บท
ตั้งค่า

23 คนของผม

“บอสครับของขวัญพร้อมแล้ว จะออกเดินทางกี่โมงครับ”

ทิวาถือกล่องของขวัญที่คุณวีณาไปซื้อมาตอนบ่ายเข้ามาในห้องของเจ้านายในเวลาเกือบหกโมงเย็น

เมคินลุกขึ้นสวมสูทสีน้ำเงินเข้าทับเชิ้ตสีขาว พร้อมสำหรับไปร่วมงาน

“ไปสิ”

“จะไปชุดนี้เหรอครับ” ทิวามองชุดที่เจ้านายสวมอยู่แล้วมันเคร่งขรึมเกินกว่าจะไปร่วมงานมงคล

“อือ ทำไม”

“เปลี่ยนไทหน่อยไหมครับ” เมคินก้มมองเนกไทสีกรมท่าสลับกับมองทิวาที่กำลังเปิดตู้เอกสารเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง

“ผมว่าสีนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มหยิบเนกไทสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง

“เปลี่ยนให้หน่อยสิ”

“บอสก็เปลี่ยนเองสิครับ”

“ถ้าไม่เปลี่ยนให้ก็ไปกันเลย” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง

“ก็ได้ครับ”

เมคินยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมา

ทิวาดึงเนกไทเส้นเดิมออก เอื้อมมือคล้องอีกเส้นไปด้านหลัง ก่อนจะวกกลับมาแล้วเริ่มผูกเป็นปม เมคินยืนนิ่งเขาชอบที่เห็นทิวาอยู่ใกล้แบบนี้ เขาชอบมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เล่ห์เหลี่ยมของคนตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก เขาจำได้ว่าเป็นคนเลือกให้ แต่กลิ่นของมันไม่เหมือนกับตอนแรกที่ซื้อคงเพราะมันผสมกับกลิ่นกายจนทำให้เป็นกลิ่นเฉพาะที่รู้สึกหอมจนไม่อยากให้เขาออกห่าง

“เรียบร้อยครับ” ทิวาขยับปมให้เข้าที่อีกครั้ง

“เดี๋ยวสิ”

“ครับ”

เมคินจับไหล่ให้เขาหันมาเผชิญหน้าก่อนจะดึงปมเนกไทของเขาออกอย่างช้าๆ

“นายก็ควรเปลี่ยนด้วยนะ”

บอสหนุ่มพูดจบก็เดินอ้อมไปเปิดลิ้นชักของตัวเองหยิบกล่องขนาดเล็กขึ้นมาวงบนโต๊ะจากนั้นเปิดกล่องออก มือหนาหยิบเนกไทสีกลีบบัวขึ้นมา เขาเดินกลับมาแล้วจัดการผูกให้กับอีกคนด้วยไปหน้าที่เปื้อนยิ้ม

“ขอบคุณครับ เสร็จแล้วผมจะคืนให้”

“ไม่ต้องคืน เส้นนี้พี่ซื้อให้นาย ตั้งใจจะให้ตอนผ่านโปร แต่งานยุ่งก็เลยลืม”

“ขอบคุณนะครับ ว่าแต่บอสไปซื้อมาตอนไหนครับ” ก็เพราะเวลาออกไปข้างนอกเมคินก็จะให้เขาไปด้วยทุกครั้ง

“ไม่ต้องรู้หรอกน่า ไปกันเถอะ”

เพราะเป็นงานส่วนตัวเมคินขอเป็นคนขับรถเอง เขาขับไปจอดที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งก่อนจะส่งกุญแจรถให้พนักงานโรงแรมนำรถไปจอด

บรรยากาศงานแต่งงานเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งของแขกที่มาและคู่บ่าวสาว เมคินแนะนำให้เทิวารู้จักกับทั้งสองคนก่อนเดินไปนั่งยังโต๊ะตัวริมสุด

“สวัสดีครับพี่คินพี่ทิว” องศารีบทักทายแล้วเรียกให้ทิวามานั่งข้างๆ

“พี่ทิว ผมดีใจที่พี่มางานนี้” องศากระซิบพอให้ได้ยินกันแค่สองคน

“ทำไมล่ะ”

“ผมจะได้มีเพื่อนคุยไงครับ”

“พี่ก็ดีใจนะที่องศามาเพราะพี่เองก็ไม่รู้จักใครเหมือนกัน”

ทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอและไม่ลืมแลกเบอร์โทรศัพท์และไลน์เพื่อจะได้ติดต่อกันอีกเรื่อยๆ

