21 ไร้สถานะ
เมคินมองออกไปนอกระเบียงห้องนอน ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดมิด แต่ถ้ามองต่ำลงมาก็จะเห็นแสงไฟระยิบระยับเต็มไปหมด รถลายังคงแล่นอยู่ตามท้องถนน เขามองดูแสงไฟจากรถและตึกรามบ้านช่องอย่างเพลินตา
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นภาพกรุงเทพยามราตรีเช่นนี้ แต่เพราะคำพูดของทิวาทำให้เขารู้สึกดี ภาพที่ชินตาก็กลายเป็นสิ่งสวยงามน่ามอง
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกับทิวานั้นมีความสัมพันธ์แบบไหนเขาเป็นเจ้านายทิวาเป็นลูกน้อง แต่พอกลับมาที่คอนโดเขาก็เหมือนพี่ชาย ทุกอย่างมันยังดูคลุมเครือ แต่เท่าที่ได้ฟังความคิดของทิวาก็ไม่ได้ต่อต้านความรักของเพศเดียวกัน ถ้าจะต้องระบุสถานะให้ชัดเจนคงต้องให้เวลาอีกสักหน่อย
อีกไม่ถึงเดือนก็จะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ เมคินวางแผนจะชวนทิวาไปเที่ยว หวังให้บรรยากาศในการพักผ่อนช่วยให้เขากับชายหนุ่มได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
เพราะเป็นคนพูดไม่เก่งทุกอย่างเลยต้องแสดงออกให้มากกว่าเดิม เมคินหวังว่าอีกคนจะเข้าใจใส่ในสิ่งที่เขาพยายามจะแสดงออกด้วยภาษากาย
เขาตื่นนอนเช้าเหมือนกับทุกวัน เพียงแต่วันนี้ไม่ได้ออกไปวิ่ง เพราะคิดว่าจะไปโรงพยาบาลกับทิวาด้วย
“พี่คินไม่ไปวิ่งเหรอครับ” ทิวาออกมาจากห้องตามเวลาปกติ แต่ทุกครั้งเมคินจะออกไปวิ่งแล้ว
“พี่จะไปโรงพยาบาลกับนายด้วย ไปอาบน้ำสิไม่ต้องทำอาหาร”
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ” ทิวาถามอย่างห่วงใย
“สบายดี พี่แค่อยากไปตรวจสุขภาพประจำปี”
“งั้นพี่รอผมไม่เกิน 10 นาทีนะครับ”
“ไม่ต้องรีบมาก พี่โทรไปจองคิวตรวจไว้แล้วไปถึงเวลาไหนก็ตรวจได้เลย”
ทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลเวลา 7.30 น. เมคินได้ไปตรวจตามโปรแกรมที่เลือกก่อน ส่วนทิวาก็แยกไปตรวจสุขภาพตามโปรแกรมที่บริษัทกำหนด
เขาเดินตามพยาบาลไปยังห้องเจาะเลือด จากนั้นพยาบาลก็ให้เขาเก็บตัวอย่างปัสสาวะ ก่อนจะไปห้อง X-Ray เป็นห้องสุดท้าย พอออกมาเมคินก็นั่งรอยู่แล้ว
“หิวไหม”
“ไม่เท่าไหร่ครับ”
“ไปหาอะไรกินก่อนเข้าบริษัทนะ ส่วนผลตรวจพี่ให้ทางโรงพยาบลาส่งไปที่บริษัทถ้ามีอะไรผิดปกติทางโรงพยาบาลจะแจ้งให้เรามาพบแพทย์อีกครั้ง”
“ครับ”
ทิวาเดินไปยังลานจอดรถแล้วมารับเมคินที่หน้าโรงพยาบาล จากนั้นก็ไปทานอาหารก่อนเข้าบริษัท
เพราะบ่ายนี้บอสไม่มีงานหรือนัดพบกับใครเลขาอย่างทิวาก็เลยมาช่วยงานที่แผนกการตลาดซึ่งปีนี้ได้รับผิดชอบให้วางแผนและเตรียมจัดงานปีใหม่ หน้าที่นี้จะหมุนเวียนไปแต่ละแผนก ทิวาเป็นเลขาและเขาก็ทำงานขึ้นตรงกับบอส ฝ่ายบุคคลจึงให้เขามาช่วยที่แผนกการตลาด
ทิวาช่วยลิสต์รายการการของขวัญสำหรับนำมาจับสลากมอบให้พนักงานทุกคน ซึ่งมีทั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ ทั้งตั๋วเครื่องบิน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เงินสด สร้อยคอทองคำ บอสย้ำกับเขาว่าทุกคนต้องได้รับของขวัญ พอรวบรวมรายชื่อและจำนวนพนักงานแล้วก็ส่งรายละเอียดให้ฝ่ายบัญชี จากนั้นก็ส่งต่อให้ฝ่ายจัดซื้อดำเนินการต่อไป
ทิวาอยู่ที่แผนกการตลาดจนถึงเวลาเลิกงาน พอกลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเองคนอื่นๆ ก็กลับหมดแล้ว
เขาได้ยินเสียงผู้หญิงอยู่ในห้องบอสก็คิดว่าคงเป็นคุณวีณาแต่ดูนาฬิกาแล้วมันเลยเวลาที่เพื่อนร่วมงานต้องไปรับลูกมาแล้วครึ่งชั่วโมง
ชายหนุ่มลังเลว่าจะเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปดีไหม แต่ถ้าบอสกำลังคุยเรื่องส่วนตัวอยู่เขาก็จะดูเป็นคนไม่มีมารยาท
ทิวาเดินวนอยู่เป็นนานก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาสวยคนหนึ่งเดินออกมา
“พี่คินต้องไปให้ได้นะคะ”
“ครับ”
เลขามองตามร่างระหงไปจนสุดตา เขาไม่รู้จักเธอและไม่เคยเห็นเธอมาก่อน หรือเธอคนนี้อาจจะเป็นผู้หญิงของบอส เพียงแค่คิดถึงตรงนี้ทิวาก็รู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกตอนนี้มันเกินขึ้นมาครั้งหนึ่งตอนที่เขารู้ว่าแฟนเก่านอกใจ เพียงแค่ครั้งนี้มันเจ็บกว่านั้น เขายืนนิ่ง
“ทิว เป็นอะไร”
“เปล่าครับบอส”
“เตรียมงานวันนี้เรียบร้อยดีไหม”
“ครับ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยก่อนวันที่ 27 ครับ” เพราะงานปีใหม่จัดขึ้นในคืนวันที่ 29 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
“อืม เย็นนี้กลับคนเดียวได้ไหม”
“ครับ”
เขาไม่รู้ว่าบอสจะไปไหนต่อ แต่ในเมื่อตัวเองเป็นเพียงลูกน้องจึงไม่กล้าถาม ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเพราะผู้หญิงคนเมื่อครู่
“พี่อาจจะกลับดึก ไม่ต้องรอนะ”
“ครับ” ทิวาเก็บของบนโต๊ะเข้าที่ก่อนจะเดินลงลิฟต์ไปด้วยความรู้สึกเหมือนคนอกหัก
เกือบจะเที่ยงคืนแล้วเมคินก็ยังไม่กลับห้อง ทิวาอยากโทรถามว่าเขาจะกลับตอนไหน แต่ไม่รู้จะโทรในฐานะอะไร เพราะตอนนี้เลยเวลางานมาแล้วหรือถ้าจะโทรถามในฐานะเพื่อนร่วมห้องก็ยิ่งไม่สมควรเพราะเมคินก็บอกแล้วว่าคืนนี้เขาจะกลับดึก นั่นหมายถึงยังไงคืนนี้เขาก็จะต้องกลับมา
ทิวานั่งอ่านรายงานของแต่ละแผนกที่ส่งมาให้เมคินซึ่งเขาจะต้องสรุปทุกอย่างเมคินฟังอีกรอบ แต่อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ ไม่ใช่เพราะมันยากหรือรายงานมีปัญหาแต่เพราะเขาเอาแต่คิดถึงผู้ชายอีกคน
ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ทำให้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นยังไม่กลับเพราะเขาไปกับผู้หญิงอีกคน
ผู้ชายกับผู้หญิงเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา หากแต่ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากจิตใจของตัวบุคคล มันไม่มีผิดหรือถูกถ้าหากความรักนั้นจะเกิดขึ้นกับเพศเดียวกันอย่างเช่นที่มันเกิดขึ้นกับทิวาในตอนนี้ เขารู้แล้วว่าความรู้สึกที่มีให้เมคินนั้นมันเรียกว่าความรัก
ทิวาไม่หวังให้อีกฝ่ายรักตอบเพราะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเมคินมีรูปแบบความรักแบบไหน เขาหวังเพียงว่าตัวเองจะได้อยู่ใกล้ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้มันก็เพียงพอแล้ว
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาก็พยายามเปิดใจให้กับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงอยู่บ้าง แต่พอได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุยเขาก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือใจเต้นแรงเลยสักนิด ยิ่งเขาพยายามมันก็ยิ่งไม่มีความสุข สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ให้กับความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เมคิน
ชายหนุ่มยังคงรออีกคนที่โซฟาเพราะอยากเห็นกับตาว่าเขากลับมาแล้วแม้ในใจจะแอบหวั่นๆ ว่าถ้าหากเมคินไม่กลับมาคนเดียวตัวเองจะเสียใจแค่ไหน
ความคิดความสับสนที่ตีกันอยู่ในหัวทำให้ทิวานอนกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก หูก็คอยเงี่ยฟังเสียงเปิดประตูเขารอจนกระทั่งเผลอหลับ
ตกใจตื่นอีกครั้งก็ตอนที่รู้สึกถึงแรงยวบข้างตัว พอลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของเมคินอยู่ใกล้เพียงนิด
“พี่คิน”
“รอพี่อีกแล้วใช่ไหม” เสียงถามอย่างอ่อนโยนไม่มีทีท่าจะดุหรือไม่พอใจ
“ครับ พี่คินไปไหนมาเหนื่อยไหม”
“พี่ไปงานปาร์ตี้สละโสดมาครับ”
“กับผู้หญิงคนนั้นเหรอ เธอสวยดีนะครับ” ทิวาพูดไปตามจริง
“พี่ก็คิดว่าเธอสวย”
“เหมาะกับคนหล่อๆ อย่างพี่”
“ทำไมหล่อต้องคู่กับสวย”
“ก็มันเป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว”
“เพราะมันเป็นแบบนั้นนานแล้วคนก็เลยคิดไปเอง อันที่จริงหล่อกับสวยไม่ต้องคู่กันเหมือนกับชายหญิงที่ไม่จำเป็นต้องคู่กันเสมอไป”
“พี่คินครับ” ทิวาขยับศีรษะมาหนุนตักของเขา
“มีอะไรจะพูดกับพี่ใช่ไหม” มือใหญ่ลูบไปบนศีรษะทุย เขามองตาทิวาที่เต็มไปด้วยความลังเล
“เปล่าครับ” ทิวาเห็นเขาจ้องแบบนั้นเลยไม่กล้าพูดความในใจออกไป
“ไม่มีอะไรจะพูดก็ควรไปนอนได้แล้ว พี่ง่วงมาก”
“แต่พี่คินก็ควรอาบน้ำ ตัวพี่คินมีแต่กลิ่นบุหรี่แล้วก็กลิ่นเหล้า”
“ไม่ชอบเหรอ”
ทิวาลุกขึ้นแล้วส่ายหัวแทนคำตอบก่อนจะเดินเข้าห้องไปด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขาเกือบพูดความในใจออกไปแล้ว แต่ยังโชคดีที่หยุดตัวเองไว้ทัน พอล้มตัวลงนอนก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามเมคินว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
เมคินมองตามหลังทิวาไปด้วยรอยยิ้ม วันนี้ทิวาทำตัวน่ารักเหมือนลูกแมวน้อยขี้อ้อนแล้วเขาก็ชอบลูกแมวน้อยมากเสียด้วย