15 คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก
พอเห็นข้อความที่เด้งเข้าแบบรัวๆ เมคินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูโดยไม่ได้เข้าไปในแอปพลิเคชัน จากที่คิดจะอยู่ให้ห่างเพราะกลัวใจตัวเองก็ต้องเปลี่ยนความคิด ชายหนุ่มรีบขับรถออกจากบ้านทั้งที่ยังสวมชุดนอนอยู่
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเมคินก็มาถึงห้องนอนของตัวเอง เขาเปิดประตูเข้าไปเงียบๆ ไฟยังคงเปิดอยู่แล้วก็สะดุดตากับร่างของทิวาที่หลับอยู่บนโซฟา ในมือของเขายังถือโทรศัพท์อยู่ เมคินรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ทิวาต้องมารอแบบนี้ ถ้าเขาโทรบอกก่อนชายหนุ่มก็คงไม่ต้องมาหลับอยู่บนโซฟา
“ทิว ทิว” เขาเรียกเบา เพราะกลัวอีกคนจะตกใจ
“อืม พี่คินกลับมาแล้วเหรอครับ”
“กลับมาแล้ว ไปนอนในห้องเถอะ นอนตรงนี้เดี๋ยวได้เมื่อยกันพอดี”
ทิวาลุกขึ้นเขาขยี้ตาและมองหน้าเมคินที่นั่งลงข้างเขาอีกครั้ง
“ใช่พี่คินจริงๆด้วย”
“ถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะใคร” เมคินยิ้ม
“พี่คิน ผมขอโทษ”
เมคินไม่เข้าใจว่าทิวาไปทำอะไรผิดมาถึงได้ทำหน้าแบบนี้
“ไปทำอะไรผิดมา”
“เรื่องเมื่อวาน เรื่องไหน” เมคินคิดไม่ออกเพราะเมื่อวานทุกอย่างก็ปกติดี
“ที่ผมกอดพี่ ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมล้ำเส้น” เขาพูดเสียงอ่อน ส่งสายตาอ้อนวอนอยากให้เขายกโทษให้
“พี่ไม่โกรธทิวเลย”
“แต่วันนี้พี่คินไม่เหมือนเดิม ไม่คุยด้วย ไม่กินข้าวด้วยแล้วก็ไม่กลับห้อง” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเมคินก็ยิ่งรู้สึกผิดเพราะเขาต่างหากที่ควรจะขอโทษคนตรงหน้า
“พี่เครียดเรื่องงาน ไม่เกี่ยวกับนายเลย แล้วเย็นนี้พี่ก็ไม่คุยกับพ่อที่บ้าน”
“ไม่ได้โกหกใช่ไหมครับ” เขาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ไม่ พี่จะโกหกให้ได้อะไรขึ้นมา”
“แต่พี่ไม่อ่านข้อความผมเลย”
“อ่านสิ ถ้าไม่อ่านพี่จะรีบกลับมาทำไม”
“ก็มันไม่ขึ้นว่าอ่าน”
“ก็อ่านในขณะที่หน้าจอล็อกไง”
“อ๋อ” ทิวาพยักหน้าเข้าใจ
“พี่กลับมาแล้ว นายก็ควรจะไปนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาทำอาหารเช้าให้พี่ไม่ทันนะ”
“ผมไปนอนนะ”
“อือ ไปสิ”
ทิวากลับเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้ม เพราะชุดที่เมคินใส่ดูก็รู้ว่าเป็นชุดนอน คืนนี้เขาคงจะค้างที่บ้าน แต่ได้รับข้อความเลยรีบกลับมาชายหนุ่มรู้สึกหัวใจพองโต
ทิวาเข้าห้องไปแล้วเมคินก็กำลังจะเข้านอน แต่นึกอยากดื่มน้ำ พอเปิดตู้เย็นคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันเพราะในนั้นมีกับข้าวอยู่หลายจาน และดูเหมือนแต่ละจานยังไม่ได้ทานไปเลยสักนิด เขามองนาฬิกาเห็นว่ามันดึกแล้วก็เลยไม่เข้าไปปลุกทิวามาทาน
ปกติแล้วทุกเช้าเมคินต้องออกไปวิ่งก่อนจะกลับมาอาบน้ำและทานอาหารเช้าที่ทิวาเป็นคนทำ แต่วันนี้เขาไม่ได้ออกไปวิ่งเพราะอยากคุยกับทิวก่อนไปทำงาน
เมคินอาบน้ำแต่งตัวแล้วมานั่งดูทิวาที่กำลังตอกไข่ลงกระทะสายตาเขาจ้องจนชายหนุ่มรู้สึกประหม่า
“พี่คินครับ มีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่า”
“เปล่านี่”
“แต่ผมว่ามีนะ”
“แล้วคิดว่าเรื่องอะไรล่ะ”
“ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ” ทิวายกจานไส้กรอกไข่ดาวมาวางตรงหน้าเขา แล้วก็นั่งลง
“เมื่อวานไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม”
ทิวาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบขนมปังขึ้นมาทาแยมลงไปอย่างช้าๆ พยายามควบคุมสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติที่สุด ถ้าเขาไม่รับเมคินก็ไม่มีทางรู้เด็ดขาด แล้วอาหารที่เหลือจากเมื่อคืนเขาก็เอาออกไปทิ้งตั้งแต่เช้า
“พี่คินเอาอะไรมาพูด”
“ทิว” เขาทำเสียงดุ
“ผมรอให้พี่กลับมากินด้วย”
“พี่ขอโทษ เมื่อวานพี่รีบและไม่ได้ได้โทรบอก คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก ถึงเวลากินก็ต้องกิน ถึงเวลานอนก็ต้องนอน”
“พี่ไม่อยู่ผมนอนไม่หลับ”
“ต่อไปพี่จะไม่ไปค้างที่อื่นอีก ถ้าจะค้างก็จะโทรมาบอกก่อน แล้วทำไมเมื่อวานไม่โทรตามพี่” เขาเองก็แอบน้อยใจที่ทิวาไม่โทรหา
“ผมกลัวรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่”
“พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น ถ้าอยากโทรหาก็โทร ตกลงไหม”
“ครับพี่คิน”
“เอาล่ะรีบกินดีกว่าจะได้ไปทำงาน วันนี้พี่มีประชุมเช้าใช่ไหม”
“ครับ ประชุมสิบโมง แล้วตอนเย็นก็ต้องไปงานเลี้ยงนะครับ”
“ทิวไปกับพี่ด้วยนะ”
“คงไม่ได้ครับพี่”
“ทำไมล่ะ ปกตินายก็ไปกับพี่”
“เมื่อวานผมคุยกับคุณเมย์แล้วคุณเมย์บอกว่าจะไปกับพี่คินครับ ส่วนผมว่าจะไปสมัครเรียน”
“พี่นึกว่าจะเรียนออนไลน์”
“ผมคุยกับโรงเรียนแล้วครับ เขาบอกว่าไปเรียนที่โรงเรียนดีกว่าเพราะเป็นพาร์ทของการสนทนา จะได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาอย่างใกล้ชิด”
“ให้พี่ไปส่งไหม”
“ไม่ต้องครับ โรงเรียนอยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้า ผมนั่งรถมาลงที่นั่นพอเรียนเสร็จก็นั่งรถกลับ เรียนแค่เย็นวันจันทร์กับพุธครับ”
“อือ ดีเหมือนกัน ค่าเรียนแพงไหม”
“ก็พอประมาณครับ”
“คำว่าพอประมาณของนายนี่มันเท่าไหร่”
แล้วทิวาก็ให้เขาดูรายละเอียดที่เขาเซฟไว้ในมือถือ เมคินพยักหน้ารับรู้ พอทานเสร็จเขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของทิวามากกว่าค่าเรียนอีกเท่าตัวในขณะที่เจ้าของบัญชีทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่เขาแล้วตัวเองไปเปลี่ยนชุด
การประชุมวันนี้เป็นการประชุมของฝ่ายวางแผนการตลาดทิวาไม่ต้องเข้าประชุมด้วยเขาจึงนั่งจัดแฟ้มเอกสารอย่างไม่เร่งรีบ ทุกแฟ้มเขาจะติดโพสต์-อิตไว้ด้านหน้าเพื่อให้เจ้านายรู้ว่าแฟ้มไหนรีบ แฟ้มไหนรอได้ พอทำงานเสร็จเจ้านายก็ยังไม่ออกจากห้องประชุม ทิวาเลยคิดว่าจะโอนค่าเรียนไปให้โรงเรียนสอนภาษา ตาเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นจำนวนเงินในบัญชี ซึ่งบัญชีนี้เขาก็ไม่เคยบอกใครนอกจากเมคินคนเดียว
ทิวาจดจำนวนเงินนั้นลงบนโทรศัพท์ จากนั้นบวกจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้งแล้วถอนหายใจ เพราะยอดเงินที่เขาเป็นหนี้เมคินนั้นมากขึ้นทุกวัน ถ้าผ่อนใช่ตามที่ชายหนุ่มบอกก็คงต้องทำงานกับเมคินไปอีกหลายปี
การทำงานกับเมคินไม่ได้เลวร้าย เขาเป็นคนตั้งใจทำงานและทุ่มเทกับงานมาก จนบางครั้งก็แอบเป็นห่วงเพราะเขาจริงจังกับทุกอย่างจนเกินไป งานทุกอย่างที่เขารับผิดชอบจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบถ้าใครทำงานไม่ถูกใจหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานเมคินจะไม่โกรธ แต่เขาจะใช้วิธีพูดให้อีกฝ่ายเห็นถึงข้อผิดพลาดและแนะนำแนวทางให้ปรับปรุง
“ทิวา บ่ายนี้พี่ลาครึ่งวันนะ พี่แจ้งฝ่ายบุคคลแล้วแต่ลืมบอกบอส”
“ครับพี่ เอ่อ พี่วีณาครับถ้าผมมีอะไรไม่เข้าใจผมขออนุญาตโทรหาพี่ได้ไหมครับ”
“ได้สิ แต่พี่ว่าทิวาทำงานเก่งขึ้นมากแล้ว บอสยังชมให้พี่ฟังเลยว่าเลขาคนใหม่ทำงานดี”
“จริงเหรอครับ”
“จริงสิ บอสอาจดูหน้านิ่งแต่ใจดีมากนะ และทิวาเป็นคนแรกที่บอสชม”
คำพูดของวีณาทำให้คนฟังยิ้ม เพราะที่ผ่านมาเดือนกว่าเมคินไม่เคยชมเขาเลยสักครั้ง
เกือบจะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วแต่การประชุมยังไม่เสร็จ ทิวาเลยสั่งอาหารจากร้านประจำไปเตรียมให้เขาในห้องทำงาน
เพราะไม่รู้ว่าบอสจะประชุมเสร็จตอนไหนทิวาเลยไม่ได้ลงไปที่โรงอาหาร กลางวันนี้ชายหนุ่มจึงทานคุกกี้เหมือนเมื่อวาน
เกือบบ่ายโมงเมคินก็กลับมายังห้องทำงาน
“บอสครับ บ่ายนี้คุณวีณาของลางานครึ่งวันนะครับ ผมเตรียมอาหารกลางวันให้แล้ว คุณวิชัยจากบริษัทบรรจุภัณฑ์ขอเลื่อนนัดเป็นบ่ายสามครับ” ทิวารายงานอย่างคล่องแคล่วเหมือนทุกครั้ง
“อือ บ่ายนี้ผมไม่รับแขกนะถ้าใครขอเข้าพบให้นัดเป็นวันจันทร์ ยกเว้นเรื่องด่วน”
“ได้ครับบอส”
เพราะเห็นว่าเมคินประชุมมาเหนื่อยทิวาเลยไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เขาโอนเงินให้เมื่อเช้า เดาว่าเจ้านายคงจะจ่ายค่าเรียนให้ แต่จำนวนเงินมันไม่ตรงกับที่เขาต้องจ่าย
เรื่องนี้คงต้องไปคุยกับที่คอนโดเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของบอส
กะเวลาว่าเขาคงทานอาหารเสร็จแล้วทิวาจึงเรียกให้แม่บ้านมาเอาจานไปเก็บ ซึ่งหน้าที่นี้เขาเคยบอกว่าทำได้เองไม่ต้องเรียกแม่บ้าน แต่พี่วีณาบอกว่างานทุกอย่างแบ่งกันทำอย่างชัดเจนแล้ว
คุณวิชัยจากบริษัทบรรจุภัณฑ์มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ทิวารีบพาพวกเขาไปรอที่ห้องประชุมซึ่งฉัตรภพรออยู่ในนั้นก่อนแล้ว จากนั้นก็กลับมาแจ้งเจ้านายอีกที
“ทิวา เตรียมเอกสารเรียบร้อยใช่ไหม”
“ครับบอส”
“ตามคุณภพมาหรือยัง”
“เรียบร้อยครับ คุณภพไปรอที่ห้องประชุมก่อนแล้ว”
เมคินพอใจกับการทำงานของทิวาและฉัตรภพอยู่มาก อย่างเขาไม่ต้องบอกแต่สองคนนั้นก็ทำงานประสานกันได้ดี
พอมาถึงห้องประชุม เมคินก็แนะนำตัวและกล่าวทุกท่านอีกครั้ง แม้จะเคยเจอกันมาบ้างแล้ว แต่ครั้งนี้นับเป็นการร่วมงานกับครั้งแรก เพราะเมคินอยากลองเปลี่ยนรูปแบบของขวดเครื่องดื่มให้ดูทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้น มีหลายบริษัทที่ส่งแบบมานำเสนอ แต่สุดท้ายเมคินก็ตอบตกลงเลือกบริษัทของวิชัยแม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็กแต่เขาก็ชอบวิสัยทัศน์ในการทำงาน รวมถึงอยากให้โอกาสบริษัทขนาดเล็กด้วย
เมคินนั่งทำงานต่อจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องไปงานเลี้ยงกับพี่สาว ส่วนทิวานั้นกลับไปก่อนแล้ว แต่เขาก็กำชับว่าชายหนุ่มจะต้องทานอาหารเย็นเพราะเขาเองก็คงจะทานมาจากงานเลี้ยง