เมคินพาทิวาไปแนะนำให้เพื่อนของเขารู้จัก หลังจากจบงานแล้ว บางคนทิวาก็เคยเจอมาแล้วเพราะไปติดต่องานกับบอส ส่วนบางคนก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก

“ไม่ยักรู้ว่าตอนนี้นายมีเลขาผู้ชาย แถมยังหล่ออย่างกับพระเอกเกาหลีเสียด้วย” เพื่อนคนหนึ่งของเมคินพูดขึ้น

“อือ แล้วเลขานายล่ะวันนี้ไม่มาด้วยเหรอ”

“นายหมายถึงคนไหนล่ะ”

“ก็คนล่าสุดที่เจอตอนงานวันเกิดคุณวายุไง”

“อ๋อ คนนั้นเอง ฉันไล่ออกไปแล้ว”

“ไหนว่าทำงานดี”

“ทำงานดี แต่อ่างอื่นไม่ค่อยได้เรื่อง ตอนนี้ก็เลยอยากหาเลขาใหม่สักคน” คนพูดกันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ทิวา

“ทิวา ถ้าเบื่อทำงานกับไอ้คิน มาทำกับผมก็ได้นะ ผมให้เงินเดือนสองเท่าเลย”

“ไม่ดีกว่าครับ” ทิวาปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ไม่ลองเก็บไปคิดหน่อยเหรอ งานดี เงินดี มีรถประจำตำแหน่งให้ด้วยนะ สนใจไหม”

เขาเดินมากระซิบใกล้หูจนทิวารู้สึกขยะแขยง ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่เป็นเพื่อนเจ้านายเขาคงได้ต่อยหน้าไปแล้ว

“อย่ายุ่งกับคนของผม”

เมคินพูดเสียงดัง ก่อนจะจับมือทิวาแล้วเดินออกไป พอดีกับรถมาจอดที่หน้าโรงแรม เขาเปิดประตูให้ทิวาเข้าไปนั่ง ก่อนจะวนมาประจำตำแหน่งคนขับ

ทิวารู้สึกใจเต้นแรง ครั้งแรกที่เมคินจับมือ เวลาเพียงนิดแต่เขารู้สึกอบอุ่นปลอดภัยจนไม่อยากให้เขาปล่อย

“พี่คินคิดอะไรอยู่ครับ” ทิวาไม่ชอบที่เมคินเอาแต่เงียบ

“กำลังคิดว่าคงจะต้องขึ้นเงินให้นายและก็ต้องหารถให้นายใช้สักคัน”

“พี่คิดว่าผมจะไปทำงานกับเพื่อนพี่คินเหรอครับ”

“อยากไปทำไหมล่ะ”

“ไม่ครับ”

“แต่ข้อเสนอฟังดูดีนะ”

“ผมจะไม่ไปทำงานกับคนอื่นเพียงเพราะเรื่องเงินหรอกนะครับ ”

“ยังมีเรื่องอื่นอีกเหรอ”

“มีสิ ผมจะไปทำงานที่อื่นถ้าพี่ไล่ผมออก”

“พี่จะไล่นายทำไม นายทำงานดีออก”

“จริงนะครับ”

“จริงสิ อีกอย่างนายติดหนี้พี่ตั้งเยอะ ถ้าเกิดลาออกไปแล้วเบี้ยวขึ้นมาล่ะ”

“ถ้าวันหนึ่งผมทำงานไม่ดี ทำงานผิดพลาดจนบริษัทเสียหายล่ะครับ”

“ก็ยังไม่ได้ทำไม่ใช่เหรอจะคิดมากทำไม”

“ก็คิดเผื่อไว้ ถ้าถึงตอนนั้นพี่ไล่ผมออกไปเลย เพราะผมก็คงทนทำงานต่อไปไม่ได้ แล้วผมก็จะไปหางานที่อื่น”

“นายจะไปจากพี่เหรอ” เพียงแค่คิดเขาก็รู้สึกใจหาย

“ผมไปทำงานที่อื่น ไม่ได้หมายความว่าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นครับ ผมบอกแล้วว่าจะอยู่กับพี่ตลอด”

“สัญญาแล้วนะ” เมคินละมือจากพวงมาลัยมาจับมือเขาไว้

“สัญญาครับ ตราบใดที่พี่ไม่ปล่อยมือ ผมก็จะอยู่กับพี่”

เมคินจอดรถยังที่จอดประจำ เขารีบเปิดประตูออกแล้วเดินอ้อมมาอีกฝั่ง ส่วนทิวาก็เอื้อมไปหยิบกระเป๋าเอกสารที่เบาะหลัง หันกลับมาอีกทีเมคินก็เปิดประตูรออยู่แล้ว

เขายื่นมือออกมาพร้อมกับรอยยิ้มทิวาวางมือลงบนมือหนาก่อนจะลุกขึ้น

เมคินใช้มือข้างที่ว่างปิดประตู จากนั้นก็เดินจับมือกันไปอย่างนั้นจนถึงห้องทั้งสองจึงปล่อยมือออกจากกัน

ทิวาทำตัวไม่ถูกเพราะทั้งคำพูดและการแสดงออกของเมคินในวันนี้มันมากกว่าทุกครั้ง

“พี่คิน” ทิวาส่งแก้วน้ำให้เขาแล้วนั่งลงข้างๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสับสน

“มีอะไร ทำไมมองพี่แบบนั้น”

“พี่บอกว่าผมเป็นคนของพี่ หมายถึงเป็นเลขาหรือหมายถึงอย่างอื่น”

“นายคิดว่ายังไงล่ะ”

“ผมไม่รู้”

“ถ้าพี่จะบอกว่ามันหมายถึงอย่างไม่ใช่แค่เลขา นายจะโกรธพี่ไหม จะรับได้ไหมแล้วจะไปจากพี่หรือเปล่า” เขาถามอย่างไม่แน่ใจ เป็นครั้งที่ทิวาเห็นความไม่มั่นใจในตัวของบอสหนุ่ม

“ผมอยากเป็นทุกอย่างของพี่” ทิวาตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“ลองคบกันดูไหม” ในที่สุดเมคินก็ตัดสินใจถามออกไปตรงๆ

เลขาหนุ่มตกใจกับคำถาม เขามองหน้าเมคินว่าเขาพูดเล่นหรือเปล่า แต่ดูแล้วเมคินค่อนข้างเครียดกับการรอฟังคำตอบ

“แต่ผมไม่เคยคบผู้ชาย”

“พี่ไม่ได้ถามว่าเคยคบไหม พี่ถามว่าจะคบกับพี่ไหม” เขาถามคำถามเดิมแต่ดูจริงจังมากขึ้น

“คบครับ” เพราะเห็นท่าทางจริงจังของบอสเขาก็เลยตอบไปโดยไม่ลังเล แม้ไม่เคยคบกับผู้ชายมาก่อน และเขาก็ไม่เคยคิดจะคบกับผู้ชายคนอื่น แต่ที่ตอบตกลงเพราะคนตรงหน้าคือเมคิน คนที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีแต่ความสุข

“ไม่รังเกียจเหรอ” แม้ว่าเขาจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจแต่ก็อยากฟังความรู้สึกของอีกคน

“ไม่ครับ”

“ถ้าตกลงแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้นะ”

“ผมไม่เปลี่ยนใจ แต่ผมไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย ผมไม่รู้ต้องทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง”

“ก็ทำอย่างที่เป็นอยู่ ทำทุกอย่างเหมือนปกตินั่นแหละ”

“แล้วเรื่องนั่น เอ่อ..ผมหมายถึงเรื่องแบบว่า..”

“นายคงไม่คิดหรอกนะว่าพี่จะลากนายขึ้นเตียงตั้งแต่วันแรกที่คบกันหรอกนะ” เมคินหัวเราะลั่นกับท่าทางตื่นกลัวของเลขาหนุ่ม

“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”

“เอาน่า ค่อยเรียนรู้กันไป เรื่องนั้นมันยังไม่ถึงเวลา”

“แล้วมันจะถึงเวลาตอนไหน”

“นายกลายเป็นคนช่างซักถามตั้งแต่ตอนไหน”

“ก็พี่บอกผมเองว่าอยากรู้อะไรก็ให้ถาม”

“พี่ง่วงแล้วไปนอนล่ะนะ ฝันดี”

“พี่คิน เดี๋ยวสิครับ มาคุยกันก่อน” ทิวาตะโกนตามหลัง

ทิวาไม่เคยคิดเลยว่าบอสจะมีใจตรงกับเขา แม้จะอยู่ด้วยกันมาสี่เดือน แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้านายชอบผู้ชายด้วยกันก็คงจะเหมือนกับฉัตรภพที่เขาเองก็ไม่รู้จนกระทั่งเจอกับองศา

ส่วนตัวเขาก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็คงต้องหาที่ปรึกษาสักคนและคนเดียวที่จะให้คำปรึกษาเขาได้ก็คือองศา แต่พอมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเช้า ทิวาเลยคิดว่าคงต้องโทรหาอีกฝ่ายพรุ่งนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel