2 สงบเงียบ
เมคินออกเดินทางตั้งแต่เช้าเขาเลือกใช้เส้นทางสระบุรี -หล่มสัก ระหว่างทางก็แวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันก่อนจะขับยาวไปถึงตัวอำเภอเขาค้อก็เวลาบ่าย ชายหนุ่มจอดรถที่ร้าน อาหารพื้นเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนจะตรงไปยังที่พักทันที
เขาเลือกพักที่รีสอร์ตเล็กๆ แห่งหนึ่งในหมูบ้านชาวม้งเข็กน้อย บรรยากาศที่พักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เพียงแค่จอดรถก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น อากาศเย็นจนเขาต้องห่อไหล่
พนักงานต้อนรับในชุดพื้นเมืองรับกระเป๋าจากชายหนุ่มแล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็กอิน พอกรอกรายละเอียดเสร็จแล้วก็เดินนำเขาไปยังห้องพักห้องริมสุดทางเดิน ลักษณะเหมือนยื่นออกมาจากพื้นราบ
“อาหารเช้าและเย็นเป็นแบบบุปเฟ่ต์จัดห้องอาหารด้านบนที่ชั้นสามนะคะ แต่ถ้าคุณจะสั่งอาหารมาทานที่ห้องพักก็ตามเบอร์ที่วางไว้ในห้อง ครัวของเราเปิดหกโมงเช้าปิดสามทุ่ม ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนนะคะ
พนักงานหญิงคนหนึ่งอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปีแนะนำด้วยภาษากลางติดสำเนียงท้องถิ่นเล็กน้อย ฟังแล้วเพราะจนเขาอดชื่นชมไม่ได้ ชายหนุ่มหยิบธนบัตรใบละหนึ่งร้อยขึ้นมาสองใบส่งให้เด็กทั้งสอง
“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินกลับ
เมคินวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ที่มุมห้อง เขาเดินไปยังระเบียงด้านหน้า พอเปิดออกก็ได้ยินเสียงน้ำตก เขายื่นหน้าออกไปมองก็เห็นน้ำตกสายเล็กๆ อยู่ไม่ไกล
เพราะห้องพักอยู่ลึกและไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวคนมาพักจึงไม่มากเท่าไหร่ ชายหนุ่มรู้สึกชอบที่นี่มากกว่าโรงแรมหรูๆ ที่เขามักเข้าพักเป็นประจำ
ระยะทางจากกรุงเทพมาถึงเข็กน้อยใช่เวลาไปหลายชั่วโมงวันนี้เขาจึงนอนพักก่อนที่จะเข้าไปคุยกับชาวบ้านในวันรุ่งขึ้น
ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกร้องและเสียงน้ำตก บวกกับอากาศเย็นค่อนข้างเย็นทำให้เมคินหลับลึก พอรู้ตัวอีกทีท้องฟ้าด้านนอกก็มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากระเบียงที่รอดผ่านมาตรงรอยแยกของผ้าม่านเท่านั้น
เมคินมองเวลาที่หน้าจอสมาร์ทโฟนแล้วรีบลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะออกไปทานอาหารเย็นที่ทางรีสอร์ตจัดไว้
เพราะมาช้าจึงไม่มีโต๊ะตัวไหนว่าง เขาหยิบบาร์บีคิวใส่จานแล้วเดินไปยังโต๊ะตัวในสุด ซึ่งยังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ชายคนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่คนไทย อาจจะเป็นลูกครึ่งเขาจึงทักทายเป็นภาษาอังกฤษออกไป
“Excuse me,Cound you mind if I sit here ?” เมคินถามผู้ชายผิวขาวที่นั่งอยู่คนเดียว
“เชิญนั่งครับ” ชายหนุ่มผิวขาวตอบกลับด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว
“ขอโทษนะครับ ผมไม่คิดว่าคุณจะพูดไทยได้แถมยังชัดขนาดนี้” เขาตอบไปตามจริง แม้จะรู้สึกหน้าแตกอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่ผู้ชายคนนี้ไม่ให้เขาปล่อยไก่ไปมากกว่านี้
“ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว” คนตอบใบหน้าเรียบเฉย
“มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ” เมคินถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว ปกติแล้วเขาเป็นคนพูดน้อยและยิ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อนก็แทบจะไม่ชวนใครคุยก่อนอยู่แล้ว
“ครับ คุณล่ะ” อีกคนถามกลับ
“ผมมาทำธุระครับ”
“อ๋อ”
ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าหล่อราวกับพระเอกเกาหลี ดูจากลักษณะแล้วคงเป็นคนทำงานออฟฟิศหรือไม่ก็อาจจะยังเรียนไม่จบ เขาสวมเสื้อยืดเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นมาเล็กน้อยกางเกงผ้าขาสั้นแค่เข่าดูสบายๆ เหมาะกับการมาท่องเที่ยว เมคินเผลอสำรวจผู้ชายตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่อีกคนนั่งทานอย่างเงียบๆ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พอทานเสร็จเขาก็ยกจานไปเก็บแล้วขอตัวกลับห้องพักโดยเมคินไม่ทันได้ถามชื่อ
ปกติแล้วเมคินไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่กับผู้ชายคนนี้เขาเห็นแววตาเศร้าๆ นั้นแล้วรู้สึกเห็นใจและอยากทำความรู้จักมากว่าปกติ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ค่อยอยากผูกมิตรกับเขาสักเท่าไหร่
ทานอาหารเสร็จชายหนุ่มก็กลับมาห้องพัก หยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมานั่งดื่มที่ริมระเบียง มองออกไปข้างหน้ามีแต่ความมืด บรรยากาศเงียบสงบจนได้ยินเสียงถอดหายใจมาจากระเบียงห้องพักที่อยู่ถัดไป
พอหันไปมองผ่านระเบียงซึ่งเป็นเพียงระแนงไม้กั้นอยู่ ก็เห็นผู้ชายนัยน์ตาเศร้านั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว ไม่รู้ว่ามีความทุกข์อะไรหนักหนาถึงได้เอาแต่นั่งดื่มคนเดียวอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจ พอกระดกเบียร์ในกระป๋องหมดแล้วเขาก็กลับเข้าห้องอาบน้ำเตรียมเข้านอน
พอหัวถึงหมอนก็เผลอคิดไปว่าอีกคนที่อยู่ผนังห้องติดกันยังนั่งดื่มอยู่หรือเปล่า เขาเปิดประตูระเบียงออกไปดูอีกครั้งก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้ว เมคินจึงกลับมานอน
เป็นคืนแรกเลยก็ว่าได้ที่ชายหนุ่มนอนในห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่มันกลับทำให้เขานอนหลับยาวจนรู้ตัวตื่นอีกทีเพราะแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาตรงระเบียง
เมคินเริ่มต้นวันใหม่อย่างไม่รีบร้อนเพราะหมู่บ้านที่เขาจะไปห่างจากที่นี่เพียงนิดเดียว
จุดรับประทานอาหารเป็นพื้นที่เปิดโล่งรับลมทุกทิศทาง ชายหนุ่มรินกาแฟในเหยือกใส่แก้ว หยิบขนมปังใส่เครื่อง แล้วยืนจิบกาแฟ ทอดสายตาไปข้างหน้า แม้จะสายมากแล้วแต่ก็ยังมีหมอกจางๆ กระจายอยู่รอบๆ
พอขนมปังได้ที่เขาก็หยิบมาวางบนจานก่อนไปหาที่นั่ง ตอนนี้คนอื่นคงออกไปเที่ยวกันหมดแล้วเพราะมองไปยังลานจอดรถก็เห็นแค่รถของตัวเองจอดอยู่แค่คันเดียวเท่านั้น
เมคินได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเรื่องที่เขาอยากให้ชาวบ้านส่งผลผลิตให้กับเขาโดยจะให้ราคาดีกว่าท้องตลาด แต่ผู้ใหญ่บ้านยังไม่ตัดสินใจในตอนนี้เพราะยังเหลือสัญญาเดิมอยู่อีกครึ่งปี แต่เพราะปีนี้ผลผลิตออกมากกว่าทุกปีจึงมีบางส่วนที่ชาวบ้านเอาไปขายกันเองในตลาด หรือบางคนก็ขายให้กับพ่อค้าคนกลางซึ่งกดราคาต่ำกว่าท้องตลาดอย่างมาก อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องการขนส่งเพราะชาวบ้านไม่มีรถ จึงจำเป็นต้องขายในราคาถูก เมคินรับฟังปัญหา พร้อมกับบอกว่าผลผลิตที่เกินมาเขาจะรับซื้อทั้งหมดในราคาที่ทุกคนรับได้ พร้อมทั้งจะให้รถของบริษัทมารับถึงที่ เมคินกับผู้ใหญ่บ้านแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันแล้วชายหนุ่มก็ขอตัวกลับ
พอจัดการธุระเสร็จเขาก็ถือโอกาสไปไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วซึ่งวันนี้มีคนมาเที่ยวสักการะเป็นจำนวนมาก เขาเลยไม่ได้ชื่นชมบรรยากาศอย่างที่คิดไว้ พอไหว้พระเสร็จเมคินเลยตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพเพราะทันที
ชายหนุ่มแวะเติมน้ำมันและเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ขณะกำลังหาขนมขบเคี้ยวเพื่อนไปทานบนรถก็เจอกับผู้ชายนัยน์ตาเศร้าคนเดิม
“กลับแล้วเหรอครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามออกไปแบบนั้น
“ครับ คุณก็คงเหมือนกัน โชคดีนะครับ”
“ครับ”
เมคินขับรถตามเส้นทางเดิมอย่างไม่เร่งรีบเพราะยังมีเวลาพักพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน เขาขับเลนซ้ายมาตลอดแล้วแล้วก็เห็นรถคันหนึ่งจอดเสียอยู่ที่ไหล่ทาง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจจะจอดช่วยเหลือ แต่พอขับผ่านความคิดก็ต้องเปลี่ยน
ชายหนุ่มขับเลยไปแล้วก็วนรถกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะจอดหลังรถคันเดิม แล้วเดินลงมาหา พอยืนเทียบกันแล้วเมคินรู้สึกเลยว่าตัวโตกว่าอีกคนเยอะพอสมควร วัดจากความสูงคนชายคนนั้นน่าจะสูงไม่เกิน 170 เพราะ ต่างจากเขาที่สูงถึง 185 ซม.แต่ก็นับว่าสูงกว่าผู้ชายอีกหลายคน
“ความร้อนขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นหม้อน้ำรั่วครับ”
“ขับต่อไหวไหม” เขาถามอย่างคนไม่มีความรู้
“คงไม่ครับ ผมตามช่างแล้ว”
“อีกนานไหมกว่าช่างจะมา คุณไปรอในรถผมก่อนก็ได้ รอตรงนี้เดี๋ยวได้เป็นลมกันพอดี”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รบกวนคุณดีกว่า”
“เอาน่าคุณ ผมไม่ได้รีบไปไหน แล้วถ้าเกิดรถคุณซ่อมไม่เสร็จจะทำยังไง จะโบกรถเข้ากรุงเทพเหรอ คุณคิดว่าคนอื่นจะไว้ใจให้คุณ นั่งรถไปด้วยเหรอ”
“แล้วผมไว้ใจคุณได้ใช่ไหม”
“โธ่คุณ เราเคยเจอกันมาแล้วตั้งหลายครั้ง ถ้าไม่ไว้ใจผมแล้วคุณจะหาคนไว้ใจจากไหนได้” เมคินไม่เคยต้องง้อใครแบบนี้มาก่อน แต่กับผู้ชายคนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น
“แล้วคุณไว้ใจผมเหรอ”
“อืม ผมคิดว่าคุณไว้ใจได้ ไปนั่งรอในรถเถอะ ผมร้อน”