
แมงมุมตัวนั้นก็เพียงแค่ไต่ขึ้นมาบนหมวกลับสายตาเจียเฟยก็เท่านั้น เจียเฟยจึงไม่เห็นมัน ตั้งใจเข้มแข็งกับคอมหอกคมดาบพอไหวแต่แมงมุมนี่ไมไหวจริงๆ
"ฝ่าบาท ฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น"
องครักษ์วิ่งเข้ามาในห้องหนึ่งในนั้นมีองครักษ์ข้างกายนามตงหานวิ่งเข้ามาในมือถือกระบี่ในท่าเตรียมพร้อม
"แมงมุม ตงหานมาจับมันไปทิ้งไกลๆ ที"
เจียเฟยซุกหน้ากับอกกว้างหลับตาปี๋มือสองข้างกอดคอม่อเฉวียนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ตงหานส่ายหน้าไปมาเดินมาจับแมงมุมที่หมวกขันทีส่งให้องครักษ์อีกคนโบกมือให้ออกจากห้องไป
"มันไปแล้ว เจ้าขันทีฝ่าบาททรงอุ้มเจ้าอยู่ลงมาซะดีๆ "
ตงหานส่งเสียงดุดุแววตาตำหนิชัดเจน เจียเฟยขยับตัวหย่อนขายืนตัวตรง แต่หมวกขันทีดันร่วงหล่นลงพื้นผมยาวสลวยสยายเต็มแผ่นหลัง มือบางรีบคลายอ้อมกอดจากลำคอของม่อเฉวียน ที่ยืนใกล้สุดใกล้เพื่อจะได้จับหมวกขั้นทีไว้ ม่อเฉวียนเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจระคนสงสัย เมื่อผมยาวสยายลงมากลางแผ่นหลังใบหน้าขาวสะอาดดวงตากลมโต ขนตาเรียงกันเป็นแผง ริมฝีปากรูปกระจับอวบ คิ้วดก แก้มอิ่ม ของเจียเฟยอยู่ใกล้แค่เอื้อม ตงหานอ้าปากค้าง
"เจ้าขันที"
เจียเฟยรีบรวบผมของตัวเองม้วนเกล้าด้วยความชำนาญ หยิบหมวกขันทีขึ้นมาสวมผิดๆ ถูกๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อถูกจ้องที่อากัปกิริยาด้วยดวงตาสองคู่ที่เปล่งประกายประหลาดใจและพอใจอย่างที่สุด
"มะ มะแหมเพฮะ เสี่ยวเฟยยังไม่คุ้นชินกับการใส่หมวกขันที"
ปรับเสียงให้ห้าวหาญดุจดังบุรุษแต่ไม่วายลงท้ายให้จักจี้หัวใจกระชากอารมณ์ไหวเอนของบุรุษทั้งสองได้ชะงัดนัก ม่อเฉวียนพยักหน้าขึ้นลง
"หมดเรื่องแล้ว ไปจัดการใส่หมวกเจ้าเสียให้ดี แล้วคราวหลังอย่าให้มันหลุดลงมาแบบนี้ต่อหน้าใครอีก"
ม่อเฉวียนดึงสติของเขาและหานตงพร้อมกัน
เจียเฟยวิ่งออกจากห้องไปยังห้องข้างๆ เพื่อจัดการกับหมวกและผม
"หมดระระเรื่องแล้ว หานตงทูลลา"
ม่อเฉวียนหันมาที่โต๊ะเครื่องเสวย เสียงท้องร้องขู่ว่าหิวจะตายแล้วหยิบตะเกียบคีบเครื่องเสวยใส่ปาก ใบหน้ายามสยายผมเข้ามารบกวนจิตใจ
หรือเขาจะนิยมบุรุษจริงจังจึงไม่เคยมองหญิงใด อย่างที่คนอื่นเขาบอกก็ยี่สิบสองปีแล้วยังไม่มีฮองเฮาไม่รับสนมนางในไม่…ชายตามองใคร
อมยิ้มส่ายหน้าไม่หรอกก็เจ้าขันทีนั่นเหมือนหญิงสาวขนาดนั้น แล้วยังจะงดงามเกินหญิงอีก อย่างไรเขาก็ไม่ชอบอะไรแบบนั้น บุรุษด้วยกันไม่มีเนินถันอวบหยุ่น เขาจะรู้สึกอย่างไรหากต้องทาบทับไปบนหน้าอกแบนราบ แต่เมื่อครู่ทำไมใจสั่น
ถอนหายใจยาว เจ้าขันทีคนนี้คงเป้นขันทีที่กิริยาไม่ค่อยสำรวมเท่าไร่และคงพูดเก่งตามประสาขันทีหนุ่มทั่วไป ด็ดีไปอีกแบบเขาจะได้ไม่เหงา กำลังคิดอะไรเพลินๆเจียเฟยวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามายืนกุมมือสงบนิ่งดังเดิม
ม่อเฉวียนจึงคีบเครื่องเสวยใส่ปาก ไม่สนใจร่างเล็กที่ยืนมองรอให้เรียกใช้ แต่อีกคนกลับคีบเครื่องเสวยใส่ปากไม่เลิก
"ฝ่าบาท"ม่อเฉวียนทำเป็นไม่ได้ยินเสีย อย่างนั้น
“ฝ่าบาททททท จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำอะไรข้ากำลังเสวยอยู่ไม่เห็นรึ”ขมวดคิ้ว
“ฝ่าบาทจะทำเป็นไม่พอใจ เจียเฟย เอ่อเสี่ยวเฟย ขอโทษที่ล่วงเกินฝ่าบาท เสี่ยวเฟย อยากจะพูดว่าเรื่องนี้มันเหตุสุดวิสัย เรื่องความกลัวไม่มีใคร ไม่เคยเป็นใครๆ ก็กลัวกันได้” ม่อเฉวียนคิดไว้แล้วว่าตัวเองคาดไม่ผิดเจ้านี่เรื่องเยอะแล้วยังพูดมากจนเคยตัว
“ข้าหาใส่ใจ”น้ำเสียงเรียบเฉย
“จริงหรือฝ่าบาทไม่โกรธจริงๆ ใช่ไหม”
น้ำเสียงตื่นเต้น ท่าทีรื่นเริงเหมือนเด็กๆ ม่อเฉวียนมองใบหน้าใสของเจียเฟย ก่อนจะถอนหายใจ