บท
ตั้งค่า

20 ให้มันเป็นแบบนี้

ทิวายิ้มแก้มปริเมื่อได้รับจดหมายจากฝ่ายบุคคลว่าเขาผ่านการทดลองงาน แม้จะลาป่วยไปสองวันแต่นั่นก็เป็นเหตุจำเป็น จากนี้เขาจะได้เป็นพนักงานประจำและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นจากเดิม จังหวะมันลงตัวมากเพราะเขาเองก็เพิ่งได้รับผลสอบโทอิคเมื่อวาน เขายื่นผลสอบไปที่ฝ่ายบุคคลตั้งแต่เช้านั่นก็เท่ากับว่าเงินเดือนของเขาเดือนหน้าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายพัน

เขาไม่ต้องจ่ายที่พัก ส่วนค่าอาหารบอสก็จะโอนเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ในแต่ละเดือนแทบไม่ได้ใช้เงิน ส่วนเงินที่ติดหนี้เมคินนั้นก็ทยอยจ่ายเดือนละแค่สองพัน

มันดูเหมือนเขาเอาเปรียบบอสในทุกๆ เรื่อง เคยคุยกับเมคินเรื่องค่าที่พักก็หลายครั้ง และจำได้ดีว่าล่าสุดที่พูดเรื่องนี้เมคินไม่คุยกับเขาอยู่ครึ่งวัน

ทิวาไม่ชอบบรรยากาศที่แสนอึดอัดแบบนั้น เพราะนอกจากเพื่อนที่ทำงานแล้วเขาก็ไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ไหนให้คุยด้วยทุกวันเหมือนเมคิน

“ดีใจด้วยนะทิวา” วีณาเข้ามาแสดงความยินดีด้วย

“ผมต้องขอบคุณพี่วีณาที่ช่วยแนะนำและช่วยเหลือผมมาตลอด”

“พี่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเพราะทิวาตั้งใจทำงาน และใส่ใจงานบอสก็เลยให้ผ่านโปร”

“ยังไงก็ต้องขอบคุณอยู่ดี เวลาสามเดือนที่ผ่านผมมาเรียนรู้จากพี่ได้มาก ขอบคุณนะครับ”

วีณายิ้มอย่างใจดี ทิวาเป็นเลขาคนแรกที่ให้ความเคารพและพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเธอ เพราะเลขาคนก่อนๆ ถ้าไม่เอาแต่นั่งแต่งหน้าก็คอยแต่จะเข้าห้องไปประจบเจ้านาย

“พรุ่งนี้อย่าลืมไปตรวจสุขภาพด้วยนะ”

“ผมว่าจะถามอยู่พอดีเลย ผมจำได้ว่าก่อนเริ่มงานก็ตรวจไปแล้วครั้งหนึ่งนี่ผ่านมา 3 เดือนจะต้องตรวจอีกเหรอครับ”

“ใช่ แต่ตรวจไม่เหมือนกันนะ ครั้งแรกตรวจแค่โรคทั่วไป แต่ครั้งนี้ต้องตรวจหลายอย่างเพราะทางบริษัททำประกันสุขภาพให้กับพนักงานทุกคน”

“อ๋อ ผมเข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมคงต้องลาช่วงเช้า ผมขอตัวไปฝ่ายบุคคลก่อนนะครับ”

ชายหนุ่มรีบลงจากลิฟต์ไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อขอลาหยุดแล้วกลับขึ้นมาเพื่อแจ้งบอสอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ก่อนจะเข้าไปขอลาหยุดทิวาก็ดูตารางงานของบอสอีกครั้ง พรุ่งนี้ชายหนุ่มไม่มีประชุมหรือออกไปทำงานที่ไหน เขาคงขับรถมาส่งที่ทำงานจากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปยังโรงพยาบาลที่ฝ่ายบุคคลแจ้งมาในเมล์

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ทิวาเคาะประตูรอให้เจ้าของห้องอนุญาตแล้วก็เปิดเขาไป

“บอสครับ”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ผมจะมาบอกข่าวดี”

“ข่าวดีอะไร เรื่องสอบโทอิคเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ คือฝ่ายบุคคลบอกว่าผมผ่านการทดลองงานแล้ว” น้ำเสียงของคนพูดฟังดูตื่นเต้นและดีใจ เมคินต้องกลั้นยิ้ม เพราะเขารู้เรื่องนี้แล้วและคนเป็น อนุมัติให้ผ่าน

“ดีใจด้วย เซ็นสัญญาหรือยัง”

“ยังครับ ฝ่ายบุคคลบอกว่ารอผลตรวจสุขภาพก่อน พรุ่งนี้ผมขอลางานครึ่งเช้านะครับจะรีบไปตรวจสุขภาพ”

“อืม”

“ผมออกไปนะครับ”

