14 ก็พี่ตัวอุ่น
มือที่พาดอยู่บนพนักโซฟาขยับลงมาบนไหล่ลูบเบาๆ คล้ายกำลังปลอบประโลม จมูกโด่งกดลงบนเส้นผม สูดดมความหอมอย่างไม่อาจห้าม
ทิวารู้สึกได้ว่าเมคินหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ต่างจากหัวใจตัวเองที่มันก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ทิว ดึกแล้วนายจะกอดพี่ไปถึงเช้าเลยหรือไง” เมคินคงทนอยู่แบบนี้ได้มานานเพราะรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นทีละนิด
“ก็พี่คินตัวอุ่น” ทิวตอบก่อนจะรีบถอยออก
“ไหนว่าอุ่นไง ไม่กอดต่อแล้วเหรอ” เขาเห็นทิวาหน้าแดงไปจนถึงหูก็อดแกล้งไม่ได้
“ไม่ดีกว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องรีบตื่น อ้อ พี่คิน ผมเปลี่ยนใจแล้วนะ พรุ่งนี้พี่ไปวิ่งคนเดียวเถอะ ผมจะทำข้าวต้มกุ้ง ฝากพี่ซื้อน้ำส้มคั้นมาด้วยนะครับ เอาขวดเล็กสองขวด ร้านที่ 2 นับจากทางเข้านะครับ”
พูดจบก็วิ่งเขาไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
เมคินอดยิ้มไม่ได้ ตั้งแต่ทิวามาอยู่ด้วยเขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มบ่อยขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้น ในทุกๆ วันเขาจะออกไปทำงานและกลับคอนโดพร้อมกับทิวา จากที่เคยออกไปดื่มกับเพื่อนบ้างออกไปหาความสุขให้ตัวเองบ้าง ระยะเวลาเดือนว่าเขาไม่เคยได้ปลดปล่อยพลังทางเพศแต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขได้อย่างประหลาด
แต่วันนี้เขาคงทนต่อไปไม่ได้ เพราะการได้ใกล้ชิดกับทิวา ได้กลิ่นการหอมๆ ของชายหนุ่ม มันกระตุ้นความรู้สึกในกายของเขาจนร้อนรุ่มไปหมด ถ้าเมื่อสักครู่ทิวายังกอดต่ออีกสักนิดเขาคงได้ทำอะไรที่มันเหมาะสมออกไปแน่
“ฟู่ว..”
เมคินถอนหายใจแล้วเดินเข้าห้องนอนตัวเอง ถอดชุดออกแล้วรีบอาบน้ำเพื่อดับความร้อนในกาย
แต่ยิ่งโดนกระแสน้ำกระเซ็นโดนจุดอ่อนไหวความเป็นชายก็แข็งตัวอย่างห้ามไม่อยู่
แล้วสองมือกอบกุมความเป็นชายไว้หลวมๆ ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะก่อน ทำซ้ำไปซ้ำมาจนปวดร้าว และเร่งความเร็วขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าและกลิ่นกายของคนที่อยู่ในอ้อมกอด ใบหน้าและลำคอแดงซ่าน เหงื่อผุดขึ้นเต็มไปหมด ลมหายใจหอบถี่กระชั้นขึ้น พลันก็เกิดเสียงครางในลำคออย่างสุขสม แก่นกายกระตุกพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาจนเปื้อนไปทั่วพื้นห้องน้ำ
เมคินหอบเหนื่อยอย่างรุนแรง ไม่เคยมีครั้งไหนที่มอบความสุขให้กับตัวเองแล้วรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนคงเป็นเพราะเขาจินตนาการถึงอีกคนอยู่ตลอดเวลา
เพราะเมื่อคืนเมคินไม่ซื่อกับเลขาของตัวเอง ตลอดช่วงเช้าเขาจึงไม่ได้เรียกทิวาเข้ามาในห้องเลยสักครั้งแม้แต่อาหารกลางวันเขาก็สั่งมาทานในห้อง
“น้องคินไม่ไปทานข้าวเหรอคะ” วีณากลับมาจากโรงอาหารก็ยังเห็นทิวานั่งอยู่ที่เดิม
“ผมยังไม่หิวครับ” ก่อนที่วีณาจะกลับมาเขาทานคุกกี้ที่มุมเครื่องดื่มของพนักงานไปแล้วสองชิ้น แล้วก็กลับมานั่งหน้าห้องอย่างเดิม
ปกติถ้าไม่ออกไปทานอาหารข้างนอกกับเมคินทิวาก็จะลงไปทานอาหารของบริษัท แต่วันนี้เขาไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด สาเหตุก็มาจากคนที่นั่งอยู่ในห้อง
ตั้งแต่เช้าเจ้านายหนุ่มคุยกับเขาแค่ไม่กี่คำ แม้แต่ตอนอยู่ในรถ เมคินก็เอาแต่ก้มหน้าอยู่กับจอไอแพด เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เมคินถึงเปลี่ยนไปเป็นอีกคนแบบนี้ ทิวาคิดว่าอาจเพราะเรื่องที่เขากอดชายหนุ่มเมื่อคืนอย่างแน่นอน จากนี้เขาคงต้องเว้นระยะห่างกับเจ้านายอีกสักนิด เพราะคิดว่าบอสคงไม่ชอบให้เขาใกล้ชิดแบบนั้น
เข็มนาฬิกาเลยเวลาหกโมงเย็นไปแล้วแต่เมคินก็ยังไม่ยอมออกจากห้องคนที่ไม่ได้ทานข้าวกลางวันอย่างทิวก็หิวจนแสบท้อง เขาเดินไปหยิบคุกกี้มาทานไปอีกสองชิ้นและคิดว่าถ้าอีกครึ่งชั่วโมงเมคินยังไม่ออกมาเขาคงต้องเข้าไปตาม
ประตูเปิดห้องทำงานเปิดออกทิวายิ้มกว้างแต่เมคินกลับทำหน้าบึ้งจนเขาต้องรีบหุบยิ้ม ความหิวเมื่อครู่หายไปจนหมด เขาไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ในโหมดเย็นชาแบบนี้มาก่อน
“นั่งรถกลับเองได้ไหม ผมจะไปทำธุระ”
“ผมขับรถให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไร” พูดจบก็เดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่หันมามองสักนิด
เป็นครั้งที่ทิวาต้องกลับคอนโดด้วยรถไฟฟ้า แต่มันก็ถูกต้องแล้วเพราะที่ผ่านมาเขาสะดวกสบายจนเคยตัว แต่จากนี้ไปคงต้องปรับตัวเองให้ชินเพราะเมคินคงไม่ใช่คนเดิมที่เขารู้จักต่อไป
ลงจากรถไฟฟ้าทิวาก็เดินต่ออีกนิด เขาผ่านร้านอาหารที่เคยสั่งไปทานกับเมคินบนห้องก็แวะซื้อเมนูโปรดของชายหนุ่ม
ทิวาหาข้อมูลเรื่องเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม พอดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบสองทุ่ม เขารีบเตรียมอาหารใส่จานชาม เพราะถ้าเมคินกลับมาถึงห้องจะได้ทานพร้อมกับเขา แม้จะหิวแค่ไหนแต่ก็อยากรอเมคินก่อน อยากคุยกับเขาอยากขอโทษที่เมื่อวานเผลอทำตัวสนิทกับเขาจนเกินกว่าเจ้านายกับลูกน้อง
เกือบจะเที่ยงคืนแล้วเจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมาทิวเลยเก็บอาหารเข้าตู้เย็น ใจนึกอยากโทรศัพท์ไปถามว่าเขาจะกลับห้องตอนไหนแต่ก็ไม่กล้าเพราะนั่นถือเป็นเรื่องส่วนตัว
ทิวาเอาแต่กังวลเรื่องเมคินจนนอนไม่หลับ ถ้ายังเป็นแบบนี้พรุ่งนี้เขาคงตื่นไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ
แล้วเขาก็ตัดสินใจไลน์ไปถามเพราะมันคงรบกวนน้อยกว่าการโทรศัพท์
Tiwa : พี่คินนอนหรือยังครับ
Tiwa : ค้างที่บ้านเหรอครับ
Tiwa : พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไร ไข่ดาว ไส้กรอกไหม
Tiwa : พี่เป็นอะไรหรือเปล่า
Tiwa : พี่ผมนอนไม่หลับ
ชายหนุ่มส่งข้อความรัวๆ แต่อีกคนก็ยังไม่เปิดอ่าน นั้นยิ่งทำให้ใจเสียมากขึ้นไปอีก ทิวกังวลไปสารพัดกลัวว่าเขาจะเป็นอันตราย ชายหนุ่มออกมานอนรอที่โซฟาเพราะถ้าเขามาถึงจะได้คุยเรื่องเมื่อวานและขอโทษเขาอย่างที่ตั้งใจ
เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เมคิมเมินเฉย จะเรียกว่าน้อยใจก็คงจะถูก อาการแบบนี้มันเคยเกินขึ้นตอนที่เขากับแฟนทะเลาะกันครั้งแรก ความคิดในหัวของทิวาตีกันไปหมดนี่เขาเปลี่ยนใจไปชอบเพศเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วถ้าเมคินรู้จะโกรธไหม จะให้เขาย้ายออกหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเอง
คิดวนไปวนมาอยู่หลายรอบก็ยังไม่ได้ขอสรุปว่าจะบอกเขาไหมหรือจะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้เป็นความลับแล้วใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดเขาแบบนี้ต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายทิวาก็หลับอยู่บนโซฟา