16 รู้ว่ามีคนรอ
เมคินไปส่งเมลดาที่บ้านพี่เขยจากนั้นก็รีบกลับที่คอนโดในเวลาเกือบเที่ยงคืน
“พี่คิน เหนื่อยไหม” เสียงทักทายดังขึ้นตั้งแต่เขายังไม่ทันปิดประตูด้วยซ้ำ ทิวาเดินมารับกระเป๋าไปเก็บ
“อือ ดึกแล้วทำไม่ยังไม่นอน”
“ผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยครับ” ทิวาอ่านหนังสือจริง แต่แค่ไม่กี่หน้าเพราะเอาแต่พะวงว่าอีกคนจะกลับมาตอนไหน
ทิวาเดินไปรินน้ำส่งให้เมคินก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา
“เริ่มเรียนจริงเมื่อไหร่”
“จันทร์นี้แล้วครับ เรียนหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม พี่คินกลับคอนโดเองได้ใช่ไหมครับ” พอถามออกไปแล้วก็หัวเราะเพราะนั้นควรเป็นคำพูดของเมคินมากกว่า
“ผมคิดว่าพี่คิดจะค้างที่บ้าน” เพราะรู้ว่าเขาต้องไปส่งคุณเมลดาที่บ้านสามีแล้วบ้านหลังนั้นก็อยู่หมู่บ้านเดียวกับบ้านของเขา
“พี่รู้ว่ามีคนรอ”
“ผมไม่ได้รอนะ” ทิวารีบแก้ตัว พอเขาพูดจี้จุดอย่างนี้เรื่องที่คิดจะคุยก็เลยลืมไปหมด
“อ้าวเหรอ พี่คงเข้าใจผิดไปเอง”
“ก็คงอย่างนั้นแหละ ผมจะรอพี่ทำไม ตัวไม่ได้ติดกันสักหน่อย ผมไปนอนนะ พี่คินก็รีบเข้านอนนะครับ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลังจากส่งพี่สาวเสร็จเขาก็คงกลับไปนอนที่บ้านเพราะมันดึกมากแล้ว แต่ที่ขับรถกลับมาที่คอนโดเพราะคิดว่าทิวาจะรอเขาอยู่ ตอนที่กำลังจะเปิดประตูเข้ามาเขาก็แอบลุ่นว่าจะเห็นชายหนุ่มอีกคนรอเขาอยู่ไหม แล้วทิวาไม่ทำให้เขาผิดหวัง
การกลับมาที่ห้องแล้วมีคนรออยู่ มีคนถามว่าเหนื่อยไหมมันทำให้เมคินความรู้สึกดีและมันคงจะดีมากถ้าในอนาคตทิวาจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป
เวลาเลิกงานตามปกติของบริษัทคือห้าโมงเย็น แต่ทุกวันเมคินมักจะทำงานถึงหกโมงโดยมีเลขารอกลับพร้อมกัน แต่วันนี้ทิวาบอกกับเขาว่าจะต้องไปเรียนเวลาหกโมงจึงขอกลับก่อน เพราะเป็นวันแรก เขายังกะเวลาเดินทางไม่ได้
เมคินนั่งทำงานต่อเพราะไม่รู้จะไปไหน จนกระทั่งหนึ่งทุ่ม ชายหนุ่มจึงเตรียมตัวกลับ
ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาจอดอยู่หน้าโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ
อาคารขนาดหนึ่งคูหาตั้งอยู่บนถนนย่านธุรกิจ ค่าเช่าคงแพงมาก เมคินคิดในใจ เพราะเขาเองก็มีตึกแบบนี้ให้เช่าซึ่งอยู่ถัดไปอีกซอย
เวลา 20.15 ชายหนุ่มก็ส่งข้อความไปทางไลน์เพื่อถามเลขาเพราะเห็นว่าเลยเวลาเลิกเรียนแล้วแต่เขาไม่ออกมาสักที
ยังไม่ทันขึ้นว่าอ่าน ประตูรถอีกฝั่งก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของทิวา
“ขอบคุณครับ” เขาดีใจที่เห็นเมคินมารอรับไม่ใช่เพราะขี้เกียจนั่งรถไฟฟ้ากลับเองแต่ดีใจเพราะไม่คิดว่าเจ้านายจะจำได้ว่าเขาเรียนที่ไหน
“สนุกไหม”
“ก็ดีครับ ทิชเชอร์บอกว่าผมต้องปรับเรื่องสำเนียงอีกเยอะ ส่วนเรื่องอื่นไม่มีปัญหาครับ” เขาบอกอย่างภูมิใจ
“ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเรียนหลายคอร์ส” เพราะถ้าทิวาเรียนหลายคอร์สเขาก็ต้องกลับคอนโดคนเดียว แต่ก่อนก็ไม่เคยมีปัญญากับการอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้เขาไม่ชอบเลยที่ต้องอยู่คนเดียว ทานข้าวคนเดียว หรือไปไหนคนเดียว
“ผมก็ว่าดีครับ ถ้าต้องเรียนหลายคอร์สคงได้ใช้หนี้หัวโตเลย ผมจะถามอยู่พอดีเลยว่าทำไมถึงโอนเงินค่าเรียนเกินมาตั้งเยอะ”
“ก็ค่าเดินทางไง”
“ค่ารถฟ้าแค่กี่บาทเองแล้วตอนกลับพี่ก็ยังมารับผมอีก”
“เอาน่าอย่าคิดมาก” เมคินหัวเราะก่อนจะออกรถ
“พี่คินทานอะไรมาหรือยังครับ”
“ยังเลย นายหิวหรือยัง”
“นิดหน่อยครับ ไปร้านเดิมไหม ผมจะสั่งอาหารรอ หรือจะซื้อไปกินที่คอนโดครับ”
“กินที่ร้านเลยก็ได้ ไปถึงจะได้รับพักผ่อน”
ทิวาโทรศัพท์ไปสั่งอาหารโดยไม่ต้องถามว่าคนข้างๆ จะทานอะไร เพราะรู้ดีว่าบอสนั้นชอบหรือไม่ชอบอาหารแบบไหน
กลับถึงห้องก็เกือบสี่ทุ่มทั้งสองแยกย้ายกันไปคนละห้อง แต่พออาบน้ำเสร็จเมคินก็เดินมาเคาะประตูห้องนอนของทิวา
“รอแป๊บนะครับ” ทิวารีบใส่เสื้อนอนก่อนจะไปเปิดประตูให้
“วันนี้นายอาบน้ำนานกว่าปกติ”
“ไม่นะ ผมอาบเสร็จแล้วแต่เป่าผมอยู่ต่างหาก พี่คิดจะทำงานเหรอ”
“ว่าจะตรวจงานอีกนิดหน่อย ง่วงก็นอนก่อนเลย”
“ยังไม่ง่วงครับ ว่าจะดูหลังสักเรื่อง”
“อารมณ์ไหนเนี่ยถึงจะดูหนังตอนนี้”
“ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่ แต่ทิชเชอร์แนะนำให้ดู จะได้ฟังสำเนียงไปด้วย”
“ดูจอเล็กแบบนั้นจะไหวเหรอ”
“ไหวครับ ถ้าง่วงผมจะได้นอนเลย พี่คินครับ ผมรบกวนอะไรหน่อยได้ไหม”
“อือ ว่ามา”
“ถ้าผมหลับรบกวนพี่ปิดไฟให้ด้วยนะครับ”
“อืม พี่เดาได้เลยว่าไม่เกิน 10 นาทีต้องมีคนหลับแน่”
เมคินพูดพร้อมหัวเราะ แต่เพราะทิวาใส่หูฟังไปแล้วเขาจึงไม่ได้ยิน
ชายหนุ่มนั่งทำงานไปได้พักใหญ่ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นทิวาหลับไปแล้ว ใบหน้าของทิวาดูเหมือนพระเอกเกาหลีและจีนบวกกัน คิ้วเข้มพอประมาณ ริมฝีปากหยักออกสีชมพูนิดๆ เหมือนกับผู้ชายทั่วไป จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ขายาวแต่ไม่ถึงกับเก้งก้าง เขาไม่ได้ผอมบางบางอย่างคู่นอนคนล่าสุด ผิวขาวแต่ไม่ถึงกับซีด หุ่นแบบนี้ หน้าตาแบบนี้คงหาแฟนได้ไม่ยาก แต่เท่าที่รู้ทิวาเคยมีแฟนแค่คนเดียว ซึ่งถ้าเทียบกับอายุ 25 ปีแล้วถือว่าประสบการณ์ในเรื่องความรักของเขาดูน้อยไปสักนิดเมื่อเทียบกับตัวเอง
เมคินคิดว่าคงจะไม่ยากจนเกินไปถ้าเขาจะทำให้คนให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างทิวายอมให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จากนี้คงต้องแสดงออกให้มากขึ้น เพื่อให้ทิวารู้ว่าเขาคิดยังไง ครั้งจะพูดตรงๆ ก็กลัวอีกคนจะตกใจจนหนีหาย
เขาปิดโคมไฟที่โต๊ะทำงาน เดินมาหยิบแอร์พอร์ตออกจากหู ดึงไอแพดออกจากมืออย่างเบาที่สุด วางไว้ข้างเตียง ก่อนจะห่มผ้าให้เขาแล้วปิดไฟเดินออกจากห้องไป
ถ้าเพียงเขาหันกลับมามองสักนิดก็จะเห็นว่าที่จริงแล้วทิวาไม่ได้หลับ เขานอนฟังเสียงและหลับตา แอบมองหน้าบอสหนุ่มเป็นระยะ พอเห็นว่าเขาเปิดไฟที่โต๊ะทำงานก็เลยแกล้งหลับ เพราะอยากรู้ว่าเมคินจะปิดไฟให้ตามที่บอกไหม
แต่สิ่งที่บอสหนุ่มทำมันเกินจากที่คาดไว้ และนั้นทำให้เขาใจเต้นแรง เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ให้บอสเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ว่าอยากอยู่ใกล้ อยากพูดคุย อยากเห็นเขาเป็นคนสุดท้ายก่อนนอนและเห็นเป็นคนแรกในเวลาตื่น ไม่จำเป็นต้องบอกความรู้สึกในใจออกไป ตราบใดที่ยังได้ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดเดียวกันแบบนี้เขาก็มีความสุขมากเกินพอ
ทิวารู้ดีว่าความสัมพันธ์ในสังคมนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ที่ไม่รู้คือบอสของเขามีความสัมพันธ์กับใคร แบบไหน เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับเมคิน เขาก็ไม่เคยเห็นชายหนุ่มคบหาใครหรือออกไปเที่ยวกับใคร ที่เห็นสนิทที่สุดก็คงจะเป็นฉัตรภพที่ปรึกษาทางกฎหมายซึ่งฉัตรภพบอกเขาว่าตัวเองนั้นมีแฟนแล้ว
ถ้าหากเมคินจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดโดยไม่มีแฟน คนที่จะดีใจและมีความสุขที่สุดก็คงเป็นเขา ทิวาคิดเข้าข้างตัวเองแล้วยิ้ม
และนี่เป็นอีกคืนที่เขาหลับอย่างสบายใจ