ทิวาอยากเห็นเจ้านายดีใจกับเขาแต่กลับผิดคาดเพราะเจ้านายยังทำหน้านิ่งอย่างเดิม มันทำให้เขารู้สึกผิดหวัง

“เอาแฟ้มกองนั้นออกไปด้วยนะ”

“นั่นมันของพรุ่งนี้นะครับ”

ทิวาแยกแฟ้มไว้อย่างชัดเจนแล้วว่ากองที่เจ้านายบอกนั้นให้เขาเซ็นพรุ่งนี้เพราะช่วงเช้าเขา ไม่มีงานหรือต้องประชุมกับใคร ที่ต้องทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้เขาทำงานหนักจนเกินไปในแต่ละวัน เห็นทีเขาต้องเอาแฟ้มเขามาทีละนิดเสียแล้ว

“ทิวา ไปตามแผ่นที่ใน GPS นะ” บอสหนุ่มออกคำสั่ง ก่อนจะก้มหน้ามองไอแพดประหนึ่งว่ามันเป็นของแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็น

เลขาเหลือบตามองกระจกหลังอย่างหมั่นไส้ วันนี้เจ้านายเอาแต่ก้มหน้า ไม่พูดไม่จาซึ่งปกติแล้วเวลานั่งรถกลับหลังจากเลิกงานเขามักจะถามถึงการทำงานมาตลอด

รถจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งตัวร้านคล้ายกับบ้านเรือนไทยที่ปรับปรุงมาเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก เมคินลงจากรถก่อนจะพยักหน้าให้เขาเดินตามเข้าไป

ทิวาเดินตามพร้อมมองบรรยากาศรอบๆ โต๊ะอาหารแต่ละตัวตั้งอยู่ห่างกันมากกว่าปกติแถมยังมีฉากไม้ระแนงที่ตกแต่งด้วยเถาไม้เลื้อยบดบังสายตาทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดเหมือนกับอยู่ในห้องส่วนตัวตามโรงแรมหรือร้านอาหารใหญ่

เมคินเดินนำเขามายังโต๊ะด้านในสุด เขาเห็นฉัตรภพกับผู้ชายคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีครับพี่คิน” เด็กหนุ่มคนนั้นยกมือไหว้ ทิวาดูแล้วคิดว่าคงอายุน้อยกว่าเขาเพราะยังอยู่ในชุดนักศึกษา

“โทษที ไม่คิดว่ารถจะติดอย่างนี้ มาถึงนานหรือยัง” เมคินนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเด็กหนุ่ม ส่วนทิวานั้นนั่งตรงข้ามกับฉัตร

ภพ

จากนั้นฉัตรภพก็แนะนำให้เขารู้จักกับองศาเด็กหนุ่มชั้นปี 4 ที่เป็นคนรักของเขา

ทิวาไม่แปลกใจเพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยอมรับกับความรักและความสัมพันธ์ได้ทุกรูปแบบ

“มาถึงนานหรือยัง”

“มาถึงก่อนหน้าไม่นาน ยังไม่ได้สั่งอาหารเลย ว่าจะรอเจ้าภาพ” ฉัตรภพมองหน้าทิวาแล้วยิ้ม

“พี่ทิวสั่งเลยสิครับ ผมหิวแล้วนะ”

“พี่เหรอ”

“อ้าวบอสไม่ได้บอกเหรอว่าที่นัดมาทานข้าวไกลขนาดนี้ก็เพราะอยากฉลองให้กับพนักงานคนใหม่”

“ไม่ครับ บอสไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่ให้มาที่ร้าน”

“ขอโทษทีพี่นึกว่าบอกไปแล้วนะ”

เมคินหัวเราะ ก่อนจะบอกว่าวันนี้เขาตั้งใจพาทิวามาฉลองที่ได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำและเลือกร้านนี้เพราะขึ้นชื่อเรื่องอาหารเหนือ

“ขอบคุณนะครับ” ความขุ่นเคืองตลอดบ่ายหายไปในพริบตา

“สั่งเลยพี่” องศาที่ไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าคะยั้นคะยอ

ทิวารับเมนูมาดูแล้วสั่งอาหารโดยหันไปถามความเห็นขององศาและฉัตรภพส่วนอีกคนเขาไม่ต้องถาม

ขากลับจากร้านอาหารเมคินเปลี่ยนมาเป็นคนขับเพราะอยากให้ทิวาได้พักบ้าง

“เป็นไงบ้างอาหารเหนือร้านนี้เหมือนที่เคยกินตอนอยู่เชียงใหม่หรือเปล่า”

“เหมือนครับ ขอบคุณนะครับที่พาผมมาเลี้ยง ผมนึกว่าพี่จะไม่ดีใจกับผมเสียอีก”

“พี่ชวนนายมาทำงานด้วยก็ต้องดีใจสิที่นายผ่านโปรแล้ว”

“ก็ผมเห็นพี่ทำหน้านิ่งตลอด”

“หน้าพี่ก็เป็นแบบนี้”

“ไม่ใช่เลย ปกติพี่คิดไม่ได้หน้านิ่งเหมือนวันนี้ ผมว่าพี่แกล้งผม”

“จะแกล้งทำไม พี่โตแล้วนะ”

“ผมไม่เชื่อหรอก แล้วตอนออกจากบริษัทพี่ก็ไม่คุยกับผม”

“ก็อยากให้นายมีสมาธิขับรถไง”

“เชื่อก็บ้าแล้วล่ะ” ทิวาทำหน้ามุ่ยเพราะความขี้แกล้งของอีกคน

“เชื่อสักนิดก็ดีนะ” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์

“พี่คิน ผมได้ผ่านโปรแล้วขอจ่ายเพิ่มเป็นสามพันได้ไหม”

“ได้สิ” เมคินยอมอย่างง่ายดายจนทิวาแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะมันเป็นผลดีกับเขา

“ทิว คิดยังไงกับแฟนของภพ” อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง

“ผมไม่เข้าใจคำถามครับ องศาเป็นแฟนพี่ภพแต่พี่ถามผมว่าคิดยังไงกับองศา”

“โทษทีพี่คงถามผิด พี่อยากถามว่าทิวคิดยังไงกับความรักแบบนั้น”

“ความรักมันก็คือความรัก มันไม่มีรูปแบบตายตัว ถ้าพี่ภพมีความสุข องศามีความสุขก็พอแล้วมั้งครับ”

“คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

“ครับ จะคิดมากทำไม”

“แล้วความรักของทิวเป็นแบบไหน” คนถามจับพวงมาลัยแน่นอยากรู้คำตอบ

“ไม่รู้สิครับ”

“พี่เห็นที่บริษัทมรสาวๆ หลายคนที่สนใจทิว มีคนไหนถูกใจบ้างหรือเปล่า บริษัทไม่ได้ห้ามถ้าพนักงานจะคบหากัน แต่ก็ต้องไม่มีผลกระทบกับงานด้วย”

“ไม่มีครับ”

“ไม่คิดจะมาแฟนใหม่บ้างเหรอ”

“ผมว่าตอนนี้ผมมีความสุขดีแล้ว เลยไม่อยากหาเรื่องปวดหัวแล้วพี่คินล่ะครับ”

พอถูกเขาย้อนถามเมคินก็ทำหน้าไม่ถูก

“ทิวบอกเองนี่ ว่าอยู่แบบนี้มีความสุขแล้ว พี่จะมีแฟนทำไม”

“อย่าเลียนแบบคำพูดผมสิครับ แต่ถ้าพี่คินมีแฟนต้องรีบบอกผมก่อนนะจะได้ทำใจ”

“จะทำใจเรื่องอะไร” ถามออกไปใจก็เต้นแรงรอฟังคำตอบ

"ก็ถ้าพี่มีแฟน ผมก็คงต้องย้ายออก แต่พี่ต้องบอกล่วงหน้านะ ครับผมจะได้หาที่พักทัน” เขาพูดแล้วก็ใจหายถ้าวันนั้นมาถึงเขาจะทำใจย้ายออกไปได้จริงๆ หรือ

“ถ้าพี่ไม่มีแฟน ทิวจะอยู่กับพี่ตลอดไปเลยไหมล่ะ”

“พี่จะให้ผมอยู่ตลอดไปจริงนะ”

“จริงสิ”

“ไม่เปลี่ยนใจแน่นนะ”

“ไม่เปลี่ยนใจ แต่ถ้าทิวมีแฟนแล้วจะย้ายออกพี่ก็ไม่ว่าอะไร”

“ผมอยู่กับพี่ผมมีความสุข ผมไม่มีทางย้ายไปอยู่ที่ไหนนอกจากพี่จะไล่ผมไปที่อื่น”

“เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นหรอก จริงไหม” เขาหันมาถาม

ทิวาพยักหน้าแล้ว ยิ้ม เขาไม่รู้ว่าระหว่างเขากับบอสมีความสัมพันธ์กับแบบไหน รู้แค่ว่าตอนนี้ตัวเองมีความสุขและบอสเองก็มีความสุขมันก็พอแล้ว

“พรุ่งนี้ต้องตรวจเลือดหลายอย่าง คืนนี้นายรีบนอนนะ พี่ก็คงรีบนอนเหมือนกัน แล้วตอนเช้าก็อย่าเผลอกินอะไรเข้าไปล่ะ” เมคินบอกขณะที่เดินถึงห้อง

“ขอบคุณครับที่เตือน แล้วพี่คิดจะกินอะไรมื้อเช้า ผมทำแซนด์วิชให้นะ”

“อือ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel