บทย่อ
เพียงแค่เห็นหน้า สัญชาตญาณนักล่าก็ถูกกระตุ้น แต่เพราะกลัวว่าเจ้าลูกแกะตัวน้อยจะตกใจและหนีหาย เมคินจึงต้องใช้วิธีอ้อมๆ ต้อนเจ้าแกะน้อยให้เข้ามาใกล้ หลอกให้ตายใจก่อนลงมือขย้ำ
1 เซฟโซน
“คนที่เท่าไหร่แล้ว”
“ไม่รู้ครับผมไม่นับ” เขาตอบหน้าตาเฉย
เมคินลูกชายคนเล็กของคุณเมฆาเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เขาเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเพราะตั้งแต่เรียนจบจากอเมริกาก็เข้ามาช่วยบิดาบริหารงานจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 5 ปีแล้ว ที่ชายหนุ่มโลดแล่นอยู่บนถนนสายธุรกิจ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทต่างๆ ที่ผุดกันขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด แต่เพราะเขาพยายามทุ่มเทอย่างหนัก เขาจึงใช้งานเลขาแต่ละคนหนักตามไปด้วย เลขาส่วนใหญ่จึงทนไม่ไหวและพากันลาออกไปหลายคนแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาสมัครเป็นเลขาขอของเขาอยู่เรื่อย ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นผู้หญิงสวยๆ ที่อยากพาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดกับชายหนุ่มสุดฮ็อต แต่พอเขาไม่เล่นด้วยแถมยังใช้งานอย่างหนักพวกเธอจึงพากันลาออก
“พี่ว่าคินคงต้องหาเลขาที่เป็นผู้ชายบ้างแล้วล่ะ จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบเดิม”
เมลดาลูกสาวคนโตของเมฆาออกความคิดเห็น แม้เธอจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแต่ก็มักจะหาเวลาว่างมาทานอาหารกับครอบครัวอยู่เป็นประจำ
“แม่เห็นด้วยนะเมย์”
“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ผู้ชายคงทำงานอึดดี แต่เรื่องความละเอียดรอบคอบนี่สิ” เขายังไม่เคยทำงานกับผู้ชายก็เลยกังวล
“ลองดูก่อนถ้าถูกใจก็ค่อยว่ากันอีกที”
“ใช่สิ สามีพี่เมย์ก็มีเลขาเป็นผู้ชาย พี่หาให้ผมสักคนสิ”
“แล้วพี่จะลองถามดูนะ ระหว่างนี้ก็ให้คุณวีณาช่วยงานไปก่อน”
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจพร้อมกับสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน
วีณาที่พี่สาวพูดถึงคืออดีตเลขาของเขาที่พอจะไล่ออกก็เกิดสงสารเพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวชายหนุ่มจึงยังจ้างเธอให้คอยทำงานเอกสารช่วยเลขาของเขาอีกที ไม่ใช่ว่าวีณาทำงานไม่ดี แต่เพราะเธอมีลูกที่ต้องคอยดูแล เขาจึงต้องหาเลขาซึ่งมีหน้าที่ตามเขาไปทำงานข้างนอกได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เลขาแต่ละคนอยู่กับเขาไม่นาน
บริษัท M-Beverage
“คุณวีณา วันนี้ช่วงเย็นผมต้องไปที่ไหนหรือเปล่า”
“มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณเวหาค่ะ วีจัดการเรื่องของขวัญให้แล้วนะคะ อยู่บนโต๊ะในห้องทำงานค่ะ”
“ขอบคุณครับ ช่วงนี้ผมคงรบกวนคุณไม่น้อย”
“รบกวนอะไรกันคะ วีเป็นลูกน้องนะคะ บอสจะต้องมาเกรงใจทำไม อยากให้วีทำอะไรบอสบอกมาได้เลยนะคะ”
“ครับ” พูดจบเขาก็เข้าห้องไป
ชายหนุ่มนั่งอ่านเอกสารจากฝ่ายวิจัยการตลาดที่เขาให้ไปสำรวจเกี่ยวกับเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพซึ่งบริษัทของเขาได้ริเริ่มพัฒนาและวางขายไปบ้างแล้ว ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
สินค้าตัวใหม่ที่เขากำลังผลิตคือน้ำขิงคั้นสด แต่ยังติดปัญหาเรื่องขิงที่จะนำมาผลิตเพราะผู้ค้าส่งรายใหญ่ติดสัญญากับบริษัทเดิมซึ่งนำขิงไปผลิตในรูปแบบของผงขิงสำเร็จรูป
ช่วงวันหยุดยาวนี้ชายหนุ่มจึงคิดว่าจะต้องเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์เพราะที่นั่นเป็นแหล่งปลูกขิงแหล่งใหญ่ของประเทศ
ระหว่างรอให้ถึงเวลาไปงานของเพื่อนร่วมธุรกิจ เมคินก็หาที่พักไปพลางๆ ครั้งแรกชายหนุ่มคิดจะจองโรงแรมที่เขาค้อ แต่เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวที่พักใบแบบที่เขาต้องการจึงเต็มทุกที่ เขาจึงเลือกที่พักในตำบลเข็กน้อยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่เขาจะไปไม่มากนัก พอเลือกห้องพักเสร็จก็จัดการเคลียร์งานที่คั่งค้างให้เรียบร้อย ก่อนจะปิดไฟในห้องหยิบกล่องของขวัญแล้วเดินออกจากห้องตรงไปยังลานจอดรถ
เวลาเกือบสองทุ่มทุกคนในบริษัทต่างก็กลับกันไปหมดแล้ว เพราะเป็นวันหยุดยาวเขาจึงบอกทุกคนว่าไม่ต้องทำโอที
งานวันเกิดของเวหาจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพราะมันใช่เพียงแค่งานวันเกิดธรรมดาแต่เพราะในวันนี้เป็นวันที่บิดาของชายหนุ่มจะวางมือจากธุรกิจและให้ลูกชายคนเดียวขึ้นมาบริหารงานแทนทั้งหมด
พอส่งของขวัญให้กับเจ้าของวันเกิดแล้ววายุก็มานั่งยังโต๊ะที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ให้ เพื่อนร่วมโต๊ะก็เป็นคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้ว
“สวัสดีครับ” เขากล่าวทักทายคุณราเมศเจ้าของบริษัทผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่เขาใช้บริการอยู่
“สวัสดี มาคนเดียวเหรอคิน”
“ครับคุณอา”
“นี่ถ้ายายหวานรู้ว่าคินจะมาที่งานด้วยคงได้ตามอามาแล้วแน่ๆ”
“น้องหวานกลับมาแล้วเหรอครับ” เขาถามอย่างแปลกใจเพราะครั้งสุดท้ายที่คุยกันหญิงสาวบอกเขาเองว่ายังไม่อยากกลับมาทำงาน
“กลับมาได้หลายวันแล้ว”
“ครับ”
“ได้ข่าวว่าคินกำลังหาเลขาอยู่ไม่ใช่เหรอ อาว่าจะให้หวานลองไปสมัครดู”
“อย่าเลยครับคุณอา ความรู้ของน้องหวานมากเกินกว่าจะมาเป็นเลขาผม” เขาปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะรู้ดีว่าชายคนนี้ไม่ได้แค่อยากให้ลูกสาวมาเป็นเลขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“อาก็อยากให้น้องได้เรียนรู้งานจากคินบ้าง”
“แย่จังนะครับ ผมเพิ่งบอกให้พี่เมย์ช่วยหาเลขาให้ ผมคงต้องรอถามพี่เมย์ก่อนว่ายกเลิกทันไหม แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”
“อาหวังว่าจะเป็นข่าวดีนะ”
เมคินยิ้มแต่ไม่ได้ตอบไปเพราะเขาไม่ค่อยชอบการใช้เส้นสายในการทำงาน อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยชอบนิสัยของหวานหรือรมิดาเท่าไหร่ เขากับเธอเคยคบกันอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่เรียนด้วยกันที่อเมริกา เพราะเขาเป็นคนชอบอยู่เงียบๆ ต่างจากหญิงสาวที่ชอบไปงานปาร์ตี้และรักการช้อปปิ้งนิสัยทุกอย่างตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง
ชายหนุ่มมีโอกาสคุยกับคนอื่นอีกสองสามคนจากนั้นเขาก็เดินไปหาวายุ คุยอะไรเล็กน้อยตามมารยาทแล้วก็ขอตัวกลับ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องทำธุรกิจกับคนจำนวนมากชายหนุ่มก็คงไม่มางานนี้ ทุกอย่างมันดูเหมือนต่างคนต่างใส่หน้ากากเข้าหากันและเขาก็รู้สึกว่าหน้ากากที่สวมอยู่นั้นมันหนักจนอยากจะถอดมันทิ้ง
เมคินออกจากงานและกลับมายังคอนโดซึ่งเป็นเซฟโซนของตัวเองเพราะขี้เกียจขับรถไปที่บ้านในเวลาดึกเช่นนี้
คอนโดแห่งนี้เป็นคอนโดขนาดกลางมีหนึ่งห้องนอนกับหนึ่งห้องทำงาน มีส่วนของครัวและห้องรับแขก ถ้ามองจากระเบียงห้องนอนใหญ่จะเห็นวิวของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืน
เขาไม่เคยพาใครมาที่นี่เลยสักคนแม้กระทั่งคนที่บ้านเพราะถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว